วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ว่าด้วย World Expo in Shanghai 2010

ลองมาทำความรู้จัก world expo ก่อนเป็นไร



ไม่รู้ว่าจะมีใครบื้อเหมือนฉันหรือเปล่านะ ก่อนหน้าที่จะไปเซี่ยงไฮ้ อู๋ได้บอกให้วางแผนไว้เลยว่าอยากจะไปดูพาวิลเลี่ยนของประเทศอะไรบ้าง บ๊ะ...ฉันยังไม่รู้เลยว่าไอ้งาน expo เนี่ยะคนเขาไปดูอะไรกัน แล้วไอ้พาวิลล่ง วิลล่า วิลเลี่ยมอะไรเนี่ย มันมีอะไรให้ดู? รู้จักแต่ว่าเจ้าชายวิลเลี่ยมหล่อโคตร (นะ..ว่าจะเขียนแบบให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ ก็ทำท่าจะออกทะเลซะตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มต้น)


คำว่า expo ในความคิดฉันก่อนไป คิดว่ามันจะเป็นงานแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีอันล้ำหน้า แต่คำตอบที่ชาญฉลาด (คิดเอง) หลังจากกลับมา คำว่า expo นั้นไซร้ก็คืองานนิทรรศการ งานเปิดตัวนั่นเอง world expo เป็นงานที่แต่ละประเทศเข้ามาเปิดซุ้ม(หรือที่เรียกว่า pavilion) เพื่อประชาสัมพันธ์จุดเด่นของประเทศตัวเองให้ โลก ได้รู้จัก ก็แล้วแต่แต่ละประเทศเขาจะตีโจกย์กันนะคะ อย่างอังกฤษเนี่ย..ถ้าคิดว่าจะเข้าไปเจอ tower of London, BigBen ฯลฯ ก็เห็นจะผิดหวัง ส่วนจะเป็นยังไงไว้ตามฉันเข้าไปเที่ยวก็แล้วกันค่ะ coming soon อิอิ


คุยกับแก้ววันก่อน แก้วบอกว่าเคยไป world expo ที่เยอรมันมา มีของขายเยอะ พวกรัก shopping บางคนอาจจะถูไม้ถูมือเตรียมไปช็อปเต็มที่ ขอบอกว่า world expo ที่เซี่ยงไฮ้ แตกต่างจากงานวัฒนาแฟร์, เพลินจิตแฟร์โดยสิ้นเชิงเด้อค่ะ ตามที่ไปเที่ยวมา ก็มีร้านค้าบ้าง ส่วนมากเป็นร้านขายของที่ระลึกของงาน ตามพาวิลเลี่ยนเท่าที่เข้าไปมา มีที่เดียวเองค่ะที่มีขายสินค้า คือ Austria Pavilion ออสเตรียนะคะ ไม่ใช่ออสเตรเลีย ดังนั้นไม่ต้องเตรียมตัวเข้าไป shopping ในงาน ถ้าอยากช็อป ก็อย่าไปเดินให้กระดูกสันหลังเคลื่อนเลยค่ะ ค่าบัตรเข้างานก็แพงไม่น้อย ไปเดินช็อปตาม People’s square, Nanjing ฯลฯ จะสุขสันต์กว่าเยอะค่ะ


ทีนี้เมื่อเข้าใจแล้วว่าจะไปดูอะไรในงาน ก็มาถึงเรื่องการเตรียมตัว (และหัวใจ) ก่อนเข้าชม เพราะ expo ที่จัดที่เซี่ยงไฮ้นั้น ใหญ่โตมโหฬารมากค่ะ มีด้วยกันถึง 5 โซน วางขนาบไป 2 ฝั่งแม่น้ำหวงปู...กุ้งกับปลาไม่หวง มีเยอะ 5555 แม่น้ำหวงปูเป็นแม่น้ำประจำเซี่ยงไฮ้เหมือนเจ้าพระยาที่แบ่งฝั่งพระนคร กับธนบุรี แต่แม่น้ำหวงปูกว้างกว่าหน่อย จะหน่อยแค่ไหนถามพี่หน่อย..เอ๊ย..ต้องไปทัศนาดูเอง 5555555 ถ้ามีเวลาเพียง 1 วัน เพียง 1 โซนก็เที่ยวได้ไม่หมด อย่าว่าแต่ทั้งงานเลย


เพราะนอกจากขนาดพื้นที่ใหญ่โตแล้ว ยังจะต้องผจญกับคลื่นมนุษย์ที่เข้าคิวกัน พาวิลเลี่ยนที่ป๊อป ๆ เนี่ยะ เข้าคิวไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมงเลยนะคะ พวกที่ไปกันเป็นกรุ๊ปจึงควรให้ทัวร์ช่วยจองคิวให้ จะได้ไม่เสียเวลา ถ้าทำวิธีนี้ ก็ช่วยให้เก็บพาวิลเลี่ยนได้หลายพาฯ อยู่ แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ก็ไม่มีทางเที่ยวทั้งหมด 5 โซนได้ใน 1 วัน แม้คุณจะเป็นระดับอาคันตุกะของประเทศมาเองก็ตาม


ฉะนั้นจึงควรกางแผนที่ แล้ววางแผนก่อนล่วงหน้า 1 คืน แผนที่นั้นเมื่อย่างเหยียบนครเซี่ยงไฮ้ หาได้ทั่วไปค่ะ รับรองว่าหาง่ายกว่าหาอาหารกินเสียอีก ในโรงแรมก็มีให้หยิบเพียบ หลายเวอร์ชั่น ไปถึงปุ๊บ พักผ่อนกายาแล้วก็หยิบแผนที่มากางศึกษาดูเลยค่ะ ถ้ามีเวลาเข้าชมงาน 1 วันขอแนะนำว่าให้เลือกชม 1 โซนพอ ก็เลือกเอานะคะ ว่าแต่ละโซน โซนไหนมีพาวิลเลี่ยนที่อยากดูมากที่สุดก็ให้ไปที่โซนนั้น ของไทยอยู่โซนบีค่ะ เป็นโซนที่ฉันไม่ได้ไป 5555555 ฉันเข้าแค่ 2 วันทั้ง ๆ ที่มีบัตร 3 วัน เหลืออีก 1 วัน ใครจะซื้อต่อติดต่อมาได้นะคะ ขายต่อใบละ 130 หยวน มี 2 ใบค่ะ 02-664-3056 (อู๋) ปกติ 1 วันนี่ 160 หยวน ดังนั้นซื้อต่อเนี่ยะประหยัดไปถึง 30 หยวน ก็น่าสนใจใช่ป่ะ 5555555555


ถ้าอยู่เมืองไทย อยากศึกษาพาวิลเลี่ยนก่อนเดินทาง (ซึ่งเป็นวิธีที่ฉลาดยิ่ง) ก็ไปที่ http://en.expo2010.cn/pavilions/hqzg.htm เลยค่ะ จะได้รับรายละเอียดมากทีเดียว ประมาณอ่านจบแล้วบรรลุ ไม่ต้องไปเดินให้ปวดขา 55555 ทำไมนอกเรื่องประจำเลยฟระ???


ทีนี้ก็มาถึงเรื่องการเตรียมตัวเข้างาน เนื่องจากพื้นที่ของงานใหญ่โตมาก แต่ละโซนใหญ่กว่าโรงเรียนวัฒนาของเราทั้งโรงเรียน จำนวนคนก็มหาศาล โอกาสพลัดหลงจึงมีค่ะ โดยเฉพาะที่ไปกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน มีสิทธิ์แตกกระจายจนขวัญกระเจิดกระเจิงสูงอยู่ ให้สังเกตและจดจำไว้เลยค่ะว่า ธงของไกด์ของคุณนั้นสีอะไร ลักษณะอย่างไร เพราะสีที่เอามาทำธงก็มีอยู่ไม่เกิน 6-7 สี เปอร์เซ็นต์สีซ้ำสูง แต่ธงก็มีความใหม่ความเก่าต่างกัน บางธงขาดวิ่นเหมือนผ่านศึกมาหลายสมรภูมิ บางธงก็เพิ่งเปลี่ยนใหม่ ผ่านการซักรีดมาอย่างเอี่ยมอ่อง เดินใกล้ ๆ อาจจะได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม 555555 เว่อร์แระ ถ้าโชคดีเจอธงที่เอาตุ๊กตาขึ้นก็จำง่ายหน่อยค่ะ นอกจากจำธงแล้ว ก็จำหน้าไกด์ด้วยนะคะ 555555 อย่างที่บอก มีกรุ๊ปไปเที่ยวเยอะ ฉะนั้นโอกาสที่สีธงซ้ำกันน่ะมีสูง ไม่ใช่ไปออกันที่ธงสีส้มอยู่นาน พอจะขึ้นรถ เฮ้ย..ผิดคัน 5555555

จะให้ดี ให้นัดว่าถ้าหลงกันก็เจอกันที่ทางออกไหน  (มีหลายทางออกอีก 5555555) ให้แน่แช่แป้ง ต่างคนต่างกลับไปรอที่โรงแรมเลย เว้นว่ากลับไม่เป็นก็นัดให้เรียบร้อยว่าถ้าหลงให้เจอกันตรงนี้ ๆ แล้วจำให้ดีนะคะ สถานที่นัด นัดเป็นเจอที่หน้าพาวิลเลี่ยนไหนสักอันก็ได้น่าจะง่ายอยู่  แต่ก็ไม่ง่ายเท่าไรหรอก 55555 แต่ละพาฯ มันใหญ่ จะให้ดีที่สุดคือ อย่าหลงดีกว่า

เพิ่มอีกข้อสำหรับคนที่กลัวหลงฝูง เอามือถือไปด้วยเลยค่ะ แล้วไปซื้อซิมที่นั่นใส่ ถ้ามีมือถือจะอุ่นใจไม่น้อยเลยค่ะ ฉันน่ะหลงฝูงมาแล้วครั้งนึง ใจงี้แป้วเลย เพราะดันจำทางออกจาก expo ไปสถานี subway ไม่ได้อีกต่างหาก โชคดีที่เดินหาจนเจอ


ขอเรียบเรียงเป็นข้อ ๆ ดีไหมคะ เรื่องการเตรียมตัวเข้างาน


1. เครื่องแต่งกาย ดูสภาพอากาศให้ดีค่ะ ถ้าเป็นช่วงมีแดด ให้เตรียมร่ม, หมวก, พัด, ทาครีมกันแดดให้เรียบร้อย  ถ้าฝนตกก็ควรมีหมวกหรือร่ม  หนาวก็มีเสื้อกันหนาว อย่าแบกอะไรพะรุงพะรังเกินจำเป็นนะคะ ลำพังตัวเปล่า ๆ เนี่ยก็เดินจนจะหมดแรงพอแล้ว รองเท้าเหมือนกันค่ะ ให้เลือกที่ใส่วิ่งได้ยิ่งดี เพราะเวลาเย็น ๆ เนี่ยะ ได้วิ่งทำเวลาแน่ 555555


2. น้ำดื่มห้ามนำเข้าไปค่ะ ในงานมีขายไม่แพงหรอกค่ะ ถ้าเอาเข้าไปเนี่ยะ ด่านจะให้ทิ้งหมด ไม่ต้องแปลกใจถ้าเดินเข้าไปแล้วเจอคนยืนดื่มน้ำหน้าด่าน 55555 พวกที่ไม่รู้มาก่อน ซื้อเข้าไปแล้วเสียดายไงค่ะ ขอทิ้งในท้อง 55555


3. บางคนอาจจะอยากนำเสบียงอาหารเข้าไป ก็สะดวกดีนะคะ พวกหิวตลอดควรมีอาหารติดไปบ้าง เวลาเข้าคิวนาน ๆ จะได้มีกิน หลายคนเอาผักผลไม้ไปค่ะ ล้างให้สะอาดก่อนเลย ห้องน้ำมีเยอะก็จริง ความสะอาดพอถูไถอยู่ แต่กลิ่นห้องน้ำมันเลี่ยงยากเพราะคลื่นมนุษย์ที่เข้าไปขับถ่าย ไปตด จะเข้าไปล้างผลไม้ในนั้น ไม่กลัวกลิ่นติดเหรอ 55555 ผักผลไม้ยอดฮิตที่เห็นคนเอาไปกินในคิวก็มีมะเขือเทศ แตงกวา แอ๊ปเปิ้ล พีช ส่วนตัวฉันเลือกหมากฝรั่งค่ะ


4. ถ้าสูงอายุ ให้หาซื้อ back supporter ใส่ไปด้วยก็ดีค่ะ ปวดหลังสุด ๆ อ่ะ พกเคาน์เตอร์เพนหรือน้ำมันมวยไว้ทาด้วยก็ดี ที่จริงจะบอกว่าให้เอาหมอนวดส่วนตัวไปด้วย แต่คิดไปคิดมา หมอนวดเองก็อาจจะหมดแรงซะเองก่อน 55555 เขามีที่นวดแบบพกพาใส่แบตตารี่ค่ะ ตอนไปตลาดหน้าสวน yuyuan เห็นมีขาย แต่ไม่ได้ซื้อ ไม่คิดว่าจะเมื่อยสาหัสขนาดนี้ ส่วนคุณแม่บุญธิดาขอรถเข็นได้นะคะ ดีเสียอีก ไม่ต้องเข้าคิวบางพาวิลเลี่ยน เขาให้สิทธิ์ผู้สูงอายุเข้าไปชมได้เลย ซึ่งแปลว่าคุณลูกปิยธิดาก็เข้าไปก่อนได้เนื่องจากต้องพาคุณแม่เข้าไป อาจจะพ่วงคุณป๊ากว่าเป็นญาติด้วย แต่ไม่ใช่พ่วงเป็นสิบนะคะ 55555555ผู้สูงอายุกว่า 70 เอาพาสปอร์ตไปด้วยนะคะ หลายที่เขาให้สิทธิ์พิเศษไม่ต้องต่อคิวค่ะ
รถเข็นขอที่ไหนไม่ทราบ 5555555 ต้องลองถามทัวร์ดูนะคะ (แล้วจะบอกทำวิมานอะไร?)
5. อันนี้สำคัญไม่น้อยค่ะ โดยมากแล้วเราจะอยู่กันถึงค่ำ ศึกษาอากาศให้ดี อย่างช่วงที่ฉันไปกลางวันร้อน กลางคืนหนาว ถ้าไม่เตรียมเสื้อหนาวไปก็สั่นซิคะ เพราะลมแรงมากตอนเย็น ๆ ได้ลมเสริมจากแม่น้ำ อากาศสดชื่นมาก ๆ ค่ะ


6. สำหรับคนที่เดินทางไปเอง ให้เตรียมเศษเหรียญไว้หยอดซื้อตั๋ว subway ด้วยค่ะ ไม่รู้เป็นไง พอตกค่ำมืด ตู้ซื้อตั๋วรถไฟอัตโนมัติที่เคยรับแบ้งค์พร้อมกัน out of service รวมไปถึงเคาน์เตอร์พนักงานขายตั๋วด้วยค่ะ มีทางเดียวที่จะได้ตั๋วคือเอาเหรียญหยวนไปหยอด ราคาไม่เกิน 4 หยวนค่ะ ถ้าใกล้ก็ 3 หยวน เตรียมไปให้พอกับจำนวนคนนะคะ เหรียญ 5 -10 ใช้ได้ค่ะ แต่ธนบัตรน่ะไม่ได้ แถมไม่มีที่ให้แลกอีกต่างหาก จะบ้าตายกันมาแล้ว เหอ ๆ แท็กซี่ก็เรียกยากค่ะ ยิ่งไปโรงแรมที่ไม่ป๊อป หรือไม่อยู่ในย่านสำคัญ ๆ ก็เรียกไม่ได้เลยแหละ แต่ถ้าไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ มีรถโค้ชมากันเองก็สบายหน่อย พวกขึ้นรถเมล์ก็เหมือนกันค่ะ เขาไม่ทอนเงิน แต่รถเมล์เนี่ยะใช้แบ้งค์ได้นะ
เน้นย้ำไว้อีกทีนะคะ เพราะว่า subway เขามีเวลาปิด (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน) ยิ่งไปช่วงใกล้เวลาปิด บรรยากาศตอนซื้อตั๋วเนี่ยะชุลมุนพอ ๆ กับซื้อตั๋วคอนเสิร์ตไมเคิล แจ็คสัน ไม่มีใครสนใจใคร อย่าหวังไปขอแลกกับใครเลย ยิ่งถ้าพูดจีนไม่ได้ยิ่งจบเห่ มีสิทธิ์เดินยาวกลับโรงแรม 555555


7. ตั๋ว expo เขามีกฎนะคะว่า 1 admission per day ถ้าเข้าแล้วออก ก็ expire ไปสำหรับวันนั้น แต่ก็นะ ไม่มีใครเข้าไปแล้วออกมาหรอกค่ะ นอกจากงานจะใหญ่แล้ว รอบ ๆ expo ก็เวิ้งว้าง ไม่มีอะไรให้ออกไปเดินเล่น 5555555 บอกไว้เผื่อพี่จ๋อเกิดลืมอุปกรณ์กล้องบนรถ จะออกมาหยิบแล้วกลับเข้าไปอีกไม่ได้ ฉะนั้น กรุณาตรวจทรัพย์สินของท่านให้ครบก่อนเข้างานค่ะ


8. มีอะไรอีก 5555555 คงหมดแล้วมั้งคะ ก็เที่ยวงานกันให้สนุกนะคะ อ้อ! เผื่อคนชอบสะสม แต่ละพาวิลเลี่ยนเขาจะมี visa stamp ไม่ใช่แสตมป์นะคะ แต่เป็นตราประทับวีซ่า ถ้าใครชอบสะสมของแปลก 555555 ก็เตรียมสมุดเปล่าไปให้เขาประทับตราให้ได้ทุกพาวิลเลี่ยนค่ะ หรือจะซื้อสมุดพาสปอร์ต expo ก็ได้ มี 3 เกรดให้เลือก 5 เล่ม 5 สี ไปเลือกหาซื้อตามชอบใจค่ะ แต่ถ้าไม่อยากลงทุน (เหมือนฉัน) ก็เอาสมุดหรือแม้แต่ map หรืออะไรไปให้เขาปั๊มวีซ่า เขาก็ปั๊มให้ทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่ซีเรียสอะไร มีบางคนไม่ได้เข้าไปชม แต่ดันสะสมวีซ่าได้เยอะ เขาใช้วิธีไปขอปั๊มที่ทางออกของแต่ละพาวิลเลี่ยน


น่าจะหมดแล้วนะคะ 5555555 สำหรับคนที่ไม่อยากเข้าแต่ละพาวิลเลี่ยนเพราะกลัวคลื่นมหาชน แนะนำให้นั่งรถชมงานค่ะ คนละ 10 หยวน หรือจะไป Expo culture center ที่โซน A คิวไม่ยาวค่ะ ขึ้นไปข้างบนจะมีทางเดินรอบนอกให้ sight seeing ได้ทั้งงานเลย ในนี้เป็นพลาซ่าค่ะมีร้านขายสินค้า (แต่ไม่มากนะ) ร้านอาหาร ราคาไม่แพง post office และโรงหนังด้วยค่ะ


สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ ต้องไปเก็บรูปสวย ๆ ที่บริเวณ Expo Axis เป็นกรวยไอติมโคน หลาย ๆอัน มีทุกโซนค่ะ บริเวณทางเดิน เข้าไปต้องเห็น กลางวันเป็นสีขาว แต่กลางคืนเปลี่ยนได้หลายสีค่ะ ไปดูเอาเอง อ้อ..พอหัวค่ำเขาจะมีพาเหรดแสงสีด้วย ไปดูช้าไปหน่อย ตัวเตี้ยเลยมองไม่ถนัดคนที่อยู่ข้างหน้าสูงกว่าเราทั้งนั้น แต่ก็พอเห็นบ้างล่ะค่ะ

คิดว่าข้อมูลพอสังเขปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้จะเข้าชมไม่มากก็น้อยนะคะ
ปล.ใครมีคำถามก็เม้นท์ไว้นะคะ จะพยายามหาคำตอบให้ค่ะ



ข้อมูลและภาพของท่านนี้ น่าเข้าไปอ่านค่ะ เป็นหาข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9343136/E9343136.html

3 ความคิดเห็น:

Rarin กล่าวว่า...

เพิ่งได้อ่าน blog ของอ่องจ้ะ .. มีประโยชน์มากๆ ค่ะ .. ขอบคุณนะคะ .. ประเดี๋ยวจะเข้าไปดูรูปจ้ะ ..

Unknown กล่าวว่า...

Ong , You are fantastic. You can collect all the information and write so well. If I were you as soon as I got back to hotel I would lie down and fall asleep and when I woke up I would forget everything. Anyway, I remember I use to stay at hotel on NanJing Road.That was all I remember about Shanghai. Love you...P'Jane

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

พี่หนิง - ด้วยความยินดีค่ะ

พี่เจน - อ่องพกไดอารี่ค่ะ บันทึกทุกอย่างตลอดเวลา ถ้ารอถึงเย็นอย่างพี่ว่าก็ ไม่ไหวเหมือนกัน กลับถึงโรงแรมเนี่ยหมดแรงชัวร์ พี่เจนจำได้อย่างเดียว ต้องไปใหม่ค่ะ จะได้ไปเก็บ memory เพิ่มนะคะ