วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คุณครูผกาย ประกายเรืองรองของอดีตกาล

ผู้มีบุญคุณกับฉันอย่างใหญ่หลวงเป็นการส่วนตัว

ตอนแรกที่พี่เจนมีบัญชาลงมาว่าให้ฉันกับป๊ากร่วมคณะไปกราบเยี่ยมครูผกาย ฉันก็รู้ตัวแล้วว่า..พี่เจนจะให้ฉันทำสกู๊ปแหง ๆ แล้วก็อิดออดไม่อยากไปเลย ข้อหนึ่งเพราะครูผกายเป็นใคร ฉันไม่รู้จัก ไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อมาก่อน แล้วทำไมฉันต้องไปด้วย? ในเมื่อฉันก็ได้ยืนยันไปแล้วว่า...จะไม่ร่วมทีมทำวารสาร ในเมื่อสาราณียากรเขาบอกว่าเขาอยากทำงานคนเดียว ก็จะปล่อยให้เขาได้ทำงานคนเดียวจริง ๆ ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวไม่ว่าทางใด ๆ แต่พี่เจนก็คงห่วงวารสารประสานายก แล้วฉันเองก็เกรงใจพี่เจนในระดับหนึ่ง อีกอย่างได้ยินว่าครูวรรณดี ครูพรรณมหา ครูสาลินีก็ไปด้วย จึงคิดว่า...เอาน่า..ไปเที่ยวกับครู

ฉันคงเสียใจแย่ถ้าไม่ได้ไป  เพราะการไปทริปนี้ทำให้ฉันได้เจอพี่แดง ปริศนา ผู้ชักนำฉันไปพบพี่ตุ้มในเวลาต่อมา ตามบทความก่อนหน้านี้  ฉันรู้สึกถึงบุญคุณของครูผกายอยู่จนวันนี้ เพราะการได้เจอพี่ตุ้ม เป็นยิ่งกว่า heavenly investment ที่ครูได้ประสาทพรพวกเราทุกคน

ครูผกายเป็นหญิงชราที่แข็งแรง ปราดเปรียวเกินอายุเป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่อาวุโสกว่าใครในศูนย์อภิบาลฯ แต่ก็ไม่ต้องพึ่งรถเข็นเลย แถมเดินได้ดีมากด้วย ฉันจูงมือครูก็จริง แต่ก็แค่จูงมือไม่ได้ประคองครูเดินอย่างประคองคนแก่ทั่วไป กลับมายังบอกคุณแม่ตัวเองเลยว่า ครูผกายเดินดีกว่าคุณแม่เสียอีก ...ได้เรื่อง คุณแม่งอนไป 10 วินาที 555555555

นอกจากสมองยังแจ่มใส อาจจะตอบอะไรช้าไปบ้าง และหลงลืมบางอย่าง แต่ก็คุยกันรู้เรื่องดีค่ะ ป๊ากแซวกระทบชิ่งมาทางฉันว่า..โห คุณครูเก่งจังค่ะ ไม่ต้องใช้ไม้เท้า กับเครื่องช่วยฟัง  แง่งงงงป๊าก...ทีฮูทีอิทนะยะ  นอกจากนี้ครูผกายยังเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ที่ชอบคือ ครูติดชื่อนพพรมาก เราก็ยิ้มแป้นไปเท่านั้น แต่ครูวรรณดีเบรกว่า...ไม่ใช่เรา ๆ คนละนพพร นพพรที่คุณครูพูดถึงคือพี่นพพร มานพพงศ์  ครูขา...หนูรู้น่า...แต่หนูอยากปลื้มนิ


ไอ้ที่เป็นโจ๊กประจำทริปคือพี่จ๋อสุดหล่อ เอ๊ย สวยของพวกเรานี่เอง 55555555 คิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ขำกลิ้งทีนั้น ครูผกายสับสนในเพศของหนูสรวรรณเป็นที่ยิ่ง  เพราะนอกจากว่าจะหน้าตาคมคาย (หล่อป้าด) แล้วซอยผมเกือบเกรียน แล้วยังชอบแต่งตัวแบบทอม ๆ แถมหุ่นแบนหน้า แบนหลัง 555555555 ยากที่จะให้ใครดูว่าเป็นผู้ฉิงนะพี่จ๋อนะ ฉันเลยต้องย้ำกับครูผกายว่าครูขา วัฒนาน่ะโรงเรียนหญิงล้วนนะคะ ม่ายมีผู้ชายค่ะ  แต่ครูก็ยังคงติดสงสัยอยู่ไม่วาย ถ้าใครได้ฟังเทปการสนทนาแล้วจะทราบเองค่ะ ต้องขอบคุณพี่บุษที่คอยถือเทปตามครูประมาณไม่พลาดสักช็อตเด็ด ส่วนฉันกับพี่จ๋อก็มีหน้าที่เก็บภาพไปตามเคย

ตอนนี้ฉันเริ่มติดใจกับทริปเยี่ยมเยียนศิษย์เก่าแล้วล่ะค่ะ ดีจริงๆ ที่ได้อยู่ในวังวนของวังหลังวัฒนา เป็นอะไรที่ฉันตระหนักอยู่เสมอว่าแสนโชคดีที่พ่อแม่เอาฉันเข้าโรงเรียนนี้ แล้วตอนที่คุณแม่ฉันห่วงว่าฉันจะเรียนกับเด็กปกติได้หรือไม่ เพราะหูตึงแต่อ้อนแต่ออกก็กลัวว่าเพื่อนๆ จะล้อเลียนแล้วฉันจะมีปมด้อย แต่อ.จ.เพ็ญเพ็ชรได้ยืนยันกับคุณแม่ว่าจะดูแลให้ไม่ต้องห่วง  ทำให้ฉันได้เติบโตมาในสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุด  ได้พบเพื่อนดี ๆ มาก ๆ มากมาย ได้เจอรุ่นพี่ หรือแม้แต่หลานของครู เมื่อมีคำว่า "วัฒนา" เป็นตัวกลาง ทุกอย่างก็เป็นของดีสำหรับฉันไปเสียสิ้น  ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ค่ะ 

รักวัฒนาเหลือเกิน
ปล.ภาพประกอบบทความ ขอเชิญทัศนาที่ facebook นะคะ

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

น่ารักดีจ๊ะ คราวหน้าชวนมั่งนะ ล่วงหน้าหน่อยจะได้ไปด้วยคน คราวนี้บอกกระชั้น ไม่ได้ลาล่วงหน้า ไปบ่ได้ อยากไปเยี่ยมคุณครูเก่าๆ จัง
พี่จี๋

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

ครั้งหน้าเห็นพี่เจนบอกว่าจะไปเยี่ยมท่านผู้หญิงสุมาลีนะคะ ได้ยินว่างั้น พี่จี๋อยู่ใกล้พี่เจนกว่าอ่อง สะกิดถามซิคะ อ่องก็รู้ตัวล่วงหน้า 2-3 วันเองค่ะ