วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Sumalee’s Code

สิ่งที่เห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็น...เสมอไป...





ก่อนที่จะเล่าอะไรให้อ่านกัน วันนี้มาชวนเล่นเกมค่ะ ทายภาพปริศนา...มาทายกันว่าภาพ ๆ นี้....คือรูปอะไร? เจ้าของภาพคือศิษย์อาวุโสผู้ทรงเกียรติของชาวกระโปรงแดง...ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิชค่ะ ฉันอยากให้ผู้อ่านลองมองภาพนี้ แล้วนึกเดาหาคำตอบดูนะคะ อย่าเพิ่งเลื่อนไปอ่านตอนจบ

ในระหว่างที่คิดหาคำตอบ ก็เชิญไปเที่ยวบ้านยุกตะเสวีบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ด้วยกันค่ะ

วันที่พวกเราไปบ้านท่านผู้หญิงฯ เป็นวันแรงงานแห่งชาติ ฉันกับป๊ากไปถึงก่อนใคร พักหลังนี้เราปรับปรุงตัวหลังจากที่โผล่ไปเป็นคนสุดท้ายที่บ้านป้าจี หลัง ๆ เราจึงได้ไปเป็นคนแรก ๆ

ในเมื่อมาถึงเร็ว ฉันก็วิ่งถ่ายรูปไป กินน้ำลำไยที่แสนอร่อยไป ลูกลำไยก็นุ่ม อร่อยไม่น้อย พี่จ๋อมาเป็นคนที่ 2 แล้วพี่แดงก็ตามมาในเวลาไล่เลี่ยกันในภาพลักษณ์ของพจมานไร้เปีย เดินเข้ามาในบ้านทรายทอง 55555 แล้วพี่หน่อยก็ตามมา ปิดท้ายด้วยพี่เจนกับครูวรรณดี


เมื่อครบคณะแล้ว เราถึงได้เข้าไปข้างในบ้านทรายทองอย่างเป็นทางการ สายตาก็ปะทะเข้ากับกระจกทวิภพ!!! เราก็ถ่ายรูปมอบกระเช้าผลไม้อย่างเป็นทางการก่อนไปนั่งคุยกัน ตามเคย...นพพรฟังไม่รู้เรื่อง 5555555 แต่จะลุกไปนั่งใกล้ ๆ ก็นะ มันต้องข้ามหลายคน เลยให้เป็นหน้าที่ของพี่จ๋อ กับป๊ากจดข้อมูลไป เดี๋ยวไปอ่านเอาทีหลังได้ ตอนนี้ขอถ่ายรูปก่อน แชะ ๆ ๆ 5555555 เฮ้อ...แสงน้อยอ่ะ ไม่ชอบใช้แฟรชเลย ก็พยายามเล็ง แล้วเกร็งมือให้นิ่งสุดฤทธิ์ ยังไม่ชัวร์อีก เลยขอกล้องของพี่จ๋อมาเสริม ท่านผู้หญิง ...ก็เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย เล่าไปก็มองหน้าคนฟังไป มีอยู่คนที่เหมือนไม่สนใจฟังเลย เอาแต่นั่งยื่นหน้ายื่นกล้องถ่ายรูปอย่างเดียว สงสัยจะเป็นตากล้องของทีม 555555 ไม่รู้ท่านจะว่ายังไง ถ้าทราบทีหลังว่าฉันมีหน้าที่เขียนบทความครั้งนี้? ที่จริงถ้าไม่มีพี่จ๋อ ไม่มีป๊าก ฉันก็คงเขียนบทความไม่ได้เรื่องหรอกค่ะ เพราะไม่สามารถซึมซับข้อมูลการสนทนามาเพียงพอ

แต่เพราะมี team work ที่ต่างคน ต่างทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี งานเขียนจึงออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ 5555 ชมพวกกันเองซะงั้น

ที่จริงฉันก็จับใจความได้นา.....5555555 ฟังท่านผู้หญิงเล่านู่น เล่านี่ชั่วโมงกว่า 2 ชั่วโมง จับได้เรื่องเดียว...55555 เก่งเนอะ คือเรื่องที่ครูให้นักเรียนปีนต้นไม้ (สมัยฉันไม่เห็นมีใครสอนให้ปีน มีแต่เรียกให้ลงมา -*- ) ท่านผู้หญิงก็ไม่กล้าลง ครูเลยบอกว่างั้นก็อยู่บนนั้นแหละ ฉันจึงได้มีโอกาสร่วมวงสนทนาด้วยคำถามว่า... “แล้วท่านผู้หญิงลงมาได้อย่างไรคะ?” 555555 น่า....แจม 1 ประโยคก็ยังดีน่า

แต่มีอีกเรื่องที่ค้างใจ คือเรื่องของภาพปริศนาที่จั่วหัวเรื่อง แต่ความที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยถามไม่ถนัด ประมาณว่าท่านได้คะแนนภาพวาดเขียน ...0 (ศูนย์) คะแนน....ทั้ง ๆ ที่เป็นเด็กเรียนเก่ง แล้ววิชาวาดเขียนเนี่ยะ...ไม่ว่าจะวาดได้แย่แค่ไหน ก็ไม่ควรได้ 0 อ่ะ คุณครูที่สอนชื่อครูไสวหรือเปล่าคะ ถึงได้ใจร้ายกับเด็กหญิงสุมาลีจัง

ได้จังหวะถามตอนหลังกินข้าวค่ะ แต่จะเล่าถึงมื้อเที่ยงก่อนค่ะ 555555 ชอบพูดเรื่องกิน 5555555 ตอนแรกที่เห็นขนมจีนซาวน้ำแล้วรู้สึกเซ็งจิตเล็กน้อย เนื่องเพราะกินไม่ค่อยเป็น แต่ความที่หิว ก็ตักมาลองชิมดู อ๊า....อร่อยแฮะ 555555555 เลยลุกไปเติม เป็นคนเดียวมั้งที่ลุกไปเติมอีกรอบ 55555555 แต่ก็อุตส่าห์แก้ว่ากินแทนพี่หน่อย กับพี่แดงที่กลับไปก่อน 5555555 น่าเชื่อเนาะ เห็นกินอย่างเอร็ดอร่อยซะขนาดนั้น เปาะเปี๊ยะทอดก็อร่อยค่ะ แต่ไม่ได้กินเกิน 1 ชิ้นเพราะเจ็บคอ กินของทอดมาก ๆ เดี๋ยวไอค่ะ หมดของคาว ท่านผู้หญิงก็เชิญชวนให้กินไอติม มีรสขิง กระท้อน ลูกหว้า...แต่ละชื่อ 5555555 เอากระท้อนไว้ก่อน แล้วก็ชิมรสลูกหว้า กับรสขิงด้วยอย่างละนิด ลูกหว้าฝาดมาก ส่วนรสขิงก็...ไม่ถูกลิ้นไร้สาระ 555555 แต่ป๊ากชอบ

พออิ่มหนำสำราญแล้ว จึงได้จังหวะที่ฉันจะถามสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ พอดีแม่บ้านเอากระดาษดินสอมาอธิบายวิธีการเย็บผ้าหุ้มกล่องทิชชูให้พี่เจน ฉันเลยได้โอกาส ขอยืมกระดาษและปากกาต่อ แล้วส่งให้ท่านผู้หญิง

“ท่านผู้หญิงคะ วาดรูป....ที่ท่านเล่าให้ดูหน่อยค่ะ แบบว่า...หนูนึกภาพไม่ออก”

ซึ่ง...ก็คือภาพที่พูดถึงตอนต้นเรื่องนี่เอง ..... พอท่านวาดเสร็จส่งมา....เอ้อ มันคือดาวินซีโค้ดเหรอคะ 5555555 พอจะเข้าใจครูวาดเขียนแล้ว เพราะครูให้วาด แจกัน ในเวลา 1 ชั่วโมง ท่านผู้หญิงเล็งแล้ว..เล็งอีก คิดคำนวณสเกลด้วยภูมิวิชาคณิตศาสตร์อย่างละเอียด 5555555 แต่มันละเอียดไปหน่อยไหมคะ ถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่เป็นแจกัน ฉันจึงตั้งชื่อภาพนี้ว่า...Sumalee’s Code ซะเลย ดาวินก็ดาวินเหอะ...ชิดซ้าย 55555



วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวละไมไปตามอิสระของหัวใจ

ก็ใจมันแตกซะแล้วนี่

นับจากวันสงกรานต์ที่หยุดยาว ญาติมิตรที่คุ้นเคยต่างก็ออกท่องเที่ยวต่างประเทศบ้าง ต่างจังหวัดบ้าง เหลือเราเฝ้าบ้านอยู่นางเดียว ที่จริงที่บ้านก็ชวนไปพัทยา แต่เกิดอาการเบื่อรถติด เวลาวันหยุดยาวจึงชอบอยู่กรุงเทพมากกว่า

เหมือนอยู่คนเดียวในโลกเลย 5555555 เพื่อนที่คุยเอ็มด้วยก็ไปต่างจังหวัดกันหมด เพื่อนกทม ก็..ไม่ได้นัดเพราะคุยโทรไม่ได้ เลขาที่เคยช่วยคุยให้ก็ไปเที่ยวหมด ไม่มีใครเป็น “หู” ให้ จึงอยู่คนเดียวจริง ๆ แรก ๆ ก็ไปเดินซีคอนค่ะ จนวันหนึ่งรู้สึกเอือมห้างแล้ว เลยคิดว่า อย่ากระนั้นเลย...ไปนั่งรถเล่นเที่ยวกทมดีกว่า ถนนเป็นของเรา 5555555 ว่าแล้วก็คว้าหมวก กระเป๋าตังค์ วิ่งออกไปขึ้นรถเมล์ เลือกคันใหม่ ๆ สะอาด ๆ ขึ้น 5555555 ไม่สนใจว่ามันจะพาไปไหน เลยไปโผล่ปากเกร็ดนู่น แผนการทีแรกกะว่าจะนั่งรถไป แล้วนั่งกลับ ไม่เที่ยว

แต่พอมาถึงปากเกร็ด เอาวะ ไปเที่ยวเกาะเกร็ดหน่อยก็ไม่เลว ก็นั่งเรือข้ามฟากไป 2 บาท แป๊บเดียวถึง ยังนั่งเรือไม่หายอยากเลย สายตาเหลือบไปเห็นมีทัวร์เจ้าพระยา ไปร้านขนม เลยซื้อตั๋วซะเลย แล้วก็นั่งเรือตากแดด เพราะชอบนั่งตรงดาดฟ้าเรือ แต่หน้าไม่ยักดำ แล้วก็ไม่ร้อนด้วยค่ะ ลมตึง ๆ กำลังดี

วันหยุดต่อมาก็เลยไปเที่ยวอีกที ทีนี้มาโผล่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ขึ้นมั่วหลายสายมาก ประมาณว่ายืนรอรถเมล์ พอผ่านมาเห็นว่างก็กระโดดขึ้น แล้วไปกระโดดลงหน้าเอ็มโพเรียมเพราะว่ามันดันสุดสายที่อโศก พอลงเสร็จก็ยืนรอรถอยู่นาน ปล่อยให้ผ่านไปหลายคันอยู่เหมือนกัน เพราะหลายใจ 55555 ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะไปคันไหนดี ในที่สุดก็เอ้า ขึ้นคันใหม่ ๆ เขียนว่าไปเซ็นทรัลปิ่นเกล้า จะได้นั่งนาน ๆ ไปไกล ๆ หน่อย โฮะ พาอ้อมโลก นั่งชมเมืองสมใจนึก 555555

ตอนนี้ก็เริ่มติดใจแล้วค่ะ ว่าวันหยุดต่อไปจะไปที่ ๆ แปลก ๆ ชื่อไม่คุ้นหูสักที เช่นแสมดำ ฯลฯ ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหน เดาว่าคงจะแถว ๆ .....เอ้อ...แถว ๆ แสมดำแระ 5555555 ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่นาว่ามันอยู่ตรงไหน

ถามว่าเที่ยวแบบนี้ได้อะไร ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ ได้แค่ฆ่าเวลาแบบไร้สาระ แต่แสนเสรี ช่วงนี้อยากปลดปล่อยหัวใจ เกิดมาเป็นตัวเป็นตนก็ยังไม่เคยประพฤติเลยนะ ไอ้นั่งรถเที่ยวไปแบบไม่มีแผนล่วงหน้าเนี่ยะ พอได้เที่ยวแบบนี้แล้วรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจดี ก็ขนาดไปคนเดียว ยังไม่รู้ล่วงหน้าเลยว่าจะไปไหน

นี่ก็ตั้งหน้าตั้งตารอวันหยุดแล้วล่ะ อยากเที่ยว ท่าจะใจแตกซะแล้วเรา