วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ฟินไม่เลิกกับการฟังปุ้ยร้องเพลงสด

เพิ่งรู้ว่าบางครั้งเพลงก็ทำให้เราอิ่มทิพย์ได้
เพราะเมื่อคืนปุ้ยบอกว่า..รออ่านบล็อกด้วยคน 55555 เช้านี้เลยปั่นให้ปุ้ยอ่านก่อน เพื่อปรับระดับอารมณ์ให้เป็นปกติจะได้เขียนบทความที่เป็นกลางให้พี่เจน ไม่รู้จะกลางแบบไหน ท่าทางจะออกแนวกลางดวงพรซะละมั้ง 555555
ตื่นเช้ามา 7 โมงเปิด fb ดู โหคนมากด like รูปคู่กับปุ้ย มากกว่า 30 คน สายหน่อยมากกว่า 60 คน โอ้กล้วยปิ้ง 5555 แต่..มากกว่าครึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ สงสัยแฟนคลับปุ้ย เลยไปดูรูปที่ปุ้ยถ่ายกับคนอื่น ๆ ในวันเดียวกัน ก็ไม่เห็นคนกด likeมากมายเท่า เลยสงสัยต่อว่าเด็ก ๆ คงจะกดเพื่อแสดงความเคารพแฟนคลับอาวุโส ~~สวัสดีจ้ะหลาน ๆ 5555
ที่จริงก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปนั่งฟังเพลงปุ้ยสด ๆ อีกในระยะใกล้ เพราะเพิ่งไปฟังที่สวนหลวงร.9 มา แล้วก็รู้สึกเขินที่แก่แล้วยังวิ่งตามฟังเพลงนักร้องคนโปรดยังกับวัยรุ่น แต่พี่เจนมาขอให้เขียนบทความลงวารสาร conice ให้เวลา 5 วัน (ณ วันนี้ก็เหลือ 3 ละยังไมได้เริ่มเลย 55555) ก็บอกพี่เจนไปว่า...ขอเขียนเรื่องปุ้ยได้ไหมคะ พี่เจนตอบมาหลังจากนั่งอึ้งและอาจจะส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยหลายนาทีว่า...น่าจะได้นะ แต่อย่าออกแนวบ้าดารานะ...
โฮะทีพี่เจนกรณีคุณหลวงอ๋อมล่ะคะ? 55555555 อนึ่ง อ่องยังไม่ถึงขนาด crazy ปุ้ยซะหน่อย ที่ crazy จริง ๆ น่ะพี่เก็จค่ะ ปุ้ยเรียกว่า ชื่นชอบ พี่เจนก็เลยแบ่งรับแบ่งสู้ว่าลองเขียนมาดูละกัน แล้วพี่จะบอกว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่....โหย เป็นครั้งแรกที่พี่เจนพูดแบบนี้กับฉันนะนั่น 555555 ปกติเห็นเชื่อมั่นในทุกเรื่องที่ฉันเขียน ตอนนี้ความเชื่อมั่นของพี่เจนหายไปไหนแล้วค้า?
พอดีว่าน้องชายสุดที่รักสั่งให้ช่วยจัดตะกร้าของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้า เลยหาเรื่องไปส่งตะกร้าวันเสาร์ เพื่อจะได้เลยไปฟังเพลงปุ้ยในตอนเย็น เนื่องจากอโศกกับ cw ก็ไม่ไกลกันเท่าไร เสร็จธุระกับน้องชายตั้งแต่ก่อนบ่ายโมง ว่าจะไปเดินหาซื้อหมวกมาทำ decoupage ให้น้อง กับเป้ใช้สักใบ ใบเก่าใช้มานานเต็มทีแล้ว น้องชายแนะนำให้ไปจตุจักร แต่ฉันไพล่ไปลงสยาม เพราะมันร้อนเลยขี้เกียจไปเจเจ ที่จริงกลัวพลาดฟังเพลง 55555
เดินทั่วสยามหาเป้และหมวกถูกใจไม่มี...ราคาก็แพงเกินรับไหว ว่าจะไปมาบุญครองก็ชักเมื่อยแล้ว เลยคิดว่าพรุ่งนี้วันอาทิตย์ค่อยไปเจเจแล้วกัน ว่าแล้วก็บ่ายหน้าสู่ cw เพราะยังไม่แน่ใจว่าปุ้ยจะร้องตรงไหน ฉันมันไม่สันทัดพื้นที่ cw มาเดินนับครั้งได้ มาถึงเวทีล้านนาที่ cw ตั้งแต่บ่าย 3 กำหนดของปุ้ยคือ 5 โมงเย็น จะนั่งรอเลยก็กระไรอยู่นะ 555555 ไม่มีโครงการจะย้ายสำมะโนครัวไปดอยสะเก็ดซะด้วยซิ นึกได้ว่าวันที่ 30 จะนัดพี่เจนมากินตะลิงปลิง เดินหาร้านหน่อยดีกว่า เคยอ่านมาเขาบอกว่า cw ใหญ่มาก อาจจะใช้เวลาร่วมชั่วโมง แต่..ความเป็นจริงคือ 10 นาทีก็เจอแล้ว ทำไมเจอง่ายขนาดนี้? 5555555 แล้วนี่ฉันจะใช้เวลา 2 ชั่วโมงที่เหลือทำอะไรล่ะนั่น?
พยายามทำใจให้สนุกกับ window shopping แต่เดินตั้งนานก็ยังไม่ 5 โมงซะที ชักเหนื่อยแล้ว ไปนั่งจองที่ฟังเพลงดีกว่า 55555555 นั่งรออยู่นาน ปุ้ยก็มา ตอนแรกที่เห็นจำไม่ได้หรอก แต่คิดเหมือนกันคนนี้คล้ายปุ้ยจังนิ อาจจะเป็นพี่น้องเขาหรือเปล่า? ปุ้ยง่วนอยู่กับเครื่องเสียงเพื่อเตรียมการ เราก็นั่งมอง มองไปมองมา ปุ้ยมองสบตามาพอดี ยกมือไหว้ทักทายเหมือนจะพูดว่าสวัสดีค่ะพี่อ่องประมาณนี้ (ถ้าอ่านปากไม่ผิดนะ เพราะนั่งอยู่ระยะห่างเกินกว่าจะได้ยินเสียง) ช็อคเล็กน้อย ตื่นเต้นมากกว่า...ปุ้ยจำชื่อฉันได้ด้วย?!?!? wow 5555555
โปรแกรมเริ่ม late กว่าที่กำหนดไว้ครึ่งชั่วโมง แต่ก็คุ้มค่ามากมาย เพราะวันนี้ปุ้ยเป็นศิลปินเดี่ยวบนเวทีเล็ก ๆ แห่งนี้ ได้ฟังเพลงจุใจมาก ทั้งได้นั่งใกล้ ๆ เสียงก็ชัดไม่กระจายเหมือนตอนไปฟังที่สวนหลวงร.9 เพลงแรกที่ร้องคือลาวดวงเดือน เสียดายที่ปุ้ยร้องแบบ short cut อยากฟังเต็ม ๆ มากกว่า เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงที่โปรดปรานมานานมาก
นานแค่ไหน โปรดปรานมากแค่ไหน ไปถามพี่เก็จดูได้ 555555 ถูกขอให้ดีดเปียโนเพลงนี้เป็นร้อย ๆ รอบแล้ว (แต่คุณพี่ก็ยังคงเส้นคงวาตรงดีดผิด ๆ ถูก ๆ ได้ทุกรอบ 555555)
ร้อง ๆ อยู่เข็มขัดหลุดกระเด็น 55555 นี่ขนาดเห็นบอกว่าไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เช้านะเนี่ยะ 
เพลงที่ฟังแล้วล่องลอยมากที่สุดสำหรับวันนี้ยกให้ลาวคำหอม และรองลงมา..เสน่หา..ฟังแล้วปิติจับขั้วหัวใจ แทบลืมหายใจเลยทีเดียว มันช่าง...จะใช้คำว่าอะไรถึงจะพรรณนาได้อย่างใจ? ฟังมาเป็นร้อย ๆ รอบทั้งทางคลิป ทาง mp3 แต่ขอบอกว่าเสียงสด ๆ ที่ได้ยินนั้น ...ขอเชิญนึกภาพนะคะ นพพรยืนอยู่บนยอดเขา อากาศสุดแสนบริสุทธิ์ อุณหภูมิที่สบายที่สุด สายลมโชยมาเอื่อยอ่อน แล้วนพพรก็สูดอากาศนั้นเข้าเต็มปอด ฮ้า~~~~ ความชื่นใจประมาณนี้เลยค่ะ555555 เขียนมาถึงตรงนี้..เริ่มเห็นใจพี่เจนครามครัน 555555555
เอากล้องขึ้นมาเพื่อถ่าย vdo แต่ถ่ายไปไม่ถึง 15 วิแบตดันหมดซะนี่ เซ็งไปเลย แบตสำรองก็ไม่มี แต่ได้ผูกมิตรกับหนุ่มน้อยข้าง ๆ ไว้ หล่อด้วยนะคะขอบอก 555555 ตอนอยู่ในงานฟังไม่ออกว่าชื่ออะไร แต่กลับมาบ้านรู้ใน fb ว่าชื่อ โซล พอถึงเพลงเสน่หาเพลงโปรด กล้องตัวเองแบตหมดใช่ป่ะ อยากได้คลิปนี้มากสะกิดหนุ่มยิก ๆ ...น้องจ๋า--ถ่ายคลิปดิ  ๆ ... หนุ่มโซลนอกจากหล่อแล้วยังมีน้ำใจ ทำตามแบบ (คง) งงจังตรู ไม่รู้ตัวว่าพี่สาวตามมาจากบ้าน???5555555
อัดคลิปให้ไม่พอ ยังถูกขอให้ช่วยถ่ายรูปคู่กับปุ้ยอีกด้วยนะ โอ้เจ้าป้า 5555555 จริง ๆ แล้วตลอดเวลา 1 ชั่วโมงที่ชมการแสดงได้พูดคุยกันตลอด รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างตามประสา แต่ก็ทำเนียนคุยไหลลื่นไปเรื่อย มีหาของไม่เจอบ้างประปราย ใจความที่ได้คือหนุ่มน้อยเป็นแฟนคลับน้องปุ้ยมานานแล้วก่อนเวที the voice Thailand อีก

ช่วงที่แฟนคลับมะรุมมะตุ้มกับปุ้ย ฉันก็ได้คุยกับพี่ป้อม ...(งงไหมคะ เรียกแม่ว่าพี่ เรียกลูกว่าน้องปุ้ย ก็จะเรียกคุณแม่ก็กระไรอยู่..แก่กว่าแค่ 6 ปี แต่ยังไม่อยากผันตัวเองเป็นน้าของปุ้ย) ได้รู้หลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับปุ้ยเพิ่มขึ้น ที่จริงถามเผื่อจะเอาไปเป็นสาระเขียนบทความลงวารสารพี่เจน แต่ก็..555555..เรื่องมีสาระไม่ค่อยชอบ ชอบแต่เรื่องไร้สาระ  เขียนไปลัลล้าไป นี่ซิคือสิ่งที่ชีวิตควรจะเป็น จะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเพื่อใครหรือไม่ สิ่งแรกนั้น...คนทำต้องมีความสุข สิ่งที่ทำออกมาจึงจะดี และสามารถมอบความพึงพอใจให้ผู้อื่นได้
สิ่งที่ฉันเขียน มันอาจจะไม่ปึกแผ่นเป็นแก่นสาร แต่มันก็บริการเป็นกันเองกับคนอ่าน เว้นแต่พี่เจนที่ป่านนี้อาจจะหน้านิ่วคิ้วขมวดไปแล้วว่านี่น้องฉันจะส่งบทความให้ทันเวลาไหม เหลือเวลาอีก 2 วัน 555555 ของงี้ต้องลุ้นค่ะพี่เจน ต้องลุ้น~~~
ขณะที่เขียนบล็อกอยู่ พี่ตุ้มก็โทรมาเรียกให้ออกไปเจอกันที่ทองหล่อ...ปิดคอมโลดแล่นไปทันที 555555 ก็แหมรอมาตั้งเกือบปีกว่าพี่ตุ้มจะมีเวลาให้นิ ได้ไปกินข้าว 1 มื้อ 2 ร้านอาหาร แปลกไหมคะ? แถมสองร้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วยนะ ร้านที่สองอยู่ central world 555555 มาสองวันติดเลย ระหว่างกินข้าวพี่ตุ้มก็ถามเรื่องปุ้ย ไม่ได้เจอกันเกือบปีก็จริง แต่ฉันเขียนเมลคุยกับพี่ตุ้มตลอด ดังนั้นพี่ตุ้มจึง update ความเป็นไปของชีวิตฉันตลอดเวลา รู้ว่าตอนนี้น้องสาวกำลัง in  กับปุ้ยมากแค่ไหน มากขนาดเขียนบล็อกถึงปุ้ย 2 บทความติดกัน ....
จริง ๆ บล็อกนี้...ที่ตัดสินใจเขียนเพราะปุ้ยบอกว่ารออ่านหรอก 5555555 เราจะปล่อยให้นางฟ้าเสียงสวรรค์ประทานรอเก้อได้ไง ไม่ได้แน่นอน เดี๋ยวนางฟ้าไม่มีความสุข ร้องเพลงไม่เพราะ 555555555 ยังรักษาความ r e w ได้คงเส้นคงวาจริงจริ๊ง.
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=2txHuszxg-s  เพลงลาวดวงเดือน ตอนร้อง เข็มขัดหลุดซะงั้น 55555
http://www.youtube.com/watch?v=NLgdFzgilVE&feature=youtu.be เพลงเสน่หา แบบเดี่ยวไมโครโฟน

http://www.youtube.com/watch?v=B7BY7cR4d5g&feature=youtu.be เพลงลาวคำหอม ที่สุดฟิน

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มานจาปุ้ยฟีเวอร์ปายหนายเนี่ย!!!

ตื่นเช้ามาก็ปุ้ย นั่งหน้าคอมทั้งวันก็ปุ้ย ก่อนนอนยังจะปุ้ย
ปูนนี้แล้ว หูก็ตึงขั้นเทพ แต่มาฟีเว่อร์นัร้องได้เนี่ยะนะ บอกตรง ๆ ว่าไม่นึกมาก่อนเลย ที่มาชอบปุ้ย ดวงพรนี่มันมีความเป็นมาที่น่าบันทึกไว้ในบล็อกนี้ ทั้ง ๆ ที่ปุ้ยไม่ใช่เด็กวัฒนา แต่บันทึกนี้ก็ไม่หลุดคอนเซ็ปต์อยู่ดี
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่คลิกเข้าไปฟังเพลงเสน่หาที่พี่อ้อย (wwa100) โพสต์ไว้ จนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่ไม่เคยเข้าไปฟังเสียงใส ๆ หวาน ๆ ของปุ้ยเลย ตื่นเช้ามาเปิดคอมปุ๊บ ก็เปิดคลิปเพลงของปุ้ยเบิกอรุณทันที ฟังมันตั้งแต่เสน่หา ลาวดวงเดือน ลาวคำหอม เพลงประกอบหนังก้านกล้วย Just fine ฯลฯ คลิกฟังมันทุกเพลงที่ปุ้ยร้อง เพลงไหนปิ๊งก็จะฟัง ๆ ๆ ๆ ซ้ำอยู่นั่น เพลงโบราณอย่างลาวคำหอม ฟังจนร้องตามได้ แต่ห้ามขอให้ร้องให้ฟังนะ no way station 555555
แล้วก็เกิดความสงสัยว่า ถ้าได้ฟังสด ๆ มันจะเป็นจังได๋น้อ? และแล้วก็ได้ข่าวจากตัวปุ้ยเอง ...ชอบมากขนาดเขียนเมลคุยกัน คิดดูแล้วกันว่ามากขนาดไหน? มาถึงตรงนี้ต้องขอแสดงความชื่นชมไว้ณ ที่นี้ด้วย เพราะปุ้ยคงไม่ได้มีฉันเป็นแฟนเพลงคนเดียวที่เขียนเมลคุยกับปุ้ย เห็นที่ตอบฉัน ฉันก็คิดว่าปุ้ยคงตอบทุก ๆ คน... ปุ้ยบอกว่าวันอาทิตย์จะไปร้องเพลงที่สวนหลวงร.9 ถ้าฉันอยากเจอตัวปุ้ยเป็น ๆ อยากฟังเพลงสด ๆ ก็ขอเชิญไปฟังได้
สวนหลวงร.9!!! ถึงบ้านจะอยู่ใกล้ ก็ไม่ได้ไปเป็นปีแล้ว เพราะไม่นิยมเดินออกกำลังกาย 5555 แต่ครั้งนี้ต้องไป ต้องไป ต้องไป แค่ตัวหนังสือ ทุกคนคงสัมผัสได้ว่าฉันตื่นเต้นขนาดไหน 555555 R E W สไตล์นพพรแหละ ตื่นเต้นมันได้ทุกเรื่อง แก่ตัวเมื่อไรคงไม่แคล้วมีปัญหาโรคหัวใจ  แต่ฉันก็ยังวิตกเล็กน้อยว่าจะฝ่าฟันเด็ก ๆ เข้าถึงตัวปุ้ยได้เหรอ? เลยส่งเมลไปถามว่าขอเจอก่อนแฟน ๆ จะรู้ว่าปุ้ยมาได้ป่ะ 555555 ปุ้ยก็ตอบกลับมาว่าจะไปถึงสวนหลวง 15.40 น. (งานเริ่ม 6 โมง) ฉันเลยบอกว่างั้นฉันไป 4 โมงเย็น น้องปุ้ยอย่าไปโพสต์ใน fb นะว่าน้องมา 4 โมง เดี๋ยวป้าจะเบียดคนไปไม่ถึงตัว 5555555 (เวลาอยากให้ปุ้ยเห็นใจก็แทนตัวว่าป้า แต่ปกติแทนตัวว่าพี่ 55555)
งานนี้มีเพื่อนไปฟังด้วยกัน ก้อยศศิโสภา และจุ๊บช่อแก้ว ขอบคุณเพื่อนที่รักและเข้าใจ บางทีอาจจะเป็นห่วงด้วยว่าฉันจะไปได้ไงคนเดียวมืด ๆ ค่ำ ๆ รถเก๋งก็ไม่มีใช้ 5555555 เพื่อนบอกว่าจะมารับที่บ้าน ฉันบอกไปว่าไม่ต้อง ฉันไปเองได้ (เพราะมีนัด 555555) ก็เลยว่าจะไปเจอกันที่นั่น นัดไว้เบื้องต้นคือ s&p เพราะตรงนั้นมีสระน้ำใหญ่ ฉันคิดวาน่าจะร้องบริเวณนั้นแหละ
พอถึงเวลาฉันก็ไปถึงสวนหลวงประมาณ 4 โมงกว่าเล็กน้อย ใช้เวลาเดินหาเวทีอีกครึ่งชั่วโมง (ได้ออกกำลังกายตอนนี้เอง 55555) เพราะเขามีเวทีหลายเวที ก้อยบอกภายหลังว่ามีถึง 4 เวที! แต่ละเวทีก็ไกลกันมาก พอที่จะไม่ให้เสียงตีกัน กว่าจะเดินมาถึงเวทีสนามราษฎร์ก็เกือบรากเลือด พอเดินมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือหาคนช่วยโทรแจ้งก้อยและจุ๊บว่า...ปุ้ยร้องที่ไหน เพราะว่าถ้าให้เดินไปเจอที่ s&p ตามนัดดั้งเดิม เดินกลับไปฟังคลิปที่บ้านเลยดีกว่า 555555 แบบว่าเดินจนงงไปหมด ไม่สันทัดพื้นที่....
ตอนนี้รู้แล้วว่าเวทีไหน และรู้ด้วยว่าน้องปุ้ยอยู่ตรงไหน แต่เข้าไปไม่ได้นี่ซิ ดีที่ขอเบอร์มือถือปุ้ยไว้ เลย sms ไป ปุ้ยก็ตอบมาทันทีว่าตอนนี้นั่งแต่งหน้าอยู่ ออกมาไม่ได้ ถ้าออกมาได้เมื่อไรจะรีบแจ้งให้ทราบ ฉันก็บอกว่าโอเค ไม่มีปัญหา ตามสบาย เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรหรอก (จริงเหรอ? 555555 ไม่จริงเท่าไร)
นั่งรอเพื่อนสักพัก น้องปุ้ยก็ sms มาบอกให้ฉันไปหาตอนนี้เลยได้หรือเปล่า ได้ซิ..ทำไมจะไม่ได้ นั่งจองเก้าอี้ให้แดดส่องจนฝ้าจะขึ้นหน้าละ ลืมทา sun block มาซะด้วย ตอนที่เดินไป เห็นปุ้ยกำลังมองหาฉันอยู่แล้ว ขอชื่นชมจริง ๆ ว่าน้องใส่ใจแฟนคลับมากมาย เพราะฉันไม่เคยส่งรูปให้ แต่น้องปุ้ยคงจะหาเอาใน fb  พอเดินไปถึง น้องก็ไหว้ทักทาย น่ารักจนต้องขอกอดหลายที 5555555 จะฟินไปไหน ปุ้ยพาน้องคีย์มาด้วย น้องคีย์ก็น่ารักไม่แพ้กัน ทีแรกนึกว่าญาติหรือเพื่อนของปุ้ยมายืนเป็นเพื่อน มองไปมองมา เอ๊ะ น้องคีย์หรือเปล่า? น้องคีย์ตอบด้วยเสียงและยิ้มหวาน ๆ ว่า “ใช่ค่า” ก็เลยได้ถ่ายรูปกัน 3 คน สาว สาว สาว ไว้เราเปิดวงกันนะ แต่พี่ขอนั่งฟังนะ 5555555
กลับมาที่นั่งได้แป๊บนึงทั้งก้อย ทั้งจุ๊บก็โทรเข้ามา จุ๊บมาถึงก่อน ไม่น่าเชื่อว่าหากันจนเจอ พอเจอจุ๊บก็สบายละ 55555 พอก้อยโทรมาก็ยื่นมือถือให้จุ๊บได้ทันที ก่อนหน้าต้องอาศัยคนข้าง ๆ ช่วยฟังช่วยพูด พวกเขาคงงง และนึกในใจ ไม่ได้ยินทำไมใช้มือถือรุ่นเก่า ไอ้รุ่นใหม่ ๆ ที่มันคุย line น่ะทำไมไม่ใช้คะคุณป้า เอ่อ ป้า can’t afford  iphone อ่ะจ้ะ
พอก้อยมาถึง จุ๊บก็พาพวกเราไปนั่งที่นั่งเกือบ VIP ใกล้เวทีกว่าเดิม 500 เมตร เก้าอี้ก็นุ่มสบายหลังและก้น บางทีอดคิดไม่ได้ว่าคงเป็นอานิสสงส์จากการที่เลี้ยงไอติมคณาจารย์ในงานวัฒนาแฟร์เมื่อวาน ผลกรรมดีตามมารวดเร็วทันใจจริง ๆ อย่างไรก็ขอบคุณจุ๊บมาก ๆ ที่เหมือนมาเพื่อจัดแจงให้เพื่อนได้นั่งฟังเพลงสบาย ๆ โดยเฉพาะ เพราะจุ๊บไม่ได้อยู่รอฟังปุ้ย แต่กลับไปก่อนเพราะมีธุระต้องไปสนามบิน
เหลือฉันกับก้อยสองคน ก้อยผู้ตัดสินใจละจอ ไม่ลุ้นคนเข้ารอบ the voice วันนี้ แต่ตามมาฟังคนตกรอบ the voice กับฉัน สองป้านั่งในวงแฟนคลับ af star แฟนของใครก็จำชื่อไม่ได้แล้ว จำได้แต่ปุ้ยตุ้มคีย์ 5555555 หนู ๆ มีป้ายไฟมาเชียร์พร้อมสรรพ ฉันนั่ง ๆ อยู่พักนึงอดใจไม่ได้ ยื่นหน้าไปถาม...น้องจ๊ะ ป้ายเนี่ยะมันเปลี่ยนชื่อได้ไหม 55555555กะว่าถ้าเปลี่ยนได้ จะขอยื้มแป๊บนึง ดีที่ไม่โดนแฟน ๆ af เอาป้ายทุ่มยัยป้าจอมซ่า
กว่าปุ้ยจะขึ้นเวที ฉันรอด้วยความอดทน อดทนแค่ไหนไปถามก้อยดูได้ 555555 พอปุ้ยขึ้นเวที ไม่มีไฟแต่มีเสียง ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น เว่อร์จนวัยรุ่นแอบค้อน แต่หาได้แคร์ไม่ 555555 หน้ามันแผล็บเลยทั้งปุ้ย พี่ตุ้ม และคีย์ เสียเวลาแต่งหน้าอยู่ตั้งนาน ตอนที่ฉันไปหาเมื่อเย็น หน้ายังนวลผ่องเพราะเพิ่งแต่งเสร็จหมาด ๆ คงเพราะอากาศ และไฟที่ส่องเวที เสียงเพลงไม่ได้เพราะเท่าฟังจากคลิป อาจจะเพราะสถานที่เปิดและกว้าง ลำโพงอาจจะติดไม่ดีพอ แต่เมื่อฟังเทียบกับคนอื่น ๆ ที่ขึ้นมาร้องทั้งหมด พูดกันแบบไม่ลำเอียงเลยนะ ..แค่เข้าข้างเต็มตัว 555555  ว่าเสียงปุ้ยไพเราะโดดเด่นที่สุดจริง ๆ
พอปุ้ย พี่ตุ้ม คีย์ลงเวที ฉันก็สะกิดถามก้อย เธอว่าเขาจะขึ้นมาร้องอีกไหม? ถ้าไม่มี...กลับเหอะ 55555555 ก้อยบอกว่ารอดูไปก่อน ก็เลยได้ฟัง af star ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าปุ้ยเป็น the moon among the stars จริง ๆ เสียงปุ้ยนั้นเพราะ เหมือนที่ก้องวิจารณ์ไว้ใน the voice ว่าเพลงลูกกรุงคงไม่มีใครร้องได้เพราะเกินคุณปุ้ย.... โอเค ๆ ๆ ไม่อวยละ 5555555
หลังจากนั่งสักพักแน่ใจแล้วว่าปุ้ยคงไม่ชึ้นเวทีแล้ว ก็ตัดสินใจลุกกลับกัน แต่ขอแวะไปที่เต้นท์หน่อย อยากเจอพี่ตุ้ม หนุ่มใหญ่ เสียงและบุคลิกอบอุ่นสักครั้ง ไปถึงก็มอง ๆ หา ไม่เจอ ก้อยชี้ให้ดู นั่นปุ้ย...ไหน ๆ ๆ ทำไมมองไม่เห็นอ่ะ 555555 ก้อยต้องพาจูงไปใกล้ ๆ เออจริงด้วย!!! เป็นแฟนเสียงอ่ะ – ข้อแก้ตัวของคนแก่สายตาฝ้าฟาง ปุ้ยกำลังนั่งเซ็นซีดีให้แฟน ๆ ขายดิบขายดีเลยงานนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะ
เลยได้ถ่ายรูปกับปุ้ยอีกครั้ง มีความสุขน่าดู...ขากลับเดินหารถกับก้อยซะเกือบเช้ากว่าจะเจอ 555555 ไม่เว่อร์สักครั้งได้ไหมอ่อง? ...เดินย้อนไปย้อนมา มืดก็มืด แถมบางช่วงถนนก็เปลี่ยว เลยบอกก้อยว่าเรียกมอเตอร์ไซด์เหอะเธอ พอดีตรงนั้นมีมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งกำลังจะกลับบ้าน เลยขอร้องให้เขาช่วยพาหารถก่อน ซ้อน 3 เป็นครั้งแรกในชีวิต ดีที่อยู่ในสวนหลวง ไม่มีรถราขวักไขว่ มิฉะนั้นอาจจะไม่ได้กลับมานั่งเขียนบันทึกนี้ก็ได้ ต้องแวะไปหยอดข้าวต้ม+น้ำเกลือ บางทีอาจจะแถมธาตุเหล็ก (เลือด) ก่อน
ก้อยยืนยันว่าจะไปส่งถึงบ้าน ทั้ง ๆ ที่อยู่คนละทิศ ไม่เพียงเท่านั้นยังแวะเลี้ยงข้าวต้มก่อนด้วย ตอนกินข้าวต้ม ก้อยก็ออกแบบข้อสอบวิชาปุ้ย ดวงพร พงศ์ผาสุก ถามอะไรมาตอบได้หมด ถ้าตอนเรียนตอบได้ขนาดนี้ ป่านนี้เป็นนักเรียนดีเด่นไปแล้ว 555555 ขอจบแบบห้วน ๆ แค่นี้แล้วกันนะคะ 55555555 แค่นี้พี่ Tippy ก็ถึงกับร้องโอ๊ยยยยยใน fb เมื่อเช้าแล้ว 5555555555.

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

WWA 105 พาห55ษา

The great grand happy meeting ever…

ให้วันหนึ่งเพื่อนก็ส่งข้อความมาถึงฉันให้ช่วยกระจายข่าวว่าเราจะฉลองวันเกิดปีที่ 50 ของทุกคนในรุ่น และส่งท้ายปี 55 ด้วยกันที่ร้านตะลิงปลิง
หลังจากฉันโพสต์ไปไม่นาน ดี้ก็ออกแบบบัตรเชิญชวนที่น่ารักมาก ๆ มีโปรแกรมเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว โลโก้ดี้ดีไซน์ได้เก๋มาก เห็นแว้บแรกก็ปิ๊งทันที เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คิดเหมือนฉัน โพสต์ไปไม่นานก็มีเสียงตอบรับเข้ามาเรื่อย ๆ มีการฟอร์มทีมงานขึ้นมารับผิดชอบให้มีตติ้งครั้งนี้เป็น WWA105 พาห55ษาสมตามเจตนารมณ์ของโลโก้ให้จงได้   
ทีมงานเริ่มกระจายมอบหมายงานให้แต่ละคนทำไป อย่าถามว่าใครทำอะไรบ้าง เป็นความลับระดับชาติ แต่ความที่ฉันเป็นแอดมินหลักของ page wwa105 ที่ได้เป็นเพราะมีเวลาเยอะกว่าคนอื่น 555555 ก็เลยมีหน้าที่ต้องปักหลักกระจายข่าวไปตามคำสั่งของทีมงานตามแต่จะออกมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีคำสั่งให้โพสต์บอกเพื่อน ๆ ส่งภาพวัยเด็กมาที่ทีมงานด้วย ฉันก็นึกสนุก ลองทำทำเนียบรุ่นแนว before and after คือเอารูปในวัยเรียนมาประกบคู่กับรูปปัจจุบัน ปรากฏว่าเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ เป็นอย่างยิ่ง กร๊าฟท์เรตติ้งห้อง 105 เริ่มไต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
เพื่อน ๆ ช่วยกันโทรตามเพื่อน ๆ ที่ไม่มี facebook หรือมีแต่ไม่ค่อยได้เข้า tag team กันโทรตามเพื่อนชนิดไม่กลัวเปลืองค่าโทรศัพท์ ปรากฎว่ามีการตอบรับมางานกันล้นหลามจนต้องมีประชุมด่วนเปลี่ยนสถานที่ก่อนวันงานประมาณอาทิตย์เดียว เนื่องจากคะเนดู ร้านตะลิงปลิงน่าจะเล็กเกินไปเสียแล้ว
ฉันตื่นเช้ามา (เป็นคนชอบนอนหัวค่ำ และตื่นเช้ามืด) ก็ได้รับมอบหมายงานให้กระจายข่าวในห้อง wwa105ว่าเปลี่ยนสถานที่จากร้านตะลิงปลิงเป็นโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ก็บ่นกับดร.บีทันที ว้า..โรงแรมอีกแล้ว ไม่อยากเลยนิ  จัดกี่ทีก็โรงแรม ดร.บีคงเล็งเห็นอะไรบางอย่างจึงบอกเพื่อน ๆ ในเฟสบุ๊คว่าใครอยากบ่น ก็บ่นมาให้เสร็จเลยนะ วันงานจะได้ไม่ต้องบ่น ก็มีเสียงบ่นงุ๊งงิ๊งมาตามคำเรียกร้อง ไม่อยากไปเลย อาหารไม่อร่อย ไม่ประทับใจสถานที่ ฯลฯ ฟังดูเหมือนงานอาจจะกร่อย เพราะยอดคอนเฟิร์ม(ใหม่) กระดึ๊บช้าผิดกับตอนแรก จนชัก ๆ จะหวั่นว่าจาก 57 คนจะเหลือถึง 30 คนไหม?
ดร.บีจึงประกาศการันตี...ถ้างานไม่สนุกให้เตะตูดดี้ได้  อ่าวไหงไปเสนอตูดเพื่อนล่ะจ๊ะ ตูดตัวเองไม่ว่าง? จุ๋มเกรงว่าเพื่อนยังลังเลไม่มั่นใจ ก็เลยเสนอตัวตูดตัวเองเพิ่มพ่วงด้วยตูดแฝด งานนี้ไม่มีกร่อย เพราะถ้าไม่สนุก ได้เตะ 3 ตูดก็สนุกไปเอง.. เพื่อน ๆ เลยโอเค มากันตามเดิม คอนเฟิร์มตัวเลขกันเรื่อย ๆ จนคืนวันศุกร์เลยทีเดียว ตอนนี้ทีมงานก็ยิ้มได้แล้ว เพราะตัวเลขพุ่งไปถึง 60 คนทีเดียว
เรื่องเครื่องแต่งตัวอีกที่เป็นหัวข้อเม้าท์เม้นท์กัน เพราะธีมชุดงานครั้งนี้คือเบญจสีสำหรับสาววัยเบญจ(สิบ)เพศหลายคน ถึงกับหลังไมค์มาถาม “ต้อง 5 สีจริง ๆ เหรอ?” นายป๋อบอกว่าอุ้มค่าง 5 สีมาได้ไหม? ฉันบอกว่าได้ แต่ครอบปากไว้ด้วยนะ ป๋อค้อนทางตัวอักษร..ไม่ใช่หมานะ 555555 แม้กระทั่งคนคิดธีมยังมาบ่นกับฉันว่าจะเอาไงดี 5555555 ฉันก็ไม่ว่าอะไรนอกจาก “โสนะหน้า” 5555555 ช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ เลยนะนพพร!
ธีมเสื้อผ้าเป็นอะไรที่ถกกันมา ก่อนจะมาสรุปฟันธงแบบเผด็จการก็ไปเรื่อยตั้งแต่ธีมหมวก ธีม
Dots ธีมขาสั้นฯลฯ ฉันเลยจับมันทุกธีมใส่หมด ประมาณ all-in one 55555555
พอเย็นวันเสาร์ป้อมมารับ เห็นเครื่องทรงของฉันแล้วแซวไม่ออกเพราะเป็นไข้ บอกว่าวันนี้รับหน้าที่พิธีกรดำเนินรายการคู่กับโอ๋ด้วย ระหว่างทางไปบ้านจิ๊บ ก็ได้รับข่าวจากนิดว่าอุตส่าห์ไปถึงบ้านเจี๊ยบกะหักดิบลากขึ้นรถไปงาน แต่เจี๊ยบไม่สบายซะนี่ น่าเสียดาย
ตอนไปรวมตัวที่บ้านจุ๋ม เห็นชุดแต่งตัวเพื่อน ๆ แล้วโอ้โห แต่ละนาง สีสันเจิดจ้าเจ็บตากันน่าดู นิดมีขนตาทองคำ แถมยังพกมาเผื่อเพื่อนคนไหนสนใจจะกระพริบ(กระพือ?)แผงขนตาทองคำปริบ ๆ บ้าง
หลาย ๆ คนเล่นง่าย ทาเล็บนิ้วละสีบ้าง ถุงน่องข้างละสีบ้าง ตุ้มหูข้างละสีบ้าง หลากหลายไอเดียกันไป ตอนขึ้นรถตู้กันเรียบร้อยแล้ว ฉันแอบเห็นแฟนจุ๋มส่ายหัวปลง ๆ เล็กน้อย 5555555
มาถึงโรงแรม เจอจวงที่ประตูโรงแรม เขาแวะมาก่อนไปงานศพที่วัด บอกว่าเสร็จจากงานนั้นแล้วจะมาอีกที เลยบอกว่าให้หาผ้าคลุมไหล่สี ๆ มาด้วย ขู่ว่าไม่งั้นโดนทำโทษให้ยืนหน้าประตูห้อง จวงทักท้วง..จะไปหาจากไหนล่ะ? ง่าย ๆ เลยเธอ เดินช็อปที่มาบุญครองนี่แหละ
ขึ้นไปที่ห้องจัดงาน ก้อยรออยู่แล้วพร้อมเค้กวุ้นแสนอร่อยที่เอามาฝากเพื่อน ๆ หิ้วกลับบ้านคนละกล่อง ระหว่างรอโรงแรมเคลียร์พื้นที่ห้อง ป้อมก็จับฉันมาแต่งหน้าให้ กลัวสวยไม่ทันเพื่อน แต่งไงก็สวยไม่ทัน ต้อง face off เท่านั้น ตอนเพื่อน ๆ ช่วยกันเตรียมงาน ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองได้ช่วยทำอะไร รู้สึกว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลย 5555555 นอกจากเตรียมตัวร่อนทั่วงาน มิหนำซ้ำพออาหารยกมาตั้ง จิ๊บก็บอกกินได้เลยอ่อง เพื่อนรักรู้ใจว่าฉันหิวแล้ว เพราะเลยเวลากินข้าวของฉันมาแล้ว ฉันก็ว่าง่ายเชื่อฟังเพื่อน และน้ำย่อย ตักอาหารไปนั่งกินก่อนเลย
กินเสร็จเพื่อนๆ ก็เริ่มทยอยกันมา เสียงดังมากถึงมากที่สุด ขนาดว่ามีเห็ดเป็นหูยังมีชา ๆ แล้วพวกที่มีหูเป็นหูนี่ไม่รู้เป็นยังไงกันบ้าง เพื่อน ๆ บางคนไม่ได้เจอกันและกันมากกว่า 30 ปี บางคนเจอกันอยู่เรื่อย แต่ก็ยังกรี๊ดดีใจกันได้แรงดีไม่มีตก ทีมงานทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย เหนื่อยกับการหัวเราะ แต่เห็นหัวเราะเฮฮากัน ก็ขอบอกว่าเก็บเงินได้ครบไม่ขาดสักบาทเดียว
เปิดงานด้วยเพลง “โอ้วัฒนาของข้า” ครั้งก่อนร้องเพลง “วัฒนา เกียรติคุณล้ำค่า” ตอนปิดงาน แสดงว่าโรงเรียนอยู่ในใจ wwa105 เสมอ แต่ทำไมชวนไปเที่ยวโรงเรียนยากจังนิ 5555555 อาจจะมีคนอยากตอบว่า “ไม่มีใครเห็นโรงเรียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมือนหล่อนนิ ไปอยู่ได้บ่อย ๆ” 55555555
แล้วก็มีโชว์เด็ดแอ๊ป-โอ๋ นุ่งโจงกระเบนแดงเสื้อขาวสวมหมวกขึ้นเวที แอ๊ปเต็มที่จนโจงกระเบนหลุด ทำเอาเพื่อน ๆ ขำกันทั้งงาน แต่คุณแอ๊ปเธอไม่มีสะดุดค่ะ ไปต่อได้โดยมีป้อมช่วยเหน็บเก็บชายกระเบน เก็บไปก็หัวเราะไปร้อนถึงโอ๋ต้องมาช่วยด้วยอีกคน
มีเกมทายคนในภาพ ช่วยกันทายเสียงลั่นไปทั้งห้อง งานนี้ต้องชื่นชมช่างภาพ(เอ๊าะและหล่อ) เก็บภาพบรรยากาศได้อย่างสวยงามมาให้พวกเราได้ชมและอมยิ้มกันย้อนหลัง เอื้อเฟื้อจัดหามาโดยควีน ขอขอบคุณ..
จริง ๆ ฉันก็นั่งดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้างประสาคนมีเห็ดอยู่ข้างหัว มาสะดุ้งตอนจิ๊บสะกิดให้ขึ้นเวที คือเขาประกวดเครื่องแต่งกาย พอรู้ว่าต้องขึ้นเวที เหงื่อเริ่มหยดเม็ดครึ่ง แต่เห็นมีเพื่อนร่วมชะตาหลายคนก็โอเค ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่ขึ้นไปยืนโชว์ตัว กำลังโล่ง ๆ อยู่ไม่นาน อาราย...ต้องปราศรัยต้องเหรอ? จ๊าก!! อยากลงเวทีแล้ว 5555555 ทีแรกก็ยืนอยู่หัวแถว ค่อย ๆ ร่นถอยอันดับไปเรื่อย ๆ จน...~~เราถอยไปไม่ได้อีกแล้ว! 
ถูกจับตัวมายืนให้สปอร์ตไลท์ส่องหน้า พร้อมไมโครโฟนอันบะเฮิ่ม ยังยืนสั่นหัวไปมาเป็นพัดลมของน้องพลับไม่ยอมพูด เพื่อน ๆ ทั้งเวทีช่วยกันกล่อมแกมขู่ พูดไปเหอะ..ก็จะให้พูดไรล่า ไม่รู้จะพูดไรนิ..อะไรก็ได้สั้น ๆ ประโยคเดียวก็ได้ ถึงตอนนี้สาดตามองสายตาหลายสิบคู่กำลังลุ้นเป็นกำลังใจให้ทั้งบนและล่างเวที คิดว่าถ้าลวดลายมากอาจจะโดนรุม โทษฐานทำให้เสียเวลา เปล่าหรอก เพื่อน ๆ ใจดีกับฉันจะตาย ฉันออกน่ารักปานนี้ รุมกันไม่ลงหรอกเนอะ 555555 เพราะอะไรบางอย่างที่เหมือนกันในสายตาทุกคู่เหล่านั้น ทำให้คำพูดกลั่นออกมาจากใจ สั้น ๆ กระชับได้ใจความว่า “รักเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะ”
เสียงเฮดังลั่นห้อง ไม่แน่ใจว่าเฮเพราะพูดได้โดนใจหรือว่าเฮเพราะดีใจที่ฉันพูดออกมา รายการจะได้ดำเนินต่อไปซะที 555555 และคงจะเพราะเห็นใจในวีรกรรมอันกล้าหาญของฉัน เลยมอบรางวัลให้ ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนไว้ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ ขอบคุณเบิ้ลที่ไม่ให้ฉันพูดอีกรอบตอนรับรางวัล 55555
เสียงคุยกัน เสียงหัวเราะดังมากจนพิธีกร 2 คนชักเอาไม่อยู่ ร้อนถึงดร.บีกับดี้ต้องขึ้นไปช่วยเสริมทัพ ตอนนี้เวลาใกล้หมด แต่ยังมีอีกหลายรายการยังไม่ได้ดำเนินเลย ตอนเตรียมงานลืมเผื่อเวลาสำหรับ hugs and greetsที่กินเวลาไปมากมาย ได้ยินว่าต้องตัดไปหลายรายการอย่างน่าเสียดาย เหลือไว้แต่ที่สำคัญและจำเป็นจริง ๆ เช่นการเลือกประธานรุ่น ถือเป็นการประชุมสภา wwa105 ไปซะเลยเพราะมากันเยอะดี ผลโหวตเป็นเอกฉันท์เลือกโอ๋ สิริวิมล สิทธิประศาสน์ขึ้นเป็นประธานรุ่น โดยระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 2 ปี งานแรกที่ต้องทำคือหาเจ้าของแว่นตาที่มีผู้ลืมไว้ในงาน
จับฉลากรางวัลให้ได้ติดมือกลับบ้านกันทั่วหน้า งานนี้ให้ป๋อ..หนุ่มเดียวในรุ่นที่แทบไม่เคยขาดงานมีตติ้งรุ่นมาเป็นผู้มอบโชคแด่เพื่อน ๆ
แล้วก็มีรายการกล่าวขอบคุณผู้จัดงาน ขอบคุณควีนที่เอื้อเฟื้อช่างภาพ ขอบคุณนกที่เอื้อเฟื้อเครื่องเสียงคาราโอเกะ และบัตรล่องเรือเจ้าพระยา cruise มีตติ้งครั้งหน้า เราจะล่องเรือกัน..เยส!!! ขอบคุณก้อยที่นำขนมมาแจกเพื่อน ขอบคุณนายหัวที่จัดหาสถานที่แทนร้านเก่าได้ทันท่วงที ขอบคุณสปอนเซอร์รางวัลทั้งหลาย ขอบคุณทีมงานทุกคนที่ทำให้เกิดงานวันนี้ ขอบคุณและขอบคุณไม่จบไม่สิ้น เพราะเพื่อน ๆ มีความสุขหรรษากันจริง ๆ ทุกคนรู้สึกขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ผู้เสียสละและทุ่มเทเพื่องานวันนี้ทั้งหมดจริง ๆ
ส่วนฉันมีสิ่งที่อยากพูด อยากบอกเพื่อนทุกคน แต่ไม่ได้ขึ้นพูดเพราะรู้ ๆ อยู่ เอาเป็นว่าพูดตรงนี้ละกัน 55555555 งานวันนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีความรักความผูกพันความสามัคคีของพวกเราทุกคน ขอบคุณที่รักและเข้าใจซึ่งกันและกัน ขอให้ความรักความอบอุ่นความสุขสนุกสนานจากงานมีตติ้งครั้งนี้ หล่อหลอมอยู่ในหัวใจพวกเราทุกคนไม่ว่าใครจะทำอะไรอยู่ที่ไหน ก็ให้สิ่งนี้เป็นกำลังใจให้เราฝ่าฟันจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ...จนกว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งบนเรือเจ้าพระยา 555555

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เลือกตั้งพาหรรษา

ริเป็นหัวคะแนนซะด้วย
ไม่คิดว่าจะสนุกกับการเลือกตั้งกรรมการสวว.มาก่อนเลย จริง ๆ แล้วเซ็งนิดหน่อยที่ป๊ากกับแก้วไม่มา แถมพอถึงเวลาพี่เก็จดันลาป่วยอีก เซ็งซึมลึกเลยงานนี้ แต่ลึกแป๊บเดียว ก็เที่ยววิ่งวุ่นหาเสียงให้เพื่อน และพี่ ๆ บางคนที่มีคนฝากฝังไว้ หาเสียงให้เพื่อน ๆ และรุ่นอื่น ๆ ที่หมายตาไว้ ป๊ากฝากพี่มุกดาไว้เป็นพิเศษ เพราะคุณเธออยากให้พี่เขาเข้ามารับช่วงเป็นนายทะเบียนต่อจากตัวเอง เจอใครที่พอรู้จักชื่อ ก็ทำตีสนิทเข้าไปถามแกมตอบแทนว่าเลือกใครได้หรือยังคะ ยังหรือคะ? งั้นฝากคนนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ (เหลือไว้ 1 ที่ให้ตัดสินใจเอง 55555)
เพื่อนรุ่น 105 ก็ยังไม่มีใครมา เลยเที่ยวคุยไปหมดทุกโต๊ะ ร่อนอีกแล้ว หาข้ออ้าง จริง ๆ ต่อให้เพื่อนมาก็ร่อน 555555 ขนาดนี้งานนี้แทบไม่มี
my wwa heartthrobs อ๊ะ-ต้องพูดว่าไม่มีเลยซิ  ทำให้รู้ใจตัวเองว่าแท้ที่จริงแล้ว แค่อยู่ในวงล้อมของวัฒเนี่ยน ก็เป็นสุข เป็นสุขแล้วค่ะ ยิ่งวันก็ยิ่งคุ้นเคยกับพี่ ๆ น้อง ๆ ง่าย แม้ว่าจะเห็นกันไม่กี่ครั้ง แม้ว่าจะไม่เคยคุยกันมาก่อน ก็สามารถพูดคุยทักทายได้ไม่ขัดเขินอีกต่อไป
พี่ ๆ รุ่น 100 สร้างความประทับใจให้สูงสุดด้วยความรักความสามัคคีที่มีให้เห็นตลอดทั้งในและนอกโรงเรียน แม้แต่พี่วลว.พี่แจ้ พี่ต้าและอีก 2-3พี่ที่มีกิจธุระก็ยังมาใช้สิทธิ์ก่อน ขอหยอดคะแนนให้พี่หนิง + พี่อุ๊ก่อนจะรีบกลับไปทำธุระต่อ สปิริตแรงดีไม่มีตกจริง ๆ ค่ะ แต่ขนาดนี้แล้ว ตอนที่คุณแม่แก้วเอาตะโก้แห้วมาฝากพี่น้อง ฉันก็ยังบอกพี่หนิงว่า...อย่าเพิ่งกินจนกว่าผลจะออกนะคะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะฉันกินแทนแล้ว
ระหว่างรอเวลา พี่หมอกัลยากับคุณแม่แก้วนั่งร้องเพลงดอกไม้แห่งสยามคลอไปกับเสียงเทปที่เปิด ฉันดีใจที่ได้เจอพี่ไก่แก้วในวันนี้ด้วย งานอะไรที่ไม่คิดว่าจะเจอ ก็มักเจอ แต่ไอ้ที่คิดว่าพี่จะมา ไม่เคยเห็นหน้าเลย สงสัยต่อไปต้องไม่คิด จะได้เห็นทุกงาน 555555555 อีก 1 อาทิตย์ก็เป็นงานวัฒนาแฟร์ คงได้เจออีกหลายคนให้หายคิดถึงแน่นอน
ตอนพี่ตุ้ยมา ฉันก็รีบไปรับหน้า และนำเสนอสส.ในดวงใจ อีตอนส่งโพยให้พี่ตุ้ย พี่แอ๊ะนั่งกินข้าวข้าง ๆ นึกได้ว่าในโพยไม่มีชื่อพี่แอ๊ะ รีบตะครุบกระดาษปิดคว่ำ แหม ระดับพี่แอ๊ะไม่ต้องพึ่งหัวคะแนน ก็นอนมาอยู่แล้วค่ะ เลขสุดเฮงหมายเลข 9 แถมได้มา 99 คะแนน เลขสวยตั้งแต่ต้นจนจบ
แม้ว่าจะมีตัวเลือกในใจ  เขาให้เลือกไม่เกิน 10 คน จะเลือกคนเดียวก็ได้ กี่คนก็ได้แต่ห้ามเกินสิบคน ไอ้ฉันก็นึกว่าต้อง 10 คน อีตอนกาคะแนนในคูหานับแล้วนับอีก กลัวบัตรเสีย 5555555555 มารู้ตอนที่ลุ้นคะแนน พี่ติ๋งบอก...เฮ้อ เป็นหัวคะแนนยังไงเนี่ยะ กติกาเลือกตั้งยังรู้แบบไม่ครบถ้วนเล้ย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเลือกตั้ง แต่เป็นครั้งแรกที่สนใจพิธีกรรมทั้งหมด ถึงกับไปนั่งหน้าโพรเดี้ยมฟังคำอภิปรายเลยทีเดียว
พี่จุ๋มให้เวลาคนละ 2 นาที มีเพียงแค่ 1-2 คนมั้งที่พูดสั้น ๆ นอกนั้น...พี่จุ๋มต้องแอบส่งซิก น้อง ๆ หมดเวลาแล้วแต่น้อง ๆ ก็ยังจ้อต่อตามที่ตั้งใจไว้ หาได้เหลือบตามองพี่จุ๋มไม่ 55555 ฉันว่าครั้งหน้าต้องติดระฆังไว้ แล้วเคาะแกร๊ง ๆ แบบกรรณิการ์ ธรรมเกษร ในรายการเก่าแก่ครั้งเรายังเยาว์วัย ถ้าฉันลงสมัคร...2 วิหน้าโพรเดี้ยมก็เกินพอแล้ว...
พอผู้สมัครทุกคนอภิปรายจบ พี่จุ๋มก็บอกให้น้อง ๆ (ศิษย์ปัจจุบัน) ทำการลงคะแนนก่อน ฉันหันไป โอ้ว ตัวแปรเยอะ ทีแรกกระหยิ่มใจแระ คนที่เราหมายปองต้องได้รับเลือกแน่ ๆ เพราะอ้อนขอคะแนนไปทั่วแล้ว แล้วนี่อะไร? ฉันลืมเสียงส่วนใหญ่ได้ไงเนี่ยะ 5555555
ขำตอนที่เห็นครูวรรณดีไปต่อแถวนักเรียนเป็นศิษย์เก่าคนแรก เพราะผู้สมัครทุกคนพูดได้ดี ทำเอาฉันต้องแก้โพย ตัดสินใจหนักอีก เพราะเลือกไปเลือกมาเกิน 10 คน 5555555 ประมาณรักพี่เสียดายน้อง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลือกทุกคน ชอบอยู่แล้วที่จะเห็นพี่น้องทุกคนมาร่วมแรงร่วมใจกันทำให้วัฒนาที่รักของเราปึกแผ่นเป็นแก่นสาร เสียเวลาอยู่ในคูหานับไม่ให้กาเกิน 10 คน เดี๋ยวบัตรเสีย
พอเลือกตั้งเสร็จ ทีแรกก็ว่าจะไปส่งพี่หมอ และคุณแม่แก้วถึงรถ แต่คุณแม่แก้วมัวโอ้เอ้ล่ำลาน้อง ๆ อยู่นาน ฉันเลยไม่สามารถไปส่งถึงรถได้ เพราะไม่อยากพลาดช็อตเด็ด ส่งต่อหน้าที่ให้...(เอิ่มจำไม่ได้ว่าใคร 555555) แล้ววิ่งไปเกาะขอบบอร์ดคะแนน คราวนี้นั่งข้างพี่ติ๋ง เพิ่งเข้าใจบรรยากาศการนับคะแนนสส.และหัวอกของหัวคะแนน เดี๋ยวนั้นเอง นี่ขนาดเป็นการเลือกตั้งในสังคมเล็ก ยังตื่นเต้นยังลุ้นซะขนาดนี้ ตอนแรกพี่จุ๋มประกาศคะแนน อ่านเลขเร็วไปหน่อย กรรมการพี่ปลาขีดแต้มคะแนนไม่ทัน 555555 พี่ติ๋งช่วยทักท้วงตรวจสอบอย่างแข็งขัน แถมช่วงแรก ๆ พี่ปลาขีดแต้มห่าง ๆ ช่วงท้ายก็ต้องมีต่อแถวให้ยิ่งงงงวยเป็นสีสันการนับคะแนนอีก เห็นไหมล่ะคะ สนุกตั้งแต่ต้นจนอวสาน
เลขสวยบางทีก็เป็นกำไรให้ไม่น้อย เลข 1 น้องปัด เลข 9 พี่แอ๊ะ  และเลข 20 พี่มุกดา มาวินแบบไม่ต้องลุ้น ที่เหลือ ก็มีสูสีกันน่าดู แต่ก็ไม่มีความผิดหวังอะไรกับผลคะแนน เพราะไม่ว่าใครจะได้รับเลือก และไม่ได้รับเลือก ทุกคนก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาด้วยความเต็มใจหากได้รับการเอ่ยปากขออยู่แล้ว ฉันหยิบกล้องมาถ่ายบอร์ดคะแนนไว้ แต่พอกลับถึงบ้าน เอ๊ะทำไมไม่มีรูปในกล้อง? จำได้ว่าถ่ายไว้นี่นา 55555555 พอกลับมาเจอเพื่อนและพี่บางคนถามใน fb ว่าใครได้รับเลือกตั้งบ้าง เลยตอบไม่ได้ ขนาดว่าไปอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบนะเนี่ยะ 5555555555
ตอนกลับ เพราะป๊ากไม่มา เลยติดรถพี่น้อยกลับ พี่น้อยบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน แต่ต้องไปเดิน
Terminal ก่อน เนื่องจากลูกชายยังมาไม่ถึง พี่น้อยบอกว่าเพิ่งเคยมาเดิน เลยชวนพี่น้อยไปเที่ยวห้องน้ำ 5555555 ไม่ได้ไปทำกิจส่วนตัว แค่ไปทัศนาดูเฉย ๆ
ท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ทุกคนที่อาสาเข้ามาทำงานให้โรงเรียนของเราอีกครั้งค่ะ งานแบบนี้ต้องอาศัยความเสียสละ และอดทนอย่างสูง ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยทำอะไรจริงจัง แต่ก็เกาะรอบรั้วสมาคมติดตามการทำงานของพี่ ๆ น้อง ๆ มา 3 ปีแล้ว เป็น 3 ปีที่ได้อะไรมามากมายจริง ๆ โดยเฉพาะสายใยรักแห่งวัฒนา.

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตามรอยแผลเก่ากับตลาดใหม่-ตลาดน้ำขวัญเรียม

ทีแรกคิดว่าจะให้รอพ้นหน้ามรสุมก่อนค่อยออกไปท่องเที่ยว แต่คืนวันเสาร์คุยกับจำปาลาวเพื่อนรักโลกไซเบอร์ เขาเล่าว่าไปเที่ยวตลาดน้ำมาทำตุ้มหูเพชรตกหายไปข้างนึง ก็จัดแจงถามอากู๋ถึงพิกัดของเพชร เอ๊ย ตลาดน้ำชื่อโรแมนติกทันที ดู ๆ แล้วน่าจะเดินทางไปสะดวกอยู่ ดูรูปต่าง ๆ ก็น่าไปสำรวจไม่น้อยเหมือนกัน วางแผนว่าถ้าเช้ามาฝนไม่ตก ก็จะไปหาเพชรล่ะ มาตรว่าจะไม่ได้เพชร ก็น่าจะมีเรื่องมาเขียนเล่าสู่กันฟังบ้าง
เพื่อนสนิทคนหนึ่งเคยพูดเสมอว่าน้ำชาเป็นคนมีบุญ มานึก ๆ ดูแล้วก็น่าจะใช่ เพราะฝนตกติดกันทุกวันแต่วันเสาร์น้ำชามีนัดกับเพื่อนตอนสาย ฝนก็ตกเช้า ๆ พอใกล้เวลาเดินทางก็หยุด เช้านี้ก็เช่นกัน ตื่นมาแสนสดชื่น เพราะฝนเพิ่งหยุดไป อากาศดีเหมาะแก่การเดินทาง หลังจากกินนมสด กาแฟไม่มีไข่มุก และก็คุ้กกี้ 3-4 ชิ้นแล้ว ก็พร้อมออกเดินทาง
ขึ้น 207 กะจะไปลงที่รพ.รามคำแหง เพื่อข้ามฟากไปขึ้น 113 แต่ไงไม่รู้พอถึงสี่แยกลำสาลีก็ลงเลย แล้วเดินลอดใต้สะพานข้ามแยก สกปรกมาก..แต่มันสายเกินกว่าจะหันหลังกลับ พอเดินไปถึงฝั่งแล้ว อ้าวไม่มีป้ายรถเมล์ ต้องเดินขึ้นไปถึงป้ายตรงข้ามรพ.อยู่ดี เฮ้อ คนเรา หาเรื่องเดินเยอะแต่เช้าเลยนะ
นั่งรถเมล์เพลิน ๆ ยังไม่ทันเบื่อ ทางขวาเห็นมิสทีน ก็เตรียมตัวลงได้ วัดบำเพ็งใต้อยู่ในซอยรามคำแหง 187 เดินเข้าไปอย่างมั่นใจ จนกระทั่งเจอป้ายพิศวงที่สามแยก ป้ายซ้ายชี้ให้ไปทางขวา ป้ายขวาชี้ให้ไปทางซ้าย แล้วจะเอาไงเนี่ยะ ถ้าเอาตามลูกศร ก็บรรจบที่หน้าศาลพระภูมิ จริง ๆ แล้วมันไปได้ทั้งสองทางแหละ โยนเหรียญหัวก้อย หวยออกที่ทางซ้าย ก็เดินมาเรื่อย อากาศเช้า ๆ กำลังสบาย เดินไปดูวิวไป ชาวบ้านแถวนี้เลี้ยวแมวดีจัง แต่ละตัวหุ่นการ์ฟิลด์ทั้งนั้น ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว
ตลาดน้ำขวัญเรียมกินอาณาบริเวณสองฝั่งคลอง อีกฝั่งคลอง มีวัดบำเพ็ญเหนืออยู่ตรงข้ามกันเด๊ะ ไม่แน่ใจว่าเดิมทีเป็นวัดเดียวแต่ถูกผ่ากลางด้วยคลองเลยเรียกวัดเหนือวัดใต้หรือเปล่า ทั้งสองวัดเชื่อมด้วยสะพานสร้างใหม่เป็นรูปกระดูกเรือ แข็งแรง ขึ้นลงง่าย แต่ถ้าหัวเข่ามีปัญหา เขาก็มีลิฟท์ไว้บริการ
 ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนั่งเรียงรายเต็มสองฝั่งคลอง เขารอใส่บาตรพระที่จะพายเรือมาบิณฑบาตร จัดเป็นธรรมเนียมดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพราะพระก็ไม่ได้มาจากไหนไกล ก็พระในวัดเหนือวัดใต้นั่นแหละค่ะ พระจะลงเรือประมาณ 7.30 น. ยังมีเวลาเหลือเฟือ น้ำชาเลยเดินหาเพชร เอ๊ย สำรวจสถานที่ไปเล่น ๆ ก่อน ดูเหมือนจะมีนาข้าวแปลงกระจิ๋ว ลองเดินไปเรื่อย ๆ สุดปลายนาก็มีฝูงห่าน เลยชักไม่แน่ใจว่าตกลงเป็นแปลงข้าวหรือว่าต้นหญ้า เพราะเขาอาจจะปลูกหญ้าไว้เลี้ยงห่านก็ได้~~ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง~~
ริมน้ำมีเรือขายอาหารจอดเพียบค่ะ เป็นเรือขนาดใหญ่ มีโต๊ะเก้าอี้ให้เข้าไปนั่งกินเอาบรรยากาศได้ แต่เรือไม่เคลื่อนที่นะ อาหารก็มีหลายอย่าง-ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ข้าวแกง สเต๊ก ฯลฯ เยอะแยะบานตะไทค่ะ สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งกินในเรือ ฝั่งวัดเหนือก็มีเป็นศูนย์อาหารให้นั่งกินสะดวกสบาย มีห้องน้ำใหม่เอี่ยมไว้บริการอีกด้วย
สัก 7 โมงครึ่งพระก็พายเรือมาละ ก็ลงจากปลายวัดพายมาหัววัด 555555 แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว ก็แค่หน้าวัดสองฟากฝั่งคลอง แต่คนใส่บาตรเยอะดีค่ะ เดินสำรวจอาหารกันดีกว่า อาหารน่ากินมากทั้งคาวทั้งหวาน มีสารพัดแหล่ะค่ะ เดินไปเดินมาเขาเข็นปลาทูทอดมา เห็นแล้วน้ำลายไหล อยากซื้อกลับไปกินกับข้าวที่บ้าน เรียกถามไถ่ราคา แต่คนเข็นเขาเป็นแค่เด็กส่งของ เลยเดินตามปลาทูต้อย ๆ ไปจนถึงร้านในเรือ เจ้าของร้านดันยังมาไม่ถึง อดซื้อ..ประหยัดตังค์แต่เสียอารมณ์ ก็อยากกินง่ะ
เดินเล่นไปมาเจอป้ายโปรแกรม เห็นว่ามีล่องเรือด้วย กิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวกับน้ำ..เป็นถูกโฉลกกับน้ำชาทั้งสิ้น ก็เลยคิดว่าจะล่องสักหน่อย สอบถามสนนราคาค่านั่งเรือเที่ยวก็แสนจะทู้กถูก-10 บาท มีเด็กนักเรียนเป็นมัคคุเทศก์อาสาแต่งตัวย้อนยุคด้วยโจงกระเบน เลยโต๋เต๋รออยู่แถวนั้นจะได้ลงเรือเที่ยวแรก
กำลังเก็บภาพริมน้ำอยู่ ทันใดนั้นก็มีหนุ่มน้อยวัยขบเผาะเดินเตาะแตะมาริมท่า เห็นว่ายังเล็กนักก็ห่วงว่าจะตกน้ำตกท่า เลยจับตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้ขอนไม้ตรงนั้น หนุ่มน้อยหันมามอง มียิ้มมุมปากอย่างเท่ ๆ ส่งมาให้ ~~ปิ๊ง! สัญญาณจากอดีตชาตกาลทำงาน ฤานี่จะเป็นพี่ขวัญที่เรียมรอมาครึ่งชีวิต??? ฮ่า ๆ ๆ
เลยได้นั่งกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มฆ่าเวลา เยื่อใยรักแผลเก่าน่าจะยังเหลืออยู่ เพราะขวัญน้อยช่างให้ความร่วมมือกับป้าเรียมเต็มพิกัด อยากถ่ายรูปอารมณ์ติ๊สแค่ไหน สั่งได้-จัดให้ มันช่างน่าทึ่งน่ะค่ะ ที่เด็กตัวแค่นั้น ให้ความร่วมมือกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบหน้าไม่ถึง 15 นาที พอถ่ายรูปเสร็จ ก็ยังตามมานัวเนียป้าเรียมประหนึ่งจะงอนง้อขอโทษที่มาช้าไปหน่อย..ไม่หน่อยล่ะ 50 ปีอย่างน้อย!!!
ห้วงเวลาชื่นมื่นแสนสั้นนัก เพราะถึงเวลาที่เรียมต้องจากขวัญน้อยไปลงเรือแล้ว ชาติหน้าพบกันใหม่นะจ๊ะพี่ขวัญ ชาตินี้วาสนาของเรามีต่อกันเพียงเท่านี้...
ใครที่เคยไปล่องเรือที่เกาะเกร็ด และดำเนินสะดวกมาแล้ว ไม่ต้องมาล่องเรือที่ขวัญเรียมนะคะ เพราะว่าที่นี่เขาสำหรับคนที่ไม่เคยลงเรือในคลองมาก่อน ได้ลงไปนั่งเล่นเพื่อจารึกว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเคยลงเรือ เนื่องจากเรือแล่นไปมาห่างจากวัดไม่เกิน 500 เมตรไปกลับแค่นี้เอง มีมัคคุเทศก์นักเรียนเจื้อยแจ้วจำนรรจาท่าทางคล่องแคล่ว ตอนน้ำชาอายุเท่านี้ทำไม่ได้ ส่วนหนูน้อยทั้งสองจะพรรณนาว่าอะไรบ้างนั้น...น้ำชาลืมหูไว้ที่บ้านเลยไม่สามารถนำมาถ่ายทอดได้
ตอนนี้แดดก็เริ่มร้อนแล้ว พอขึ้นจากเรือก็ตรงไปกินไอติมกะทิแถมเรือ ขอซื้อเรือเปล่ากลับบ้าน 5 ลำ ๆ ละ 10 บาทเอง ถูกมากค่ะ เลยซื้อมาหัดทำดีคูผาดเล่น ๆ เดินมาหน่อยเจอข้าวเหนียวมูลสีรุ้ง เขาโฆษณาไว้ว่าอร่อยขนาดสุลต่านของบรูไนยังโปรดปราน หน้าตาก็ดูไฮโซน่ากินพอประมาณ เลยซื้อมา 1 กล่อง 30 บาท ใส่ข้าวเหนียว 6 คำ 6 สี หน้าสังขยา 2 ปลา ป่น 2 กุ้ง 2 หิ้วมาถึงบ้านทั้งหมดไหลมารวมกันเป็น 1 ก้อนสีรุ้งจริง ๆ และหน้าทั้งหมดก็ปนเปกัน เหมือนกินจากบาตรพระป่า
นอกจากอาหารแล้วก็มีขายสินค้าเหมือนตลาดนัดบ้าน ๆ ทั่วไป มีสอนทำดีคูผาดด้วยนะ ซื้ออุปกรณ์แล้วเขาจะสอนให้ฟรี ยังไม่ 9 โมงเลยเดินเสร็จแล้ว เร็วเกินกว่าที่จะกินข้าวมื้อเที่ยง แต่ก็หมายมั่นไว้ว่าจะชวนใครต่อใครมาเที่ยวอีก อยากกินปลาทูทอด ใครจะไปกินปลาทูทอดรสแผลเก่าที่ตลาดน้ำขวัญเรียมกับน้ำชา...ยกมือขึ้น!
ขากลับ น้ำชากลับทางวัดบำเพ็ญเหนือ เรียกมอเตอร์ไซด์ไปส่งที่ป้ายรถเมล์ ดีที่เรียก ไม่งั้นเดินตากแดดหน้าเกรียมแน่กว่าจะไปถึง ไกลพอสมควร ใครที่อยากมาตลาดน้ำขวัญเรียมโดยรถส่วนตัว สามารถมาได้สะดวกทั้งสองทาง ถ้าอยู่ไกลก็ขึ้นทางด่วนมาลงถนนเสรีไทยเลย เลี้ยวขวามาถึงนิคมบางชัน แล้วก็จะเห็นวัดอยู่ขวามือ ใกล้นิดเดียว ตลาดน้ำนี้เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ทั้งแต่เช้าถึงค่ำ เย็น ๆ มีเทศนาธรรมด้วย มาวัดตักบาตร ฟังธรรม นั่งชิล ๆ กินของอร่อย ๆ ริมคลอง ก็น่าจะเป็นการใช้เวลาในวันหยุดอย่างมีคุณค่านะคะ.

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

การตลาดพาเพลิน

What a day!
การขายของเจ็ดวรงค์ เริ่มสนุกขึ้นเมื่อพี่ติ๋ว-รุ่งนภากรุณาสั่งซื้อรองเท้าใส่อยู่ในบ้าน 1 คู่ เพราะไม่แน่ใจว่าคู่ที่พี่เขาชอบมันจะใหญ่ไปหรือเปล่า จึงสำรองอีกคู่ติดไปด้วย มีทั้งเนื้อทั้งตัวแค่ 2 คู่แหละค่ะ 555555 พูดซะยังกับมีเยอะนะ พี่ติ๋วบอกว่าบ้านอยู่ปากซอยเข้าบ้านอาจารย์อายะดา ฉันเคยไปค่ะ แต่สิบปีที่แล้ว เลยจำไมได้ต้องว่าจ้างมอเตอร์ไซด์ไปส่ง ไปถึง พี่ติ๋วนั่งรอในห้องทำงาน หลังจากลองรองเท้า เลือกได้แล้ว พี่ติ๋วก็พาชมงานฝีมือของพี่บ้าง มีปักเสื้อ เพ้นท์เซรามิค ฝีมือดีมากค่ะ ก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ฉันจึงเอาพัดดีคูผาดที่ทำที่บ้านพี่เจนมาอวด กล้าอวดเนอะ แต่พี่ติ๋วกลับสนใจ..ถามว่าถ้าสั่ง 100 อันจะคิดเท่าไร จะแจกในงานวันเกิดคุณพ่อ ฉันถามว่าวันเกิดเมื่อไร พี่ติ๋วบอกว่าเดือนพฤศจิกายน นึกถึงหน้าพี่เก็จทันที 5555555 เลยให้เบอร์พี่เก็จแล้วบอกให้พี่ติ๋วโทรคุยกับพี่เก็จเองดีกว่า กล่องทิชชู่ 15 ใบออเดอร์พี่อ้อยยังทำไม่เสร็จเลย 5555555 แต่ความที่ไม่อยากเสียลูกค้า ฉันเลยเลียบเคียงถามพี่ติ๋ว ว่าจะเป็นไรไหม ถ้าฉันจะเป็นคนทำให้ 55555555 พี่ติ๋วมองหน้า คงนึก..มันจะสวยแบบพัดที่เอามาให้ดูไหม? (สวยแบบเด็ก ๆ ทำน่ะ หัวหมียังถลอกเลย) 
เสร็จจากบ้านพี่ติ๋ว ฉันก็นั่งรถเมล์ไปหาป้าจี ป้าจีบอกว่าจะไปจตุจักรด้วย ป้าจีบอกวันก่อนตอนให้จิ๋มโทรคุยว่าจะไปเดินเที่ยวด้วย...แม้ฉันจะไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็ดูไปก่อน ครั้งก่อนก็บอกว่าจะไปเดินสำเพ็งด้วย แล้วมีเหตุจบแค่ภัตตาคารจันทร์เพ็ญ ครั้งนี้จะเป็นยังไงก็ต้องติดตามดู ระหว่างรอป้าจีเตรียมตัว ฉันก็ลองกล้องใหม่เป็นที่เพลิดเพลิน ให้เด็กบ้านป้าจีช่วยถ่ายให้หลายรูป ลองเทคนิคใหม่ที่มีมากับกล้อง สวยไม่น้อยหรอกค่ะ พอป้าจีลงมาก็จัดแจงเปลี่ยนร่วมยาให้ป้าจีใหม่ ป้าจีชมว่าสวยมาก แพงไหม? ฉันบอกว่าอันนี้ฉันกับพี่เก็จทำให้ป้าจีวันเกิด ไม่คิดเงิน ป้าจีขอบใจ แล้วก็ถามว่าทำยังไง ฉันก็เล่าให้ฟังซะละเอียดยิบ  แถมบอกว่าถ้าป้าจีอยากเห็น ไว้จะขนของมานั่งทำให้ชม จะพาป้าจีไปบ้านพี่เก็จก็นะ 5555555 หยิบรองเท้าในเป้ออกมาให้ดูด้วย ผล-ป้าจีบอกขอซื้อรองเท้าประเดิมให้ และยังสอบถามว่าถ้าสั่งอีก 8 คู่จะคิดราคาเท่าไร ฉันนึก..พี่เก็จจะทำไหวไหมเนี่ยะ วันก่อนสามียังบอกเลยว่าพี่เก็จแก่แล้วทำไม่ไหว ไม่ต้องหาลูกค้ามาให้แล้ว แต่พี่เก็จเขียนโน้ตให้ฉันว่า...”หาลูกค้าต่อไปเหมือนเดิม” ไม่รู้จะว่าไงวันเดียว เจอลูกค้าขอใบเสนอราคาพัด 100 อัน รองเท้าอีก 8 คู่ 5555555
แล้วป้าจีก็เล่าให้ฟังวันก่อนตัดต้นไม้เพราะมันล้ม แล้วท่อนไม้กระเด็นมาเกือบโดนป้าจี พี่สำเนา(แม่บ้าน)ร้องลั่น โชคดีมาก เพราะถ้าโดน..ไม่อยากจะคิด เดือนก่อนป้าจีก็หกล้มเพราะจะจับหมาไม่ให้ไปกัดแมวเลยหงายหลังเลย เดชะบุญว่าเป็นคนกระดูกแข็ง ไม่มีอะไรแตกหรือหัก แต่ก็เจ็บหลังอยู่ร่วมเดือน
แล้วเราก็ออกเดินทางไปจตุจักรค่ะ วันอาทิตย์นี้รถค่อนข้างติด ไปเกือบถึงแล้ว ประมาณพหลโยธิน ป้าจีบอกว่าเราหาอะไรกินกันก่อนไหม? ที่จริงป้าจีไม่หิวหรอกค่ะ แต่ห่วงฉัน เนื่องจากบ่ายโมงแล้ว ฉันบอกว่าไปกินส้มตำที่เจเจก็ได้ ป้าจีบอกว่าไม่เอา กลัวสกปรกเดี๋ยวท้องเสีย อยากกินร้านอาหารจีนมากกว่า ขับมาถึงอารีย์สัมพันธ์ ฉันก็ไม่ค่อยได้มาแถวนี้เลยไม่รู้จะเสนอแนะยังไง ขับวนไปวนมา หาไม่มีร้านอาหารจีน เลยแวะร้านส้มตำเลิศรส 5555555 ไปถึงก็สั่งผัดไทวุ้นเส้น ไก่ย่างครึ่งตัว ส้มตำไทย อาหารร้านนี้อร่อยมากค่ะ กินอย่างมีความสุข กินเสร็จฝนตก 5555555 ทีนี้เลยสบายเลย ฉันได้ทีบอกป้าจีว่าอย่าไปเดินจตุจักรเลยค่ะ เพราะฉันว่ายังไง ๆ ป้าจีไม่น่าจะเดินไหว แถมฉันก็จำร้านไม่ค่อยได้อยู่ ครั้นจะพาผู้ใหญ่ไปเดินเข้าตรอกแคบ ๆ เบียดคนเยอะ ๆ ท่ามกลางฝนตก...ไม่น่าจะรอด 55555 ขำป้าจีว่าคงอยากไปเดินด้วย เพราะป้าจีบอกว่า ป้ามีรถช่วยเดินนะ ฉันก็ยังไม่เคยเห็นอุปกรณ์ที่ว่า แต่นึกภาพถนนซอกซอยที่จอแจในจตุจักร ของที่จะซื้อพะรุงพะรัง และคนแก่อายุ 91 ปี กับฉันที่ขนาดตัวคนเดียวยังเดินสะเปะสะปะ...มันไปกันได้เหรอนั่น 5555555
ฝนตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ป้าจีขอแวะอตก.ก่อน คงขอเวลาคิดให้รอบคอบ 5555555 ฉันก็ว่าอตก.พอให้ป้าจีเดินไหว เพราะเล็กกว่า แล้วพื้นก็เรียบ คนแก่เดินได้ ลงไปถึงตลาด ป้าจีแวะร้านคุ้นเคย แม่ค้ากรี๊ดกร๊าดดีใจบอกว่าไม่เห็นป้าจีมาหลายปีแล้ว แต่ท่าทางจะเป็นลูกค้าวีไอพีเลยจำได้ กุลีกุจอมาจูงป้าจีไปนั่ง แล้วป้าจีก็ใช้ปากช็อปปิ้ง 55555555 มีลุกเดินบ้างค่ะ แต่ก็แค่ 2 ร้านตรงนั้นแหละ อ่ะนะ...งี้จะไปเดินจตุจักรกับอ่อง จะไหวเหรอคะคุณป้า 555555 แต่เดี๋ยวก่อน...เจเจมอลล์ก็น่าจะไหวนะ ป้าจีบอกว่าโอเคงั้นไปเจเจมอลล์ แต่ระหว่างนั่งรถจะไปเจเจมอลล์รถติดมาก ท่าทางคนจะเยอะมาก กลัวป้าจีจะเหนื่อยเกินไปน่ะค่ะ เลยบอกว่า ถึงเวลานอนกลางวันของป้าจีแล้วไม่ใช่เหรอคะ 555555 วันนี้อย่าไปเดินเลยนะคะ รถเยอะมาก กว่าจะจอดรถกว่าจะอะไร จะเหนื่อยเกินไปนะคะ ป้าจีก็บอกให้ฉันไปซื้อของแล้วป้าจีจะรอ โห...ป้าจีขา อ่องยังไม่รู้จะหาร้านสารพัดร้านที่จะต้องไปซื้อเจอตอนไหนเลย มันจะใช้เวลานานมากค่ะ สรุปป้าจีให้คนรถไปส่งที่เจเจมอลล์ค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้ คงเข้าใจแล้วนะคะว่าทำไมฉันถึงรักป้าจีนัก?
นับว่าตัดสินใจถูกแล้วที่ขอให้ป้าจีกลับ เนื่องจากคนเยอะมากค่ะ ฉันเดินงง หลงไปหลงมา ของที่จดรายการมาซื้อได้ไม่ครบ แต่ได้ของที่ไม่จดมาเพียบ รองเท้า กับพัด 5555555 ซื้อไปหัดทำ เผื่อช่วยพี่เก็จผลิต ไม่งั้นพี่เก็จต้องบวกค่าเจ็บตา กับปวดหลัง เกรงว่าราคาจะสูงเกินไป แต่จะให้พี่เก็จคิดราคาถูก ๆ ก็ไม่คุ้มเหนื่อยของพี่เก็จ  เลยว่าจะช่วยทำส่วนออเดอร์ที่พี่เก็จทำไม่ไหว  พูดซะดิบดี ยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่าเลยค่ะ 55555555 ที่แน่ ๆ ยังไง ๆ ก็ต้องรักษาลูกค้าไว้ให้ได้ เดินเพลินจน 5 โมงกว่ายังหาร้านรองเท้าพี่เก็จไม่เจอ 555555 เฮ้อ ให้ร้านกะลาช่วยโทรหาพี่เก็จถามรายละเอียดร้านรองเท้า กว่าจะเจอเล่นเอามึน ร้านนี้แม่ค้าน่ารักค่ะ มีน้ำใจช่วยจัดเป้ และทิ้งร้านพาฉันไปส่งถึงทางออกที่จะไปขึ้นรถเมล์ ฝนตกแล้ว แต่ฉันเห็นองุ่น เขาขายไม่แพงค่ะ องุ่นนอก กก.ละ59 บาท ซื้อ 2 กก. 555555 ยังกับว่าของที่มีอยู่ยังไม่เยอะพอนะ ที่ต้องเดินตากฝน ไม่ใช่ว่าไม่มีร่ม แต่ร่มมันอยู่ส่วนไหนของเป้ก็ไม่รู้ 555555 ตอนที่แม่ค้าช่วยจัดเป้ก็ลืมเอาร่มออกมา เลยเดินเร็ว ๆ (เท่าจะที่เร็วได้) ก็มีเป้ตุง ๆ อยู่บนหลัง ในมือยังมีองุ่นอีกถุงใหญ่ ยืนรอ 145 อยู่นาน ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจขึ้น 44 เพราะมาเยอะดี ว่าจะไปต่อรถแถวแฮปปี้แลนด์ ตรงนั้นมี 207 รถถี่กว่า 145
แม้ว่ารถจะติดมาก และท้องเริ่มหิวนิดหน่อย แถมยังเหนื่อย แต่เมื่อถึงเรื่องราวที่พบเจอ ความอารีของป้าจี – พี่ติ๋ว และสีหน้าของพี่เก็จแล้ว ฉันก็อมยิ้มได้ตลอดทาง การขายของเจ็ดวรงค์..มันไม่ได้ทำรายได้ให้ฉันมากมายหรอกค่ะ แต่มันให้ความสุขมากมายบานตะไท ครั้งก่อนโน้น พี่เก็จถามว่าชอบขายของมากเหรอ มีเพื่อนรุ่นน้องของพี่เก็จเขาก็ทำ อยากเอางานมาให้ช่วยขาย ฉันบอกว่า...ฉันขายเฉพาะของที่พี่เก็จทำ 5555555555555