วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

ไปตามหามหาหงส์

แต่ได้มหาอื่นมหาเยอะพ่วงมาด้วย
เรื่องนี้จุดเริ่มต้นมาจากว่าพี่ขุนสามีพี่เก็จอยากให้ฉันถ่ายรูปพี่เก็จตอนปลูกต้นไม้ไว้เพื่อส่งประกวดชิงรางวัลรถยนต์—ไม่ใช่แระ—รถจักรยานพับได้  พี่เก็จก็เลยบอกว่าต้องไปซื้อต้นไม้ก่อน พี่เก็จขา..เอาไอ้ต้น ๆ ประดามีในบ้านพี่ ขุดออกมาแล้วปลูกกลับไปใหม่ก็ได้นะคะ 5555555 แบบว่าบ้านพี่เก็จแน่นไปด้วยต้นเล็กต้นน้อย จนฉันงงว่าซื้อต้นใหม่มาจะแทรกตรงไหนล่ะนั่น? แต่ไม่เป็นไร ชอบไปเที่ยวกับพี่เก็จอยู่แล้ว พี่เก็จเห็นยังไงก็เห็นดีตาม...
ก็นัดกันว่าจะไปเจเจวันพุธ เพราะเป็นวันที่มีต้นไม้มาขายเยอะ ราคาถูกด้วย ก่อนจะถึงวันพุธ พี่นพพร มานพพงศ์โพสต์รูปมหาหงส์ในFacebook เห็นหลายคนเข้ามาคุยกันถึงกลิ่นมหาหอมของมหาหงส์ ถามพี่ลีว่าหอมจริง ๆ เหรอ พี่ลียืนยันอีกคน เลยชักอยากรู้ว่าที่ว่าหอมนั้น หอมจังได๋ เลยบอกพี่เก็จว่าเราต้องซื้อมหาหงส์ด้วยนะคะ
วันอาทิตย์เจอน้องชายคนโตที่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะตี๋ใหญ่วิ่งรอกออกต่างจังหวัดบ่อย เจอหน้าปุ๊บ ตั่วเจ้ก็อ้อนให้ตี๋ใหญ่ซื้อ MP3 ให้ทันที 555555 เป็นพี่ที่ดีจริง ๆ เลยนะ ไม่ให้อะไรน้องไม่ว่า ยังไปอ้อนน้องอีก 5555555 แต่ตี๋ใหญ่ก็จัดให้ตามคำขอ ได้ MP3 มาไว้อัดเสียงแกรนด์เปียโนแล้ว เย้ ๆ ๆ
ตอนแรกก็นัดกันไปแค่ 2 คน แต่ใกล้วันนัด พี่เจนรู้ก็นึกอยากไปด้วย นัดกับอ่องก็งี้....แตกหน่อได้ทุกที... พี่เจนบอกว่าจะมารับที่บ้านพี่เก็จ 11.30 น. แต่พี่เก็จแต่งตัวเสร็จ เตรียมพร้อมตั้งแต่ 10.30 น. วันนี้พี่เก็จดูสดใสในผมทรงใหม่ที่เพิ่งไปตัดเมื่อวาน ปกติพี่เก็จก็ดูเด็กกว่าน้องอยู่แล้ว ตอนนี้เลยดูเป็นรุ่นลูกไปเลย เซ็งเล็กน้อย เพราะอุตส่าห์คบรุ่นพี่แล้วเชียว...แต่...ปลื้มมากกว่า
พี่เจนพาไปกินส้มตำไก่ย่างที่ร้านนิตยา...แถวประชาชื่นนู่น...เล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่บอกว่าอยู่กับอู๋ได้ เจ้าน้องคนนี้ชวนไปกินข้าวทีไร ฉันได้งุงิประจำ เพราะชอบพาไปไกล ๆ เลยโมโหหิว แต่พี่เจนรู้จักน้องมากพอ เลยไปรับแต่เนิ่น ๆ มาถึงร้านได้เวลาพอดี พี่เจนสั่งอาหารเต็มโต๊ะ ไม่ต้องกลัวเหลือเพราะวันนี้ลูกชายมาด้วย กินกันจนอิ่มแปล้แล้วพี่เจนก็พาไปสวนจตุจักรเพื่อซื้อต้นไม้ แต่เพราะวันนี้รถเยอะ วนอยู่นานไม่มีที่จอด พี่เก็จเกรงใจพี่เจน เลยขอลงก่อนเพื่อให้พี่สาวกลับไปทำงานทำการ 555555 พี่เจนเล่าใน fb ว่าตอนลงแล้วฉันบอกให้พี่เจนลดกระจกรถลง แล้วกอด+จูบลาพี่สาว คนมองกันทั้งตลาด แต่ฉันไม่ยักกะรู้นะ 5555555
เล่าข้ามไปหน่อยนึง คือตอนที่นั่งรถมาเจเจ ความที่มันนานเพราะว่าไกล พี่เก็จก็เริ่มหน้าไม่ค่อยเสบยเท่าไรอาจจะเพราะอิ่ม ๆ มานั่งรถเลยอึดอัด แต่พอถึงเจเจเห็นต้นไม้เท่านั้นแหละ เด้งทั้งตัวทั้งหน้าทันควัน เหมือนเด็ก ๆ เจอของเล่น 5555555 ระหว่างที่รถกำลังวน คุณพี่ก็หมายตาต้นไม้ที่จะซื้อ ดวงตางี้เป็นประกายวิ้ง ๆ เลยแหละค่ะ เขียนถึงตอนนี้ ยังเห็นวิ้ง ๆ ในตาของพี่เก็จบนจอเลย (ไม่ใช่วิ้งของหล่อนเองเหรอ ตื่นมาตี 2 เขียนบล็อกจนจะตี 5 แล้ว 555555)
“นั่นไงมหาหงส์ ๆ” ฉันล่ะนับถือพี่เก็จจริง ๆ เลย  เพราะพี่เก็จจำร้านได้ เราลงจากรถไกลจากร้าน แต่พี่เก็จเดินกลับมาถูก เป็นฉันคงงงกลับมาไม่ถูกแล้ว
ต้นมหาหงส์เนี่ยมันมหาสูงเลยนะ แล้วจะหิ้วไปไงเนี่ยะนึกภาพไม่ออก พี่เก็จบอกว่า..ซื้อแล้วฝากเขาไว้ แล้วขากลับก็มาเอา แต่ฉันก็ยังงงว่าจะมาหิ้วไปเองยังไงในเมื่อต้นไม้มันสูงกว่าเราสองคน? พี่เก็จบอกว่าเดี๋ยวหารถมาเข็น  ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ไม่ได้ถามต่อ เพราะพี่เก็จไม่อยู่ให้ถามแล้ว โน่น...เดินไปนู่นแล้ว 5555555
วันนี้อากาศร้อน แดดแรง เดินจนหน้าแดง แต่ฉันกลับไม่รู้สึกร้อนมากตามความเป็นจริง เพราะเดินดูต้นไม้กับพี่เก็จนี่เพลินจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ใช่คนชอบต้นไม้อะไรมากมาย แต่ว่าดูพี่เก็จซื้อต้นไม้อย่างเมามัน เหมือนกลัวเงินจะเน่าเนี่ยสนุกจริง ๆ ค่ะ พี่เก็จซื้อแล้วก็ฝากร้านไปเรื่อย ๆ ฉันถามว่าแล้วจำได้เหรอคะว่าฝากร้านไหน? เพราะฉันไม่ได้จำนะ พี่เก็จบอกว่าจำได้ซิ อ่องช่วยเตือนพี่ด้วย  เอ้า...เพิ่งบอกไปแหม็บ ๆ ว่าไม่ได้จำ ยังจะมาให้ช่วยเตือน 5555555 ฉันเลยบอกเอางี้ ฝากไว้ร้านเดียว จะได้จำได้  พอพี่เก็จซื้อฉันก็หิ้วกลับไปฝากไว้ที่ร้านเดิมให้ ส่วนพี่เก็จก็เดินซื้อไปเรื่อย 5555555 เมื่อไม่ได้หิ้ว ก็ไม่รู้สึกว่าเยอะ.... จนมาถึงร้านหนึ่ง ไอ้ที่พี่เก็จจะซื้อ มันอยู่ในกระถางขนาดไม่ย่อมเท่าไร ฉันสะกิดพี่เก็จ...ต้นนี้อ่องยกไม่ไหวนะคะ พี่เก็จบอกว่าฝากไว้ที่นี่ เดี๋ยวตามเก็บ....
“พี่จำเองนะคะ 55555 อ่องจำไม่ได้หรอก ความจำสั้น”
พี่เก็จบอก... “เออ ๆ พี่จำได้น่า”
ฉันก็คิดว่าพี่เก็จน่ะจะจำได้ (แต่โปรดติดตาม) เพราะไม่น่าจะใช่ครั้งแรกที่พี่เก็จมา แต่น่าจะทำเป็นประจำ ก็เลยเดินดูพี่เก็จซื้อ ๆ ๆและก็ซื้อ แปลกแต่จริง...พี่เก็จชอบปลูกต้นไม้ แต่ถ้าถามว่านี่ต้นอะไร พี่เก็จไม่ค่อยรู้หรอกค่ะ เห็นถาม ๆ ชื่อจากคนขายต้นไม้ พอกลับถึงบ้าน...ลืมแล้ว....จำได้แต่ไอ้ที่พื้น ๆ ประมาณหม้อข้าวหม้อแกงลิง
เดิน ๆ มาที่ร้านหนึ่ง เขามีพัดลมไอน้ำ คนขายยืนหลบที่ปล่อยไอน้ำ พี่เก็จบอกหลบทำไมเย็นดีออก ว่าแล้วก็ไปยืนรับไอน้ำแทน คนขายบอกว่าลองมายืนทั้งวันแบบเขาซิ ยืนจนก้นเปียกจะยังบอกว่าเย็นดีออกไหม? 55555555
จริง ๆ ตลาดก็ไม่ใหญ่มากเท่าไร เดินไปเดินมาก็รู้สึกว่าวนกลับมาร้านเดิม ๆ 2-3 รอบ คืองี้ค่ะรอบแรก พี่เก็จเดินสแกนคร่าว ๆ ว่ามีต้นไม้ไหนน่าสนใจ  รอบสองสกรีน คัดเลือกว่าจะซื้ออะไรมั่ง ต้นเล็กก็ซื้อไปเลย ต้นใหญ่ ๆ ก็ขอเดินคิดดูก่อน 5555555 แล้วกลับมาซื้อในรอบที่ 3 รอบ 4 รอบ 5  คือซื้อรอบ 3 ยังไม่หนำใจ เงินยังเหลือเยอะเกินไป
พี่เก็จซื้อมะม่วงมากิน เพราะชักหิว ฉันก็หิวนิดหน่อย แต่ไม่อยากกินให้มือเปื้อน พี่เก็จก็เลยป้อนให้ พี่เก็จน่ารักไหมคะ? พอกินมะม่วงหมด แต่กว่ามะม่วงจะหมด พี่เก็จก็หมายตาต้นไม้เพิ่มอีกหลายเจ้า พอกินเสร็จก็มีพลังไปซื้อต่อ ตอนที่พี่เก็จซื้อต้นกุหลาบหนูต้นเล็ก ๆ จิ๋ว ๆ ต้นละ 35 บาท 3 ต้น 100... พี่เก็จเลยเลือกซื้อ 3 ต้น แต่ตอนกลับมาที่ร้านที่เราฝากต้นไม้ไว้ พี่เก็จเห็นกุหลาบหนูต้นใหญ่กว่า 3 ต้นที่ซื้อรวมกัน แต่ราคาแค่ 30 บาท! พี่เก็จบ่นเจ็บใจ แล้วก็ควักอีก 30 บาทซื้อแก้เจ็บใจอีก 1 ต้น  ฉันนึกขำ ๆ ว่าถ้าเดินไปเจอต้นใหญ่กว่านี้ ราคาถูกกว่านี้อีกเรื่อย ๆ พี่เก็จจะซื้อแก้เจ็บใจหมดเจเจไหมเนี่ยะ 5555555
พอตอนท้ายรายการ พี่เก็จก็ซื้อต้นไม้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเราไม่สามารถหิ้วไปฝากไว้ที่จุดเดียวได้ แต่ฉันก็ทึ่งเหมือนกันที่คุณพี่จำได้ว่าซื้อของไว้ที่ร้านไหนมั่ง  ซื้อจนกระเป๋าตังค์เบาขึ้น 10 กิโล พี่เก็จก็หน้าบาน สบายอกสบายใจ พร้อมกลับบ้านไปเอ็นจอยปลูกต้นไม้แล้ว ถึงตอนนี้ก็ว่าจ้างรถเข็น แล้วตามเก็บต้นไม้ รถเข็นแบบที่เขาเข็นขายไม้กวาดมั่ง เสื่อมั่ง รับซื้อของเก่ามั่งตามซอกซอยน่ะค่ะ
นึกภาพคนใหญ่คนโตสมัยศรีธนญชัยที่เดิน ๆ ไปมีเด็กถือเชี่ยนหมากเดินตามต้อย ๆ แต่เปลี่ยนจากเชี่ยนหมากเป็นรถเข็นซาเล้งแทน แล้วเชื่อไหมคะว่าพี่เก็จซื้อต้นไม้จนวางเต็มรถเข็นเลยแหละ ยังมีต้นแก้วกระถาง 30 นิ้วอีก 1 ต้น โอ้แม่เจ้า จะขนกลับยังไงเนี่ย?
ก็ว่า...มารอโบกรถแท็กซี่อยู่นาน เพราะแต่ละคันพอเห็นต้นไม้ก็ขับหนีไปหมด 555555 นับว่าโชคดี เพราะเราได้รถแท็กซี่ยอมรับเราคันนึง ทั้งคนทั้งต้นไม้อัดแน่นรถ พอถึงบ้าน...มีเรื่องให้เจ็บใจอีกแล้ว...555555 พี่เก็จลืมต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น ที่บอกให้โปรดติดตามตอนต้นนั่นแหละค่ะ ลืมทั้งต้นทั้งชื่อ 5555555
“เจ็บใจ ๆ” พี่เก็จบ่นไปปลูกต้นไม้ไป ไอ้ฉันก็หัวเราะไป ถ่ายรูปไป  “อ่องไม่เตือนพี่เลย”
“เอ้า.....”  ใครจะไปจำได้หมด? จะไปซื้อมหาหงส์ แต่ได้ต้นมหาเยอะอย่างนี้ ใครจะไปจำได้หมดล่ะคะ 5555555555
แต่พี่เก็จเจ็บใจไม่นาน พอได้ลงมือปลูกต้นไม้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ ปลูกไปก็พูดไป “มีความสุขจริง ๆ ได้ปลูกต้นไม้”  แค่ดูพี่เก็จปลูกต้นไม้ ฉันก็ยังเพลินเลย ฉันเคยปลูกต้นไม้เหมือนกันสมัยอยู่ระยอง แต่มาอยู่กทม ไม่ชอบปลูกเท่าไร น้ำยังขี้เกียจรดเลย พูดถึงตรงนี้ก็นึกถึงตอนที่พี่เก็จไปที่บ้านกับพี่หนิง พี่ติ๋ง พี่เก็จเห็นต้นไม้ยืนตายซากที่ชั้น 3 บ่นสงสารต้นไม้ไปเป็นปี หลังจากที่คลุกคลีกับพี่เก็จมาพอสมควร จึงได้เข้าใจแล้ว เพราะพี่เก็จมีหัวใจ hug the world พี่เก็จบอกว่าเพิ่งมาชอบปลูกต้นไม้ตอนที่เกษียณจากงาน ทุกวัน ๆ ปลูกต้นไม้ รดน้ำ เวลามานั่งมอง ๆ ดูผลงานแล้วมันชื่นใจ 
ฉันเป็นคนเฉย ๆ กับต้นไม้ ก็ชอบบ้างบางที แต่สวนบ้านพี่เก็จ..หลังจากที่ไปเที่ยวบ้านพี่เก็จมาหลายครั้ง ได้เห็นเจ้าของบ้านเอาใจใส่ ความงามของสวนก็เฉิดฉาย  ยิ่งเวลาถ่ายรูปออกมา พื้นที่เล็ก ๆ แค่นั้น แต่ให้ความรู้สึกได้ว่ามันช่าง “เยอะ” ทั้งขนาด-ความสวย-ความร่มรื่น  
ฝนเริ่มลงเม็ด และตกหนักตอนพี่เก็จปลูกต้นไม้เสร็จแล้ว คิดดูซิ-แม้แต่พระพิรุณยังรักพี่เก็จ ช่วยรดน้ำให้ หลังจากกินข้าวเย็น ฉันยังกลับไม่ได้เพราะฝนตกหนัก จึงได้เวลาฟังแกรนด์เปียโน เย้ ๆ รอมาทั้งวันเพื่อช่วงนี้เลยนะเนี่ยะ แต่ไม่กล้า request เพราะพี่เก็จน่าจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว  วันนี้ฉันมี mp3 มาอัดด้วย พี่เก็จบอกหลังจากที่เล่นจบแล้วว่าห้ามเอาไปให้ใครฟังนะ 5555555 เพราะวันนี้พี่เกร็ง แบบว่าปกติเล่นแบบสบาย ๆ พอจะอัดเสียงเกิดอาการตื่นเวที 55555555
แต่พี่เก็จขา รู้ไหมว่าเสียงเปียโนตื่นเวทีของพี่เก็จทำให้ 3 ชั่วโมงบนรถเมล์ขากลับไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เพราะมีเพลงที่ฟังแล้วนั่งอมยิ้มไปได้ตลอดทาง
กลับไปที่จุดเริ่มต้น...เพราะมัวซื้อต้นไม้เพลิน กว่าจะถึงบ้านก็เย็นแล้ว แถมเมฆครึ้ม แสงน้อย ...ทำให้จับภาพพี่เก็จตอนปลูกต้นไม้ได้ไม่แจ่มดังใจ  วันรุ่งขึ้นคุยกับพี่เก็จ...พี่เก็จบอกว่ามาถ่ายใหม่ละกัน ฉันเลยบอกว่าวันนี้ไหม?  พี่เก็จร้องเฮ่ย! 55555555 แบบว่าฉันยังไม่หายเหนื่อยเลย  และที่สำคัญยังไม่หายเบื่อไอ้เพลงลาวดวงเดือน เพราะถ้าอ่องมาเนี่ยะ กินขนมเชื่อได้ว่าต้องขอให้เล่นเพลงนี้ให้ฟังอีกแหงม ๆ 5555555

ไม่มีความคิดเห็น: