วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พะโล้ โห่ฮิ้ว

ทำไมต้องโห่ฮิ้วด้วย ทำเป็นทาร์ซานไม่เคยชิมพะโล้ไปด้ายยย



เกิดอาการติดใจ หลังจากที่มัสมั่นออกมาอร่อยได้เหรียญ 5555555 อะไรจะขี้คุยปานนี้ 5555555 ที่จริงส่วนหนึ่งต้องชื่นชมอาจารย์ค่ะว่าสอนดี คนเราเกิดมาจากท้องแม่ จะทำอะไรเองเป็น ถ้าโลกนี้ปราศจากครูอาจารย์ เราหลายคนก็คงไม่ได้รู้จักกัน เราหลายคนก็คงไม่ได้ทำเมนูแปะไว้ในเฟชบุ้ค ดังนั้นครูบาอาจารย์จึงควรเป็นผู้ได้รับการกตัญญูกตเวทิตาอย่างยิ่ง


พะโล้นั้นมีหลายสูตรอยู่ ที่ฉันรู้ก็มีสูตรคนจีน กับสูตรคนไทย และสูตรมั่ว ๆ ฉบับอ่องศรี 5555555 สูตรมั่ว ๆ นั้นสมัยที่ไปเรียนที่พิกซ์เบิร์กเนี่ยะ ความรู้เรื่องครัวน้อยมากถึงน้อยที่สุด วันหนึ่งอยากกินพะโล้ขึ้นมา ก็ไปซื้อไก่ย่างมาครึ่งตัว มาถึงก็หย่อนใส่หม้อ เทซอสแม๊กกี้ ซีอิ้วดำ ไข่ต้ม เติมน้ำแล้วต้ม ๆ ๆ 5555555 มั่วมากมายใช่ป่ะ แต่อร่อยแหละ แต่จำได้ไม่ชัดว่าอร่อยแบบอร่อยจริงๆ หรือจำเป็นต้องอร่อย


สูตรคนจีน...มีบรรพบุรุษนั่งเรือมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เลยโตมาด้วยอาหารจีน ทั้งย่า และยายทำอาหารเก่งมากค่ะ เวลาไหว้เจ้าไม่เคยซื้ออาหารสำเร็จรูป แต่จะทำเองทุกอย่าง แม้กระทั่งแป้งทำกุ้ยช่ายก็ยังโม่เองเลย สมัยเด็ก ๆ ชอบไปเล่นเครื่องโม่ตอนพวกผู้ใหญ่กำลังวุ่นวายทำอาหารร้อยพันอย่าง 555555 ไม่ช่วยแล้วยังไปเพิ่มภาระอีก พะโล้คนจีนมักใส่ไก่+หมู เพราะเป็นของจากไหว้เจ้า แล้วก็มีรสเค็มนำ


ผิดกับพะโล้ไทย พะโล้ไทยจะออกหวานนำ ฉันกินพะโล้ไทยครั้งแรกก็ที่โรงเรียนวัฒนานี่แหละ เคยคิดอยากทำมาหลาย(สิบ)ปี แต่ไม่มีคนสอน เพิ่งมาสบช่องตอนนี้เอง หลังจากที่มัสมั่นสำเร็จด้วยดี ก็ขอให้พี่ลีสอนทำพะโล้


“ง่ายมาก” พี่ลีบอก 5555555 ทุกครั้งที่ขอให้สอนอะไร ส่วนมากคุณนายจะบอกงั้น แต่ก็จริงแหละค่ะ ดูอย่างมัสมั่นซิคะ สอนแบบง้าย ง่าย แถมอร่อยเหาะอีกต่างหาก


ฟังดูแค่เครื่องปรุงก็เหมือนจะเยอะกว่ามัสมั่นอีก แต่เอ้า...อารมณ์สนุกจากเมนูก่อนยังเหลืออยู่..สู้สักตั้งเถอะว้า หลังจากจด ๆ เครื่องปรุงจากพี่ลี ก็ควงพระมารดาไปเสรีมาร์เก็ตกัน กลับมาถึงบ้านก็เก็บของเข้าตู้เย็น เหนื่อยค่ะไว้ค่อยทำพรุ่งนี้ 55555555 เช้ามาก็จัดการล้างหมูสันในกับหมูสามชั้นที่ซื้อมาอย่างละ 1 ขีด ปอกกระเทียม 1 หยิบมือ (แม่ค้าให้มา 55555 เพราะขอซื้อแค่นั้นเขาคิดตังค์ไม่ถูก) ล้างรากผักชี ไข่เป็ดเมื่อวานให้แม่บ้านออฟฟิศช่วยต้มและปอกเปลือกให้แล้ว วางซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำปลา เกลือ ผงพะโล้ ในที่ ๆ หยิบสะดวก


เริ่มเปิดหม้อตุ๋นแล้ววางน้ำตาลปึก 2 ก้อนค่ะ กดน้ำร้อนจากหม้อไฟฟ้าจะได้ร้อนเร็ว ฮี่ ๆ หัสแรกเริ่มเดิมที พี่ลีสอนว่าให้เคี่ยวน้ำตาลจนมันเป็นคาราเมล แต่ระหว่างรอน้ำตาลละลาย ก็มานั่งคุยกับพี่ลีไป ตำกระเทียม-รากผักชี-พริกไทยดำไป ความที่ครกใบใหญ่มากกกก เครื่องเลยล้นครก ตำลำบากมาก 5555555 ตอนแรกนึกว่าต้องตำให้ละเอียด พี่ลีเหมือนจะรู้ ทั้ง ๆ ที่คอมก็ไม่มีกล้องเวบแคม บอกมาว่าไม่ต้องตำให้ละเอียดนะ โอเคไม่ละเอียดก็ไม่ละเอียด เดินไปคนๆ น้ำตาลที่ละลายแล้ว เติมซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำปลา เกลือ แล้วชิมดู โอ๊ะ อาหย่อยแฮะ ทีนี้ก็ต้องคนให้งวดละ คนไปคนมาเมื่อย 555555 ไหลโชกขนาดนั้นมันจะเป็นคาราเมลเมื่อไรเนี่ย 555555 เดินมานั่งพักผ่อนที่หน้าคอมต่อ พี่ลีคงนึกอะไรได้ เลยบอกว่าไม่ต้องรอข้นแล้ว ใส่ทุกอย่างเว้นไข่กับเต้าหูลงหม้อได้เลย 55555 กลายเป็นอาจารย์ใจร้อนซะเอง เล่นเปลี่ยนสูตรเปลี่ยนวิธีทำกลางอากาศแบบนี้ เดี๋ยวพะโล้ก็ไม่อร่อยหรอก แอบคิดในใจนะคะ เป็นผู้รู้น้อยต้องเจียมตัวค่ะ ผู้รู้มากสอนมาอย่างไรก็ทำตามไปแล้วกัน


เลยเทพะโล้ลงไปผสมๆ จนละลายแล้วเทของตำลงไป บรรจงวางหมู เติมน้ำท่วมหมูแล้วปิดฝาหม้อ มานั่งคุยกับพี่ลีต่อ 1 ชั่วโมงต่อมา หมูยังสีชมพูอยู่เลย 55555555 เห็นหรือยังคะว่า...หม้อตุ๋นเนี่ย...มันใจเย็นขนาดไหน ประมาณค่อย ๆ แผ่ความอบอุ่นโอบอ้อมเนื้อหมูอย่างอ่อนโยนสุด ๆ -*- เลยมาปรึกษาพี่ลีว่า อันปุ่ม auto หรือ high อันไหนไฟน่าจะแรงกว่ากัน พี่ลีก็ไม่แน่ใจเท่าไร เพราะไม่รู้จักหม้อตุ๋นโบราณขนาดนั้น 55555 แต่ก็ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็น high นะ ไอ้เราตั้ง auto เพราะคิดว่าน่าจะแรงสุด ลองปรับเป็น high ดู


อีก 1 ชั่วโมงต่อมา หมูเริ่มเป็นสีเทา 5555555 ทีนี้ก็ใส่เต้าหู กับไข่ลงไปค่ะ แทบจะล้นหม้อเลย 5555555 ต้องเติมน้ำอีกหน่อยไม่งั้นเต้าหู้กับไข่ไม่จมน้ำ พอเติมน้ำลงไปก็ปิดฝา มานั่งคุยต่อ พักใหญ่ ๆ เดินไปดู มันน่าจะสุกดีแล้วนะ แต่ทำไมหน้าตามันแปลก ๆ ? 555555 เหมือนหมูต้มมากกว่าพะโล้อ่ะ ตัดสินใจชิม...โอ้ยโหยยย มันน้ำสระผมหมูชัด ๆ นอกจากกลิ่นแล้ว ทั้งรูปทั้งรสไม่มีอะไรบ่งบอกความเป็นพะโล้เลยสักนิด แง๊....พี่ลีช่วยด้วยยยยย


พี่ลีบอกว่าพอเติมน้ำลงไป ทุกอย่างก็ต้องจืดซิ ...แล้วทำไมไม่บอกแต่ต้น -*- .... เลยลุกไปเติมซีอิ้วดำ แรก ๆ ก็ค่อย ๆ เทแล้วคน คนแล้วเท ดูสีไปเรื่อย ๆ ต่อมาเท ๆ ๆ ลงไปเลย 555555 เพราะสีมันสวยช้าเหลือเกิน กว่าสีจะถูกใจ พะโล้ก็หวานเจี๊ยบ กรำ...5555555 เลยระดมพลน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำปลา เกลือลงไปช่วยอย่างเร่งด่วน กว่าจะได้รสที่ใช่ก็เล่นเอาเหงื่อตก กลับมาบ่นกับพี่ลี 555555 เป็นคนขี้บ่นมากค่ะ


พี่ลีบอกว่าถ้าได้เคี่ยวน้ำตาลจนไหม้เป็นคาราเมล สีจะสวยเร็วกว่านี้...ก็แล้วคุณพี่เปลี่ยนโปรแกรมของฉันทำไมอ่ะ เง้อ......ความที่เปิดหม้อบ่อย ปกติหม้อเนี่ยะใช้เวลามากอยู่แล้ว เปิดทีมวลความร้อนก็วิ่งออกมาที ...เริ่มทำตั้งแต่ 8 โมง กว่าจะได้กินข้าวเที่ยง...นู่นค่ะ...บ่ายสอง แต่ก็อร่อยมากค่ะ แถมสีก็สวยน่ากินอีกต่างหาก ^____^ น้ำหนักขึ้นเยอะเลยค่ะ ทั้งมัสมั่น ทั้งพะโล้ใน 1 อาทิตย์ หุ่นเริ่มตั้งครรภ์ 555555555 เมนูหน้า ทำแกงส้มดีกว่า



ไม่มีความคิดเห็น: