วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

กุศล..ผลบุญ นั้นมีจริง


ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

ด้วยความที่เป็นคนถ้ารับงานอะไรมา ก็จะทำให้ถึงที่สุด และเสร็จอย่างเร็วด้วย เพราะความที่เป็นคนหัวใจเป็นไฟ (หัวใจเป็นไฟ กับมีไฟในหัวใจนี่ต่างกันนะคะ) พอรับปากพี่เจนว่าจะเขียนเรื่องไปกราบเยี่ยมครูผกายแล้วก็เดินเครื่องทันที  ติดชะงักตั้งแต่จุดสตาร์ทเลย 5555555555 ครูผกายเป็นศิษย์วัฒนารุ่นไหนหว่า?

ตอนแรกคิดว่าหนังสือทะเบียนศิษย์เก่าน่าจะมีชื่อครูผกาย ปรากฎว่าตกหล่นค่ะ เอ้า แล้วทำไงล่ะ ไม่ได้ ๆ ถ้าไม่รู้รุ่นนี่เขียนไม่ได้หรอก เพราะความเป็นคนเขียนหนังสือที่ไม่เหมือนชาวบ้าน  เมื่อสนใจแล้วอยากรู้ข้อมูลตรงไหน ต้องได้มาค่ะ...ถ้าไม่ได้นี่ จะพาลเขียนไม่ได้ซะดื้อ ๆ

จำได้ว่าศาลาโคล์มีหนังสือดังกล่าวก็แวะไป  ปรากฎว่าเล่ม 1 หายไปซะงั้น ทำไงล่ะทีนี้ น้ำผึ้งก็บอกว่าให้ไปที่ตึกหน้าบ้าน หาครูวิ ที่ห้องครูใหญ่จะมีหนังสือนี้  พอเจอหนังสือ ก็ไม่เจอชื่อครู  แปลว่าครูผกายนี่เป็นศิษย์เก่าจัด ยามนั้นรู้สึกหงุดหงิดแล้ว ครูวิ..ถึงจะไม่ได้รู้จักกันมากมายอะไร แต่คงพอเข้าใจนิสัย 555555 เลยบอกว่าโทรหาครูวรรณดีซิ แล้วจัดการต่อสายให้  ครูวรรณดีรับทราบก็บอกให้ป๊ากไปติดต่อกองทะเบียนขอดูสมุด อ้างชื่อครูวรรณดีได้เลย

นี่คือที่มาของเรื่องราวทั้งหมด และนี่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่น้อยคนจะได้ทัศนาด้วยลูกตาตัวเอง ได้สัมผัสด้วยมือค่ะ
สมุดเล่มโต กระดาษกรอบ แทบจะร่อนในขณะที่พลิก  ต้องบรรจงพลิกหาชื่อครูผกายแบบสุด ๆ แหละค่ะ ดีที่ชื่อครูอยู่ต้น ๆ ไม่เช่นนั้น ใครจะรับรองได้ว่ากระดาษจะไม่ขาดไปต่อหน้าต่อตา? สมุดเล่มนี้อายุน่าจะอย่างน้อย ๆ ก็ 100 ปี นี่พูดถึงว่าถ้าไม่ได้ลงชื่อนักเรียนคนแรกในวันแรกเข้าจริง ๆ นะคะ ถ้าเป็นประการหลัง สมุดเล่มนี้ก็อายุ 135 ปีเลยทีเดียว

ที่จริงฉันก็ไม่ใช่คนได้ปลื้มกับของเก่าอะไรนักหนา  แต่ครั้งแรกที่เห็นสมุดเล่มนี้ ตื่นเต้นมากค่ะ ขนลุกเพราะความตื้นต้นบอกไม่ถูก อยากจะพูดว่ารักสมุดเล่มนี้ก็คงเว่อร์เกินไปหน่อย  แต่ว่า....ไม่มีคำไหนจะเหมาะสมเท่าแล้ว  ฉันจึงอั๊พขึ้นบล็อกเพื่อให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ร่วมทัศนาด้วยกัน เพราะสมุดเล่มนี้ คงไม่ใช่สิ่งที่เจ้าหน้าที่จะหยิบยกมาให้ทุกคนชมดูทุกครั้งที่ร้องขอหรอกค่ะ  นี่ถ้าเป็นต่างประเทศ เจ้าหน้าต้องสวมถุงมือสีขาว ยกมาตั้ง แล้วห้ามผู้ใดแตะต้องกระดาษอันศักดิ์สิทธิ์...เผลอ ๆ ห้ามยืนใกล้เกินไปด้วย เดี๋ยวจะหายใจรด ทำให้กระดาษสึกกร่อนเร็วขึ้นไปอีก  แต่บุญของฉัน..เพราะที่นี่ประเทศไทย

วันนี้เจอครูวรรณดีค่ะ จึงได้ข้อมูลมาคอนเฟิร์มว่าสมุดเล่มนี้  เป็นสมุดที่ใช้ตั้งแต่เริ่มตั้งโรงเรียนเลยค่ะ แล้วก็รอดจากสงครามโลกมาด้วยฝีมือ ครูผิน ครูประพิธ ฯลฯ ช่วยกันขนออกมา ถ้าไม่เช่นนั้น ฉันก็คงไม่ได้เห็นเป็นบุญตาแล้วค่ะ  ปลื้มจริง ๆ




ไม่มีความคิดเห็น: