วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

Batik to continue

ดอกเอ๋ย ดอกไม้~~ดอกอะไรเสียบไว้ในรูหู้


เรียนวันที่ 2 อาจารย์ก็ให้วาดดอกชบา 2 ดอกแล้ว โหย..แล้วจะทำได้ไหมเนี่ยะ ฉันโอดอยู่ในใจค่ะ ก่อนอื่นเลยก็เอาลายมาลอกก่อน เนื่องจากผ้ามัสลินเป็นผ้าบาง ๆ เอากระดาษลายมาวางไว้ข้างใต้ แล้วเอาโฟมหนุนอีกที ก็สามารถมองเห็นลายแล้วค่ะ



ดินสอที่จะใช้ควรเป็นดินสอสำหรับเขียนผ้าค่ะ ที่มี 2 หัวสีแดงข้างน้ำเงินข้างนั่นแระค่ะ ที่แนะนำให้ใช้ 2 สี เพราะเผื่อว่าลอกผิดก็ใช้อีกสีหนึ่งไปแทน จะแยกได้ว่าเส้นไหนที่เราไม่เอา เนื่องจากว่าผ้าไม่สามารถใช้ยางลบ หรือลิขวิดได้ แต่จะใช้ดินสอดำก็ได้ค่ะ ควรเป็น 2 บี 3 บี เวลาเขียนลายให้เบา ๆ มือหน่อยนะคะ เดี๋ยวจะซักไม่ออกค่ะ


การลอกลายนั้น ดูเหมือนยาก แต่จริง ๆ แล้วไม่ยากหรอกค่ะ ก็เด็ก ๆ 4-5 ขวบยังทำได้เลย เพียงแต่ทำครั้งแรก ก็ควรเลือกลายที่น้อย ๆ เส้นหน่อย เพราะจะได้ไม่หลงลืม เดี๋ยวลงลายไม่ครบ ภาพก็จะแหว่ง ๆ ให้เสียอารมณ์ไปเปล่า ๆ อีกอย่างคือ ถ้าครั้งแรก เราทำลายเยอะไป พอลงเทียนไม่ได้ ก็จะท้อแท้ไปซะก่อน



เมื่อลอกลายเสร็จให้ดูให้ดี ๆ ก่อนนะคะ อย่าผลีผลามเอาลายออก ดูให้ดีว่าลอกครบแล้วหรือยัง แล้วค่อยเอากระดาษออกค่ะ พอลอกลายได้เรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนการเขียนเทียนละ ฉันเป็นคนแก่ค่ะ มือสั่นไปตามวัย แต่ก็พบว่าการเขียนดอกไม้เป็นเรื่องง่ายว่าเขียนวงกลมอีก เพราะกลีบดอกไม้นั้น มันจะหยิก ๆ หยัก ๆ เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว จะเขียนเทียนให้ดีต้องใจเย็นค่ะ โดยเฉพาะช่วงเขียนเกสร หรือก้านดอก ต้องให้เส้นเทียนเล็ก ๆ จะได้ดูเรียวสวย ไม่อ้วนเทอะทะเหมือนของฉัน กว่าจะเขียนดอกชบาคู่แรกจบก็แทบสิ้นชีพ..ทำไมเหรอคะ ก็ต้องเกร็งทั้งมือ เกร็งทั้งลมปราณ แถมเขียน ๆ อยู่มีคนมาชนมือ ได้เรื่องเลยค่ะ เทียนกระฉอกหกเป็นตำหนิดวงโต มองเห็นชัดเจนตั้งแต่ 500 เมตร


เอ้าน่า อย่าไปกลุ้มใจมาก มันเป็นงานชิ้นที่ 2 ถ้าทำได้เพอร์เฝ็คก็ไม่ต้องมานั่งเรียนแล้ว ไปทำขายเลย..ไป๊ ฮ่ะ ๆ ๆ ตอนที่เขียนดอกไม้คู่แรกได้จบ ฉันมีความภาคภูมิใจมากค่ะ โอ้..เราก็ทำได้ไม่เลวเลย ถึงเส้นมันจะขลุกขลักไปหน่อย แต่มันก็ดูเป็นดอกไม้แหละน่า...


การลงสี ดอกไม้มี 2-3 สไตล์ค่ะ คือไล่แสงแรเงา กับทำกลีบ ฉันไม่ชอบการทำกลีบ เพราะมันต้องพิถีพิถันจนหมดอรรถรสความสนุก แรเงายังพอกรุ้มกริ่มไปได้บ้าง ที่จริงน่ะชอบระบายเรียบ แต่อาจารย์เขาสอน ลูกศิษย์ที่ดีก็พึงก้มหน้าก้มตาปฏิบัติไป จะทดลองอะไรแปลก ๆ ไว้ไปทำที่บ้านโลด ดอกไม้สีชมพู แดง ส้ม ม่วงฯลฯให้ใช้สีม่วง ดำ หรือน้ำเงินดำทำเงา แต่เป็นสีเหลืองนิยมใช้สีเขียวค่ะ


ส่วนใบไม้ ให้ระบายปลายของใบไม้ที่อยู่ด้านบน ด้วยเหลืองมะนาวแล้วใช้สีฟ้าระบายส่วนที่เหลือ ฟ้ากับเหลืองก็จะกลายเป็นเขียวค่ะ ถ้าใบไม้ด้านล่างก็ลงสีเขียว ส่วนใต้ดอกก็แรเงาสีดำเพื่อให้เกิดมิติ


สำหรับทุ่งทิวลิป เมื่อระบายดอกแล้ว ให้ลงน้ำข้างหลังค่ะ แล้วค่อย ๆ แตะสีฟ้ามาระบายเป็นช่วง ๆ เอาสีม่วงแซมบ้าง ตรงนี้ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำไปแหงนดูท้องฟ้าไป เอ้อ..ควรเป็นท้องฟ้ายามเย็น ๆ หน่อยนะคะ หรือจะเป็นตอนเช้า ๆ ก็ได้ ท้องฟ้าจะแจ่มใสน่ามอง แต่ถ้าบังเอิญทำตอนกลางคืน หรือเวลาฝนตก ก็อย่าไปมองเลยค่ะ ใช้ความทรงจำผสมผสานกับจินตนาการดีกว่า


ระบายฟ้าเสร็จ ไม่ต้องรอให้ผ้าแห้ง เอาพู่กันเบอร์ 6 สะอาด ๆ มาเช็ดกับผ้าให้แห้ง แล้วจุ้มสีเขียวมาตวัดตรงโคนดอกขึ้นไปเป็นริ้ว ๆ พยายามให้พลิ้วไหวสักหน่อย จะได้ดูเหมือน ทุ่ง ทิวลิปอันโรแมนติก เสร็จแล้วอย่ามัวนั่งกินขนมค่ะ เวลาและนารี เอ๊ยวารี ไม่เคยรอใคร ล้างสีเขียวออกแล้ว จุ่มเหลือง แตะแต้มลงไปเบา ๆ ให้เป็นจุด ๆ อย่างในภาพ แล้วเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง ชมพู ม่วง เพียงแค่นี้เราก็ได้ทุ่งทิวลิปประกอบฉากแล้วค่ะ


เป็นไงคะ ดูแล้วชื่นใจไหมคะ ไปพักดีกว่าเหนื่อยแล้ว คราวหน้าจะมาย้อมสีผ้ากันล่ะค่ะ.

ไม่มีความคิดเห็น: