วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Xintiandi ..no facebook in China!

ก่อนจะหมดทริป ขอคุยกันนิดนะคะ ก่อนเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ ก็มุ่งมั่นว่าจะเที่ยวเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ EXPO ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะนำข้อมูลมาเล่าสูกันฟังให้เป็นประโชน์สูงสุดแก่เพื่อน พี่ และน้อง ที่กำลังมีแผนจะไปเที่ยว แต่ด้วยข้อเท็จจริงว่าสังขารหนอ-เสื่อมซะแล้วหนอ แม้ใจจะให้ แต่หลังไม่ร่วมมือ ก็เลยอย่างที่เห็นแหละค่ะ วันต่อ ๆ มาเริ่มเก็บสถานที่ได้น้อยลง การท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ ๆ จริงอยู่ค่ะ เที่ยวกันเองสนุกกว่า และที่สำคัญประหยัดกว่า แต่การมีไกด์บางครั้งก็สะดวก และรู้เรื่องกว่า 55555 อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเตรียมตัวดีพอ ด้วยการหาข้อมูลให้จัด ๆ (แนะนำว่าไปหาในห้อง blue planet ของเวบพันทิพ) เราก็สามารถไปเที่ยวกันเองได้อย่างสนุกสนานทีเดียวค่ะ แต่เรื่องคิวใน expo คงต้องให้ทัวร์จองให้ เห็นเขาบอกว่าถ้ามาเป็นกรุ๊ปเนี่ยะ อาจจะไม่ต้องเสียเวลาเข้าคิวหลายพาวิลเลี่ยนเลย คิดแล้วก็อยากตามนักร้องไปอีกรอบ 55555555

Day 6 – 30 May 2010


นึกว่าเมื่อวานนี้จะได้พักผ่อนเต็มที่ วันนี้จะได้ลุย expo เพราะยังเหลืออีก 1วัน แต่ฟิลิปดันพาชมถนนหลายสาย ความที่เหนื่อย จำชื่อถนนไม่ได้ มีถนนนานจริง (Nanjing) ด้วยค่ะ เขาเรียกว่าถนนคนเดิน ถามว่าสวยไหม-สวยค่ะ น่าเดินไหม? -ก็น่าค่ะ แล้วมีอะไรมั่ง-เอิ่ม...มีร้านค้า กับคน 55555555 (แล้วจะบอกทำไม?)


กลับสู่ปัจจุบันดีกว่า เช้านี้ตื่นสายมากค่ะ จะสังเกตได้ ยิ่งวันยิ่งสาย 5555 เหนื่อยจนไม่ได้ลงไปกินข้าว ห้า....นพพรเนี่ยะนะไม่กินข้าว? 555555 ก็น่ะ...คิดดูเอาละกันค่ะว่ามันเหนื่อยสาหัสขนาดไหน แต่ไม่เชิงไม่กินข้าวหรอกนะคะ เพราะว่ามีแตงกวาที่ยังไม่ได้กินเลย..เอ๊ะ..ไม่ใช่แระ แตงกวาอู๋กินไปเมื่อคืน สรุปว่ายังมีเกาลัดที่กินเหลือจากเมื่อวาน ก็ได้เป็นอาหารเช้าพร้อมกาแฟ อีกอย่างไม่หิวอะไรนักหนาหรอกค่ะ เมื่อคืนกินมาก เรียกว่าเป็น dinner แรกและ dinner เดียวที่ฉันกินเยอะค่ะ


หลังจากอิ่มแล้ว ไม่อิ่มก็ช่วยไม่ได้ เกาลัดหมด 555555 แหมซื้อมาถุงเดียว แถมกินกัน 2 คนตลอดวัน นี่ถ้ามันไม่ยุ่งยากตรงเปลือก หมดไปนานแล้ว


วันนี้เป็นวัน checkout ก็เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า แล้วลงมาเคลียร์บัญชี ก่อนจะฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ออกไปเที่ยว เพราะฟิลิปนัดไว้ว่าจะมาบ่าย 3 ค่ะ ก็ไม่มีเวลาไป expo (เย้...) อะไรจะกลัว expo ขนาดนั้น? 5555555 ระหว่างทำเรื่องเช็คเอ้าท์ เจอคนไทยที่ล็อบบี้ด้วยค่ะ คุณประสงค์ กับเพื่อน เขาเป็นคนทำพาวิลเลี่ยนไทย! ไม่แน่ใจว่าเป็นคนออกแบบ หรือทำงานตามแบบที่ออก หรือทั้งสองอย่าง แต่ที่แน่ ๆ เขาเกี่ยวข้องกับพาวิลเลี่ยนไทยแน่นอน 555555 ทำใจนะคะ เพราะฉันหูตึง เวลาซึมซับข้อมูลเลยมีปัญหานิดหน่อย (นิดหน่อย????) อย่างไรก็ตามคุณประสงค์บอกว่าถ้าจะไปดูพาวิลเลี่ยนไทยน่ะ ไม่ต้องเข้าคิวค่ะ แค่เดินไปที่ทางเข้าที่มียักษ์ 2 ตัวแล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนไทย ก็ได้เข้าแล้วค่ะ


เพราะว่าจะต้องกลับมาโรงแรมก่อนบ่าย 3 เลยต้องเที่ยวใกล้ ๆ ก็นั่งรถไฟไป People’s Square ค่ะ ไปเดินแถว Shanghai museum มีน้องเป็นปัญญาชน ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์หาความรู้เพิ่มรอยหยักในสมอง แต่ฉันออกแนวชอบไร้สาระ ถมรอยหยักให้ตื้น 5555555 ก็เลยบอกว่าขอนั่งเล่นข้างนอกรอละกัน จริง ๆ แล้วเก็บแรงน่ะค่ะ เพราะไม่รู้ว่าเดี๋ยวบ่าย ๆ เย็น ๆ จะต้องเจออะไรอีก


People’s Square จตุรัสประชาชน เป็นย่านของประชาชนค่ะ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม 55555 อืม ๆ นะ ไม่ต้องอธิบายก็ได้ ถ้าจะกระจ่างแบบนี้น่ะ 5555555 ไปถามอากู๋มาได้ความว่าเป็นย่านราชการค่ะ น่าจะคล้ายสนามหลวง ที่มีสถานที่ราชการหลายแห่ง Shanghai Grand Theathre, Shanghai Urban Planning Exhibition Center, etc. ใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมไปที่นี่ค่ะ http://en.wikipedia.org/wiki/People's_Square_(Shanghai) เพราะที่เขาว่า ๆ ไว้เนี่ย ฉันเห็นแต่ตัวตึก ไม่ได้เข้าไปสักแห่ง 555555 กว้างมากนะคะ จริง ๆ มอง ๆ ไปก็ละม้ายแยกอนุสาวรีย์สมรภูมิ แต่มีสวนสาธารณะแทนที่อนุสาวรีย์ แล้วพื้นที่ใหญ่กว่า (มาก ๆ) นอกจากนี้ก็ยังมีพลาซ่าต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ ถามว่าน่าเดินไหม? เอิ่ม - - my legs say NO. 5555555 อาจจะเพราะดูเหมือน ๆ สถานที่ช็อปปิ้งทั่วไปมั้งคะ ฉันไม่ได้ซื้อของ เลยขอเลือกสถานที่ ๆ ดูสวยงาม แปลกตาไปจากเมืองไทยไว้ก่อน แล้วถ้าจะให้เดินจริง ๆ แล้ว ถนนนานจริง กับถนน brandname น่าเดินกว่านะฉันว่า

เมื่ออู๋ออกมาจาก Shanghai Museum แล้ว (ใช้เวลาน้อยกว่าที่ฉันคิด) เขาก็เอารูปมาอวดรูปหนึ่ง เป็นฟอสซิลของ Kitty !! 555555 ใช่แล้วเจ้าแมวคิตตี้การ์ตูนน่ารัก ๆ ของญี่ปุ่นนี่แหละ มิวเซียมที่นี่เขามีอารมณ์ขันแปลก ๆ -*- ตอนนี้ท้องเริ่มร้อง เมื่อเช้ามีแค่เกาลัด สองคนพี่น้องเลยเดินหาร้านอาหาร สงสัยเดินมาผิดทาง แทบไม่เจอร้านอาหารเลย 5555555 แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น ฉันเห็นป้าย Ming Dynasty Restaurant ดูจากความอลังการของการตั้งชื่อแล้ว ท่าทางจะหรู แล้วก็แพงเอาการ แต่ตอนนี้หิว ให้เป็นอาหารฮ่องเต้ก็จะเข้าล่ะ 5555555 เดินดุ่ม ๆ นำหน้าน้องไปผิดวิสัยปกติที่จะเดินงุ่มง่ามเอื่อย ๆ


เก่งมากเลยค่ะนพพร เดินตามป้าย Ming แต่ไปเข้าร้าน Godly 555555แถมยังไม่รู้ตัวแอบเม้าภัตตาคารเขาในใจอีก ร้านแค่นี้ ทำไมทำป้ายซะใหญ่เว่อร์? แถมร้านที่เข้าผิดเนี่ยะ...พอนั่งโต๊ะแล้วถึงได้รู้ว่ามันเป็นร้านเจ 55555 มิน่ามีพระสังคจายให้ไหว้ด้วย ครบสูตร ถือศีลกินเจ เลยแหละ ถึงจะเข้าร้านผิด แต่ก็ด้วยความที่หิว แล้วเห็นคนเยอะ จริง ๆ ต้องรอคิวด้วยน่ะค่ะ คนเต็มร้านเลย ก็เลยมั่นใจว่าอาหารมันต้องอร่อยซิน่า พออีก 1 ชั่วโมงต่อมาต้องวงเล็บไว้ด้วยว่า...(ถ้าสั่งเป็น) 555555 เขามีรูปนะคะ แต่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร 55555 สั่งมา 3 จานน่ะ ตอนแรกดูรูปแล้วนึกว่าติ่มซำ ลืมไปว่ามันเป็นร้านเจ ก็อร่อยดีค่ะ ผักเขียว ๆ อัดเป็นแท่งขึ้นมา กับเต้าหูพะโล้ แต่จานใหญ่ที่อู๋สั่งมาเป็น main dish นี่ซิ อี๋แหยะ 5555555 เป็นถั่วเหลืองเหนียว ๆ หนืด ๆ แบบขนมเต้าส่วนน่ะค่ะ แต่ไม่ราดกะทิ แล้วรสชาติก็เย็นชาสิ้นดี แอบแพงอีกนะจานนี้น่ะ สรุปว่ามื้อกลางวันกินข้าวให้หนักท้องเข้าไว้ กับหมดไป 2จานเว้นจาน main dish เนี่ยะ รับประทานไม่ลงจริง ๆ ค่ะ


กินเสร็จแล้ว อู๋ก็บอกจะไปไหนก็ไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกปวดหลัง เลยบอกว่างั้นฉันกลับโรงแรมก่อน ก็แยกกัน ปรากฏว่าคนที่บอกว่าจะไปไหน ๆ ถึงโรงแรมก่อนคนที่บอกจะ direct กลับโรงแรมเลยซะอีก 55555 เรื่องของเรื่องคือฉันเดินหลง เอาแค่ subway ของ People’s Square ก็งงแล้วค่ะ เพราะมันเป็น junction มีหลายสาย กว่าจะเดินหาสายสีเขียวเจอ ก็เสียเวลาไปเยอะ แถมมองไม่เห็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ลงเลยป้ายไป ต้องนั่งย้อนกลับมาอีก เหอ ๆ


พอมาถึงโรงแรมไม่นาน ฟิลิปก็มารับไปคอนโดเขาค่ะ นั่งรถแท็กซี่ลอดอุโมงค์ไป แอบคิดสงสัยว่าอุโมงค์เนี่ยะมันอยู่ลึกแค่ไหน มันต้องลึกพอสมควรแหละค่ะ เพราะมีเรือผ่านไปมา เรือแต่ละลำก็มหึมา ย่อมมีท้องเรือที่ลึกพอสมควร แล้วก็ระแวงเล็กน้อย ถ้าอุโมงค์แตก จะว่ายขึ้นผิวน้ำไหวไหม? 55555555 เหมือนเข้าป่าถามหาเสือเลยไหมคะ จริง ๆ แล้วมันเป็นนิสัยของนักเขียนที่ต้องคิดต้องมองทุกอย่างในแง่มุมที่ชาวบ้านเขาไม่มองกันน่ะค่ะ


พอเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บเรีบบร้อยแล้ว ก็นั่งวางแผนต่อ จะไปไหนดี เพราะมะรืนนี้ก็จะกลับแล้ว ฉันกวาดตาอย่างเร็วดูในโบรชัวร์ที่หยิบ ๆ จากแหล่งต่าง ๆ สนใจจะไปย่านเมืองโบราณ แต่ฟิลิปบอกว่ามันไม่ได้อยู่ในเซี่ยงไฮ้ อู๋บอกถ้าอยากไปซูโจวให้ตามพวกหนึ่งไปพรุ่งนี้ มีทะเลสาบที่สวยและใหญ่มาก ใหญ่กว่าสวนลุม 3-4 เท่า อืม ไอ้สวยน่ะน่าสน แต่ใหญ่เนี่ยะ...ม่ายล่ะ เพิ่งแบกกระเป๋ามาจากโรงแรม สงสารหลังเต็มที เอาในเซี่ยงไฮ้พอละกัน งวดหน้าถ้าบุญพาวาสนาส่งก็จะไปเที่ยวที่อื่น ๆ ต่อไป ในเมื่อเมืองโบราณแบบจีนไกลไป งั้นไปแบบฝรั่งเศสก็แล้วกัน ฟิลิปบอกว่าจะพาไปคืนนี้ ตอนนี้เดี๋ยวจะพาไปนวด นวด???? จริง ๆ ก็น่าจะดี แต่นึกถึงที่เคยไปนวด ๆ มาในเมืองไทย ต้องร้องให้เขาเพลา ๆ แรงลงไม่ต้องจับส้งจับเส้นฉันหรอก แล้วตอนนี้จะมานวดในเซี่ยงไฮ้ที่คนจีนนวดเนี่ยะนะ เกิดเขานวดแรงจะบอกเขายังไง? แล้วเกิดนวดแล้วเดี้ยงกว่าเดิมล่ะ อีก 2 วันก็กลับบ้านแล้ว ทน ๆ เอาดีกว่า ไว้ไปนวดที่บ้าน


เลยบอกว่าฉันจะไปดูเมืองฝรั่งเศสหรือที่เรียกว่า French Concession ฟิลิปร้องอ๋อ...จะไป สิ้นเทียนดี เหรอ? ฉันคิดในใจ ไม่มีเทียนดี ๆ ใช้แล้วไง ใครจะไปสนใจ เพราะเรามีไฟฟ้าย่ะ


ฟิลิปบอกว่าคนเขาไป Xintiandi กันตอนกลางคืน เพิ่งรู้จากเน็ตตอนกลับมาแล้ว ฟิลิปยังเข้าใจเรื่อง French Concession ผิด จริง ๆ แล้ว Xintiandi เป็นส่วนหนึ่งของ French Concession แต่ก็นะ ถึงเขาจะอยู่เซี่ยงไฮ้มาหลายปี แต่ส่วนใหญ่คงทำแต่งาน อู๋บอกว่านัดกับพวกหนึ่งไว้ว่าจะมากินข้าวกันที่นี่อยู่แล้ว ทำไมตอนนี้ไม่ไปนวดด้วยกันก่อน ฉันเลยบอกว่าไปส่งฉันที่สิ้นเทียนดีดีกว่า ฉันจะไปเดินดูตอนสว่าง ๆ เรื่องของเรื่องคืนกล้องฉันมันถ่ายภาพกลางคืนไม่แจ่ม  ขอโทษ ภาพ xintiandi ที่ถ่ายมาหายไปไหนแล้วไม่รู้ 55555 ไปดูในเน็ตแล้วกันนะคะ เพียบเลย  แค่พิมพ์ว่า xintiandi แล้ว search images ค่ะ


แต่กว่าจะไปถึงก็เย็นแล้ว เก็บภาพไม่ค่อยดีเท่าไร เฮ้อ เลยเดินเล่นเฉย ๆ อย่างที่ฟิลิปบอกแหละค่ะ มันเป็นที่ ๆ คนเขามากินข้าวเย็นกัน แต่ก็มีร้านค้าบ้าง มีบู้ธขายของบ้างเหมือนกัน ไปเดิน ๆ ดูแล้วของแพงกว่าที่ไปซื้อแถว Yuyuan Garden ของอย่างเดียวกันแหละ แพงกว่าเท่าตัว ร้านอาหารก็คงจะแพงไม่น้อย เพราะสถานที่ค่อนข้างหรูหรา เดินไปเดินมาเจอร้านอาหารไทยด้วย ฝรั่งนั่งกันเต็มร้านเลย อาหารไทยตอนนี้เป็นที่นิยมของฝรั่งทั่วโลกมากค่ะ มีเพื่อนอยู่เยอรมันตอนแรกเปิดร้านอาหารจีน ทำท่าจะไปไม่รอด พอเปลี่ยนเมนูเป็นอาหารไทย ขายดีจนต้องขยายร้านค่ะ ตอนนี้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีอยู่ประเทศเยอรมันไปแล้ว


พอมืด อากาศก็หนาวอีกแล้ว ที่จริงฉันคิดไว้ว่าตอนค่ำ ๆ อยากไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจที่หาดไว่ทัน หรือ The Bund เผื่อเจอเจ้าพ่อหล่อ ๆ แบบหล่องปัน 555555ละครเรื่องนี้ไม่เคยดูหรอกค่ะ ตอนที่ฉายฉันยังเรียนอยู่เมกา แต่ก็รู้ว่าเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ดังมาก เพราะเพื่อน ๆ หลายคนเขียนไปคุยว่าติดโจวเหวินฟะกันงอมแงม


แต่ในเมื่อเดี๋ยวพวกเขาจะนัดกันกินข้าวที่ Xintiandi ฉันก็ไม่ควรจะเดินมากโดยไม่จำเป็น เนื่องจากยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง รักษาเนื้อรักษาตัวไว้เข้าหอ เอ๊ยยย ไว้เจอกับพรุ่งนี้ดีกว่า


Xintiandi เดินไม่เท่าไรก็ทั่วแล้วค่ะ แม้มีซอกซอยมุมมืด (แต่ทะลุถึงกันหมด ไม่มีซอยตัน) แต่ฉันก็มั่นใจว่าปลอดภัย เพราะเห็นตำรวจอยู่ตามที่ต่าง ๆ ไม่แน่ใจว่าเขามีมาตรการแบบนี้เป็นมาตรฐานหรือว่าเฉพาะช่วง expo?


สรุปแล้วไม่ได้กินที่ Xintiandi หรอกค่ะ แต่กินที่ไหนนั้นก็ลืมไปแล้ว 555555 เรื่องอาหารเนี่ยะอย่าให้พูดถึงเลยค่ะ พูดแล้วอยากกลับบ้าน เพราะไม่มีอะไรอร่อยโดนใจเหมือนอาหารเมืองไทยเลย


วันนี้เป็นวันนี้ใช้พลังงานน้อยสุดตั้งแต่เดินทางมาเซี่ยงไฮ้ กลับมาถึงคอนโด ก็คุยกันพรุ่งนี้จะเอายังไงต่อไป อู๋บอกว่าจะไปเดิน Expo เพราะเป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่ฉันคำนวณดูแล้ว ไม่น่าจะยากที่จะลองเที่ยวคนเดียว ฉันอยากเดินเล่นชมเมือง แล้วก็ไปนั่งรถลอดอุโมงค์ใต้น้ำ ดูในโบรชัวร์แล้วน่าสนใจดี


จึงตกลงกับอู๋ว่างั้นพรุ่งนี้ต่างคนต่างเที่ยวก็แล้วกัน แล้วตอนเย็นเจอกันที่ The Bund เนื่องจากฉันไม่มีกุญแจห้องเขา แล้วก็ยังจำทางไม่ได้เลย 555555 โอ้ แล้วพรุ่งนี้จะเที่ยวคนเดียวเนี่ยะนะ เอาอะไรคิดฮึ??????






ปล.ยื้มโน้ตบุ้คของฟิลิปเช็คเมล เพิ่งรู้ว่า...อยู่ที่นี่เข้าface book ไม่ได้



ไม่มีความคิดเห็น: