วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Happy Be Me

สุขจริงหนอที่เกิดมาเป็นฉัน

เลยวันเกิดไปสองวัน แต่ด้วยเป็นวันจันทร์ก็ได้นัดกับพี่หนิง ว่าจะไปฉลองวันเกิดกันที่ห้องซ้อมเพลงพร้อมกับบรรดานักร้องที่เกิดเดือนนี้ มีด้วยกันหลายคนเลย แต่ระหว่างนั่งรอป๊ากมารับ พี่ตุ้มก็ skype มา birthday แล้วก็อวยพร ไอ้ฉันก็รู้ทั้งรู้หรอกว่าพี่ตุ้มช่วงนี้งานยุ่งมาก แต่ก็น่ะ..~~ก็ใจมันต้องการจะเจอ~~(เอาเพลงใหม่กว่านี้ได้ไหมอ่อง? เพลงนี้ 20 ปีได้แล้วมั้ง 55555) พอพี่ตุ้มเขาอวยพรมาอย่างดี ฉันก็อ้อนไปว่า.. my wish is to see you soon .... may you grant me this wish? พี่ตุ้มเงียบไปพักใหญ่ (ใหญ่มาก ๆ) จนฉันเห็นลูกแห้วปอกเปลือกพร้อมรับประทานลอยมา



แต่แล้ว...โป๊ะเชะ...มือแสนดีของพี่ตุ้มก็มาปัดเจ้าแห้วกระเด็นไป...ฟิ้ว~~~~ (เสียงแห้วกระเด็นฝ่าอากาศที่ความเร็ว 500 ไมล์ต่อชั่วโมง) พี่ตุ้มบอกว่าวันนี้มากินข้าวกลางวันกัน โอ๊ ๆ ๆ ขีดความสุขพุ่งขึ้นอย่างพรวดพราด ขนาดยังไม่ได้เจอนะนี่ พี่ตุ้มยังใจดีบอกให้เรียกป๊ากมาด้วย แต่ป๊ากเกรงใจเพราะวันนี้พกลูกสาวมากทม. เลยไปส่งฉันที่ออฟฟิศ พี่ตุ้มก็ยังโทรไปตามป๊ากให้พาลูกมากินด้วยกันที่ร้านกลางซอย ข้างรพ.สมิติเวช เป็นพี่ที่น่ารักและใจดีเสมอซิน่า


เดินเข้าร้านอาหาร โอ๊ะ....ที่ไม่ใช่พี่โอ๊ะ 555555 แต่เป็นโอ๊ะ surprise เจอพี่อ้อน!!!! (ที่พวกเราเรียกกันชินปากว่าพี่อ้น มารู้ตอนแก่ ๆ กันแล้วว่าชื่อพี่อ้อน) ไป ๆ มา ๆ มาเลยนั่งกินข้าวด้วยกัน พี่อ้อนพาคุณแม่ทอสีมาโรงพยาบาลค่ะ (นี่ก็ศิษย์วัฒนาฯ แถมเคยเป็นอดีตนายกด้วย) คุย ๆ กันอยู่ พี่หนูภาขาเม้าท์เดินเข้ามา พร้อมกับเพื่อน ซึ่งน่าจะเป็นชาววัฒนาเหมือนกัน ร้านนี้เจ้าของคือแหม่มโคลหรือไงคะเนี่ยะ 555555


เจอพี่อ้อนทั้งที จู่ ๆ เจ้าหูฟังก็เกิดช็อต ดับไป 1 เครื่อง สงสัยกระแสไฟพี่อ้อนแรงสูง 55555 ฉันงี้เซ็งไปเลย เหลือหูพิการ 1 ข้าง ปกติใช้ 2 ข้างก็ฟังจะได้ศัพท์จับมากระเดียดไม่ได้อยู่แล้ว เลยนั่งบื้อ ๆ แต่ปลื้มเพราะได้เจอพี่ตุ้มอีก หลังจากครั้งนั้นก็ 5 เดือนพอดี 3 คนคุยกันใหญ่ มีเอ๋ยนั่งฟัง กับอ่องนั่งฟัง (มั้ง 555555) ก็อยากฟังแต่มันได้ยินไม่เต็มร้อย...ทำไงได้ล่ะค้า ฟังไปฟังมา พี่ตุ้มถามพี่อ้อนว่า..เธอจำได้ไหม น้องอ่องตอนเด็ก ๆ น่ะชอบม้วนไปม้วนมา....พี่อ้อนทำหน้าทบทวนความหลัง 555555 อยากบอกพี่อ้อนว่าถ้ามันลำบากมาก ก็ไม่ต้องรื้อฟื้นความจำก็ได้ค่ะ พี่ตุ้มอ่ะ จริงเล้ย...เปลี่ยนเรื่องคุยเถอะ ก่อนที่ฉันจะม้วนอีก 5555555 อายุ 50 แล้วม้วนเนี่ยะ มันคงกรอบหักแน่ ๆ เลย 555555


สรุปว่าฉันมีความสุขจริง ๆ ค่ะที่ได้เจอพี่ตุ้มอีก แม้ว่าพี่ตุ้มจะงานยุ่ง แต่ก็สละเวลาให้หลายชั่วโมงอยู่ แม้ว่าจะฟังสิ่งที่พี่ตุ้มคุยกับป๊าก กับพี่อ้อนได้ไม่ครบ แต่ฉันก็มีความสุขจริง ๆ พี่ตุ้มเคยสอนว่า..อย่าเอาความสุขของเราไปแขวนไว้กับมนุษย์ (ในที่นี้ก็คือพี่ตุ้ม) แต่ฉันก็อยากบอกว่าความสุขของฉันมันมีได้ง่าย ๆ เพียงได้เห็นคนที่เรารัก ได้ใกล้ชิดคนที่เราคิดถึง ไม่ต้องทั้งวันทั้งคืนและทุกวัน แต่ได้พบกันบ้างในห้วงเวลาหนึ่ง ๆ ถ้าฉันได้เห็นได้รู้ว่าคนที่ฉันรักมีความสบายกายสบายใจ แค่นั้นเอง...ความสุขก็เป็นของฉันแล้ว


กลับจากพี่ตุ้ม ก็ไปห้องซ้อมเพลง ไปกระซิบกิ๊กจ๋อเรื่องพี่ตุ้มทันทีเพื่อให้พี่จ๋อหมั่นไส้ 5555555 ที่จริงป๊ากหมั่นไส้ก่อนอีก เพราะฉันบอกป๊ากตั้งแต่อยู่บนรถแล้วว่า ฉันมีความสุขมากที่ได้เจอพี่ตุ้ม แต่ถึงหมั่นไส้ ป๊ากก็ชื่นชมความสามารถของพี่ตุ้มมาก ถึงขนาดว่าอยากให้ลูกสาวมาฝึกงานกับคนเก่งอย่างพี่ตุ้ม ป๊ากบอกว่าพี่ตุ้มมีทัศนะของคนทำงานที่ดีน่าเรียนรู้ และเลียนแบบเป็นอย่างยิ่ง ว่ายังไงค้าพี่ตุ้ม ต้องการเลขา 3 ภาษาไหมค้า


ที่ห้องซ้อมเพลง (5555 ตะกี้เข้าแล้วเลยออกไปหาพี่ตุ้ม ตอนนี้กลับเข้ามาใหม่) คนมาซ้อมเยอะมากค่ะ เดือนนี้มีคนเกิดเยอะ (ในรอบหลายสิบปีนะคะ 555555) พี่หนิงกับพี่ติ๋งเลยทำเค้กมาคนละก้อน มาฉลองกันสุขสันต์กันทั่วถ้วน คืนนั้นกลับบ้านอย่างมีความสุข แม้กลางคืนก็ยังอุตส่าห์ฝันถึงพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ วัฒนาอีก ในฝันมีพี่ตุ้ม พ่วงด้วยพี่อ้อน 555555 โอ้จอร์จ วอชิงตัน 555555 ฝันว่าพวกเราทำงานกันค่ะ ดูเหมือนจะมีงานเปิดร้านขายของ อาจจะเป็นงานแฟร์ แต่รูปแบบไม่ใช่อย่างปัจจุบันนะคะ เป็นรูปแบบคลาสสิคที่พวกเราคุ้นชินกัน หลาย ๆ คนช่วยกันจัดร้าน สนุกสนานสุขสันต์คนฝันมากเลย 55555555


ตื่นมาพร้อมรอยยิ้ม....แสนจะมีความสุข Happy Be Me!!!!!!! สุขสันต์วันเกิดขึ้นปีที่ 50

ไม่มีความคิดเห็น: