วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

No place like home

ทุกสรรพสิ่งล้วนผ่านมา แล้วก็ผ่านไป เฉกเช่นกับช่วงเวลาดี ๆ ในเซี่ยงไฮ้ นับจากนี้ไปคงเป็นเพียงความทรงจำที่ดี ๆ ณ กาลครั้งหนึ่งในชีวิต
Day 8 Heading home

ลองมาทำ likes – unlikes เซี่ยงไฮ้ดูดีกว่า
Likes


1. อากาศ อันนี้คงเป็นโชควาสนาด้วยค่ะที่ไปในช่วงเวลาที่ไม่หนาวมาก ไม่ร้อนไป แล้วก็ฝนไม่ตกอีกต่างหาก-โปรยปรายวันเดียว บุญพาวาสนาส่งจริง ๆ 55555
2. ตัวเมือง เท่าที่เคยได้ไปเห็นมาด้วยสองตาตัวเอง เซี่ยงไฮ้นับเป็นเมืองหนึ่งที่มีความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนหนทางกว้าง สะอาด ตลอดจนไร้มลภาวะจากรถยนต์ อยากรู้จังทำไมรถเขาไม่มีควันดำ? ทั้ง ๆ ที่บางคันก็ดูสูงอายุอยู่นา

3. ความปลอดภัย ก่อนหน้าที่จะไปเมืองจีน มีภาพติดลบอยู่ในใจว่าต้องระวังกระเป๋าให้ดี เพราะมีขอทาน – พวกล้วงกระเป๋า ไปใหม่ ๆ เนี่ยะกอดกระเป๋าแน่น 555555 แต่พอเที่ยวได้ 2 วัน เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง รปภ. บ้านเกลื่อนไปทุกหัวถนน เลยเกิดความเชื่อมั่นว่าปลอดภัยแน่นอน
4. สีเขียว ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะช่วงนี้หรือเปล่านะคะ แต่สวนสาธารณะนี่น่าเข้าไปเดินมาก ๆ ค่ะ สวย สะอาด แล้วก็เขียวชอุ่มไปหมด ไม่เพียงแต่ในสวน แต่ถนนก็ปลูกต้นเมเปิ้ล กับแปะก้วยตามรายทาง มองไปแล้วสดชื่นมากมาย
5. แสงสี ฉันเป็นคนหนึ่งที่มักหลงใหลแสงสี กลางคืนชอบดูไฟ เซี่ยงไฮ้มีให้ดูจุใจทีเดียว ไม่เฉพาะตึกที่เปิดไฟสวย ๆ แต่ต้นไม้ยังประดับประดาไฟคริสตมาส (เฉพาะถนนบางสายนะคะ) ตอนกลางคืน เป็นเวลาที่น่าเดินเที่ยวเป็นที่สุดค่ะ

ทีนี้มาถึงเรื่องที่ไม่ชอบบ้าง

Unlikes
1. การสื่อสาร ถ้าคุณไม่รู้ภาษาจีนเนี่ยะ ลำบากจริง ๆ ค่ะที่จะใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย ไอ้ที่ฉันต้องปวดหลังทุกวัน ๆ เนี่ยะ ก็เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง เลยหลงทางไปมา แถมเรียกแท็กซี่ไม่ได้อีก
2. Subway แน่นมากค่ะ วันแรกที่มาถึงเนี่ยะก็ฝันร้ายเลย ที่ไม่ชอบเกี่ยวกับรถใต้ดินนอกจากความแน่นเป็นปลากระป๋องแล้ว เขาไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเลยค่ะ อย่างที่เราเจอ ตอนขึ้นรถกลางคืน เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติไม่รับธนบัตร ที่แลกเหรียญก็ไม่มี เคาน์เตอร์ก็ปิด มีเจ้าหน้าที่เฉพาะด่าน x-ray กระเป๋า แล้วคุณจะทำยังไงถ้าสุดท้ายแล้วไม่มีเหรียญจริง ๆ มิต้องเดินกลับโรงแรมหรือไงอ่ะ?
3. อาหาร พูดจริง ๆ นะคะ ไปเซี่ยงไฮ้มา 7 วัน ยังไม่เคยเจอมื้ออาหารที่ประทับใจจริง ๆ สักมื้อเดียวค่ะ แต่ไม่ยักผอม 555555 ทั้ง ๆ ที่กินน้อยเดินเยอะ อาจจะเพราะอาหารเขามัน ๆ เลี่ยน ๆ มั้งคะ
4. น้ำใจ ดูเหมือนคนจีนจะตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยสนใจคนต่างเมืองที่คุยภาษาจีนไม่ได้เท่าไร ไม่เหมือนเมืองไทย คนไทยใช่ว่าจะเก่งภาษานะคะ แต่ถ้ามีต่างชาติมาถามทาง ก็พยายามหาคำตอบให้อย่างดี แต่ที่เซี่ยงไฮ้ เดิน ๆ ไปจะเจอคนใจดีไม่กี่คน แถมไอ้ที่เจอดันบอกทางมั่วให้เดินอ้อมอีก เง้อ~~~
ตบท้ายด้วยข้อดี แต่ไม่เข้าข่าย like คือได้ใช้ขาให้สมกับที่มีขามาไว้เดิน พูดจริง ๆ นะ ตั้งแต่เกิดมา จำได้ว่าไม่เคยใช้ขาในห้วงเวลา 7 วันมากเท่านี้มาก่อนในชีวิต 55555 เหมือนขู่นะ แต่มันเป็นเรื่องจริงอ่ะ เดินทู้กวัน เดินทั้งวันทั้งคืนอีกต่างหาก เวลาปวดหลังมาก ๆ เนี่ยะจะอยากกลับบ้านมาก 555555
เอาเข้าจริงแล้ว บ้านเราก็เป็นสถานที่ ๆ ดีที่สุดในโลกสำหรับเรา ถึงมันจะสกปรกไปบ้าง ไร้ระเบียบไปหน่อย แต่ก็เป็นที่ ๆ เราได้รับความสะดวก และอยากทำอะไรก็ทำได้ อะไรมันจะสำคัญไปกว่าเสรีภาพหรือ? ไม่มี้ ไม่มี
 ตื่นมาก็เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน ต้องไปถึงสนามบินประมาณบ่าย 3-4 โมง เพื่อขึ้นเครื่อง 5 โมงเย็น เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ให้เป็นการช็อปปิ้งก็แล้วกันค่ะ ไม่งั้นเสียชื่อคนไทย อิอิ ไปไหนต้องช็อปปิ้งมันทุกที่
 
พวกหนึ่งเขาเดินช็อปกันก่อนหน้าแล้ว วันนี้จะไปเก็บที่พลาดไป เขาบอกว่าที่ห้างนี้ของถูกดี ฉันไม่ได้สนใจช็อปปิ้งหรอกค่ะ แต่ก็น่ะ ก็ไปดูหน่อยก็ได้ ขึ้น taxi จากคอนโดไป people’s plaza นึกแล้วก็ยั๊วะอู๋ ไหน ๆ ขึ้น taxi มาแล้วทำไมไม่ลงหน้าห้าง ต้องลงแยกหนึ่งแล้วก็เดิน ๆ ๆ หาห้าง เฮ้อ...เดินเอามันจนวันสุดท้ายเลยนะทริปนี้ เบื่อจริง ๆ
ห้างที่ไปชื่อHan city คล้าย ๆ มาบุญครองแหละค่ะ ฉันไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากแว่นตากันแดด กับแว่นสายตา เพราะต่อรองราคาแล้วเขาดันโอเค 5555555 จะไม่เอาก็นะ เดี๋ยวพ่อค้ากังฟูเข้าใส่ แล้วก็เดินไปกินอาหาร เลือกฟาสฟู้ดแล้วนะคะ แต่เป็นฟาสฟู้ดเซี่ยงไฮ้ สั่งไม่เป็น ไม่อร่อยเลยอ่ะ แล้วก็นั่ง taxi กลับไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่คอนโดเพื่อไปแอร์พอร์ตค่ะ หลายคนสงสัย ไหนบอกว่าเรียกแท็กซี่ยากไง ทำไมวันนี้นั่งทั้งวัน 55555 เวลาเรียกรถได้ก็ต่อสายถึงฟิลิปแล้วให้ฟิลิปบอกแท็กซี่ให้ไงคะ เชื่อเถอะว่ามาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ไม่มีล่ามเนี่ย มันระกำจริง ๆ ยิ่งถ้าเพิ่งมาเป็นครั้งแรกก็.....ไร้คำบรรยายค่ะ ขนาดอู๋เขาเคยมาหนหนึ่งแล้ว และมีฟิลิปคอยช่วย ยังได้เดินออกกำลังกายขนาดนี้
นั่งแท็กซี่ไปสนามบิน ใช้เวลานานกว่า maglev มากเลยค่ะ ของแหงอยู่แล้ว maglev 300++ กม./ชม. อ่านในกูเกิ้ลบอกว่าความเร็วสูงสุด 431 กม/ชม ใช้เวลาเพียง 7-8 นาทีเท่านั้นเอง airport link ของเราไม่รู้จะใช้เวลาแค่ไหน
 ระหว่างที่นั่งรอเวลาขึ้นเครื่องบินกัน ก็คุยกับพวกที่ไปหังโจวกันเมื่อวาน เขานั่งรถไฟไปกันเอง เสียค่ารถไฟคนละ 108 หยวน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ห้องน้ำดีมาก ที่เน้นเรื่องห้องน้ำ เพราะเมื่อก่อนเมืองจีนมีชื่อ(และกลิ่น)ขจรขจายมากเรื่องความสกปรกของห้องน้ำ จะเห็นได้ว่าตอนนี้เขาพัฒนาไปเยอะมากจริง ๆ ค่ะ เขาบอกว่าวัดสวยค่ะ มีเจดีย์สูง 10 ชั้น เดินกันหอบแฮ่ก 555555 ฟังถึงตอนนี้แล้วนึกในใจว่าดีที่ไม่ไป สวยยังไงก็เถอะ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากใช้ขาอีกแล้ว
 ในที่สุดเวลาต้องอำลาก็มาถึง ได้นั่งเครื่องการบินไทยที่ชื่อดารารัศมี ที่นั่งกว้างกว่าลำที่นั่งตอนขามาค่ะ แล้วก็โชคดีอีกแล้ว ที่มีที่ว่าง เพราะที่นั่งริมหน้าต่างมี 3 ที่ แต่ว่าง 1 ที่ ได้นั่งหลวม ๆ สบาย ๆ
 
มีข้อสังเกตค่ะ เครื่องบินวิ่งอยู่ในรันเวย์นานมาก ๆ กว่าจะถึงจุดที่จะบินขึ้น ถึงได้เห็นว่าสนามบินนี้ติดมหาสมุทรค่ะ ท่าทางจะใหญ่กว่าสุวรรณภูมินะ (เฉพาะส่วนรันเวย์นะคะ) ขากลับนี่ดีค่ะ เพราะกลับตอนอาทิตย์อัสดง สวยมาก ๆ จนต้องสั่งไวน์มาจิบ 555555 ดัดจริตมากเลยนะ จิบไปดูเมฆ ดูพระอาทิตย์ไป แสนบันเทิงอารมณ์ แม้ว่าแดดจะร้อน ขนาดว่าในเครื่องบินเปิดแอร์ ก็ยังรู้สึกถึงความร้อนแรงของรังสี แต่ฉันก็ปิดหน้าต่างแป๊บเดียว แล้วเปิดใหม่ เพราะอยากถ่ายรูป ถ่ายมันทุกระยะ จับทุกยาตราแห่งสุริยเทพ (555555555) ลองไปชมอัลบั้ม so call heaven ซิคะ แล้วจะรู้ว่าทำไมฉันถึงเพลินกับการถ่ายรูป เพราะมันสวยปานสรวงสวรรค์จริง ๆ เรียกว่าถ้ากำลังถ่าย ๆ อยู่แล้วมีเทวดานางฟ้าบินผ่านมา ฉันก็คงไม่แปลกใจ (แต่ตกใจแทน 555555)

Good Bye Shanghai. I shall return.


ไม่มีความคิดเห็น: