วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ปลูกต้นไม้ให้ป่าสดชื่น คืนความสดใสให้อารมณ์ตัวเอง

ลัลล้า ลัลล้า ~~~~~~

หลายวันมานี่ฝนตกทุกวัน เลยนึกถึงต้นไม้ที่ไปปลูกไว้ที่เขื่อนศรีนครินทร์กับชาวแก๊งสุโค่ยเมื่ออาทิตย์ก่อน ป่านนี้ต้นไม้น้อย ๆ คงจะลัลล้ากับหยาดฝน แต่เทวดาเจ้าขา..น้ำฝนน่ะ มันจะเยอะไปป่าวคะ เดี๋ยวต้นไม้ต้นน้อยของหนูน้ำท่วมปอดตายก่อนโต
เมื่อเริ่มคิดถึงต้นไม้ ก็เลยเรื่อยเปื่อยไปถึงเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เรา 4 คนเดินทางไปปลูกต้นไม้ตามประสาคนว่างงาน ปราศจากภาระและปัญหาอื่นทั้งหลายทั้งปวง  ตอนแรกที่พี่เจนชวนไปปลูกป่า ก็นึกว่าแค่ไปปลูกต้นไม้กัน แต่ความที่ป่ามันไกล เลยต้องค้าง 1 คืน ก็คงจะประมาณบ้านเล็กในป่าใหญ่  วันต่อมา (วันเกิดพี่เจน) พี่เจนก็ส่งชุดชาวเขาเผ่าอีก้อปนกระเหรี่ยงมาให้ บอกว่าวันที่ไปกาญจน์ให้ใส่ชุดนี้ ไม่ใช่ให้ใส่ตอนไปปลูกต้นไม้ แต่ให้ใส่กลางคืน ก็โอเคไม่มีปัญหา เพราะลองชุดดูก็เข้ากับหน้าดี 55555
แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันมากกว่าที่คิดไว้หลายเท่า  เพราะเราไปกับชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน ซึ่งสมาชิกล้วนแล้วแต่ระดับหัวกระทิ ชมรมนี้เป็นการรวมตัวของศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีชั้นนำของประเทศคือ วัฒนา มาแตร์ เซนต์ฟรังซ์ เซนต์โย จิตรลดา ราชินี สตรีวิทย์ สายปัญญา และ สปอท. เพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคมในวาระต่าง ๆ  การที่พวกเราได้ติดตามพี่เจนไปด้วยทั้ง ๆ ที่เป็นแค่ลูกกระจ๊อก เป็นเพราะพี่เจนต้องการให้ฉันนำมาเขียนเผยแพร่ในวารสารของโรงเรียน แต่ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ 555555 กลับมาจากกาญจน์ร่วม 2 อาทิตย์แล้ว ไม่รู้เป็นไร เขียนหนังสือไม่ได้เลย
แต่วันนี้ขอบันทึกลงในบล็อกไว้กันลืม เผื่อบิ้วด์อารมณ์ได้เมื่อไร จะได้มีข้อมูลไว้เขียน  ไม่ใช่อารมณ์มา เมมโมรี่ไป..555555 มีหวังโดนสมาชิกแก๊งเล่นงานแน่ 
ในเมื่อมีแต่เครื่องเพชร เอ๊ย ...คุณหญิงคุณนายและผู้หลักผู้ใหญ่ระดับนายกศิษย์เก่าแต่ละโรงเรียนในทริป ความสะดวกสบายจึงอยู่ในเกรดเอบวก พูดง่าย ๆ ว่าเงินที่เก็บคนละ 1 พันสำหรับการร่วมทริป กับสิ่งที่ได้รับ...เกินความคาดหมายมากอยู่
เพราะมันผ่านมาแล้ว เกือบ 2 อาทิตย์ ก็เลยชักจะเลือน ๆ จำได้มั่งไม่ได้มั่ง 555555 ท่านหัวหน้าแก๊งอย่ามีน้ำโหเลยนะ แบบว่าสมองลูกแก๊งคนนี้ใกล้ถึงวาระปลดระวางแล้ว  ก่อนวันเดินทางพี่เจนบอกว่าให้ใส่กางเกงสีดำ เสื้อจะเอาไปให้วันเจอกัน อ้าวววพี่เจน จะให้เปลือยบนออกจากบ้านเหรอคะ 5555555 เปล่าหรอกค่ะ ล้อเล่น คือก็ใส่เสื้ออะไรไปแล้วแต่ แล้วไปเปลี่ยนเป็นเสื้อสีฟ้าของชมรม ความที่ฉันมีกางเกงสีดำน้อย และจะต้องไว้สำหรับไปงานศพหลังจากกลับมาจากกาญจน์ จึงใส่กางเกงดำเหมือนกัน แต่ลายพร้อยเชียว 55555 เป็นกางเกงที่เหมาะกับการบุกป่าลุยโคลน ... ก็จะไปปลูกต้นไม้ในป่านิ จะใส่เสื้อผ้าดี ๆ ทำไม จริงป่ะ
เห็นเสื้อแล้ว...อุแม่เจ้า ทำไมมันถึงฟ้าแจ๋ขนาดนั้นเนี่ยะ แต่ดู ๆ ไปก็สวยดี เป็นผ้าลินินตัดเย็บประณีต ทีนี้ก็เข้าทีมได้แล้ว พวกเรา 3 คน อ่อง พี่จ๋อ ป๊าก น่าจะเด็กที่สุดในคณะ...55555 เหตุผลหนึ่งที่ชอบไปไหน ๆ กับพี่เจนเพราะสดชื่นดี ทุกทีก็เด็กสุด ผิดกับความเป็นจริงสุด ๆ 555555 
พอผู้คนมากันครบแล้วก็ขึ้นรถโค้ช 2 ชั้น แน่นอนค่ะ ต้องนั่งชั้นบน แต่ไม่ชอบใจเท่าไร เพราะต้องไปนั่งท้าย ๆ คันรถ อดเห็นวิวซิ จริง ๆ แล้วไม่เลวนักหรอกค่ะ เพราะเรา 4 คนไม่ได้เจอกันนานแล้ว พอมาเจอกันก็มีเรื่องคุยกันเยอะ ไม่มีเวลาดูวิวอยู่ดี แล้วเก้าอี้รถคันนี้เป็นเก้าอี้นวดไฟฟ้าด้วย  โอ จอร์จ..มันยอดมั่ก 5555555
ไปถึงรีสอร์ทพอดีอาหารเที่ยง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นโต๊ะจีนนะคะ พี่เจนซื้อตุ้มหูนิลให้น้อง ๆ 3 คน ป๊ากกับพี่จ๋อใส่ทันที ประมาณไม่บ้าเห่อ แค่เป็นสาวเบอร์ห้าเท่านั้นเอง ฉันก็เลยอยากใส่มั่ง แต่...รูมันตันซะงั้น  ใส่ได้แค่ข้างเดียว  อีกข้างป๊ากปลุกปล้ำซะหูแดงเถือกก็ยังใส่ไม่เข้า ระหว่างนั้น กล้องเป็นสิบ ๆ กล้องก็ระดมยิงแฟรชกัน  เกิดมาในโลกดิจิตอล ไม่เปลืองฟิล์ม ถ่ายได้เท่าที่ใจอยากถ่าย ยิ้มซะเมื่อยแล้วเมื่อยอีก จริง ๆ ก็เริ่มหมดอารมณ์ยิ้มเพราะเจ็บหู 555555 ในโต๊ะอาหารนี้เองก็ได้รู้จักพี่ไก่แก้ว ศุลีมาศ เป็นรุ่นพี่วัฒนา และเป็นนายกสมาคมคนก่อนหน้าพี่เจน
หลังจากอิ่มกันแล้วก็ออกเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่สำคัญ คือไปปลูกป่ากันที่เขื่อนศรีนครินทร์ เพราะเคยไปแก่งกระจานมาแล้ว หน้าตาก็คล้าย ๆ กัน เลยไม่ตื่นเต้นเท่าไร แต่สนุกอีตอนกระโดดถ่ายรูปกัน  มันส์มากขอบอก-เรื่องสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกเนี่ยะ  กรุณาอย่าถามนะคะว่าต้นไม้ที่ปลูกน่ะชื่ออะไรมั่ง รู้แต่ว่าไม่ใช่ต้นกฤษณาแน่นอน 55555555
กว่าจะกลับถึงรีสอร์ทก็เย็น ไอ้ปลูกป่ากับกระโดดที่เขื่อนน่ะแป๊บเดียว แต่ที่นานเพราะไปฟังแล็คเช่อร์เรื่องเขื่อนของการไฟฟ้า ต้องไปถามป๊ากโน่นค่ะว่าเขาพูดอะไรมั่ง เพราะหน้าที่จด และเก็บข้อมูลเป็นของเขา ส่วนฉัน...ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักอย่างเดียว 55555  พอกลับถึงรีสอร์ทก็แยกย้ายเข้าห้องเพื่อพักผ่อนเล็กน้อย แล้วเตรียมตัวกับกิจกรรมมื้อเย็น
ฉันพักกับป๊าก พี่เจนพักกับพี่จ๋อ ห้องอยู่ตรงกันแต่คนละชั้น พักผ่อนอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเป็นชุดชาวเขา เชื่อไหมคะว่า สาว ๆ แก๊งอีก้อ เอ๊ย..สุโค่ยแห่งกุลสตรีวังหลังวัฒนาดังกระหึ่มตั้งแต่ปรากฏตัวในชุดแฟนซีชาวเขา เพราะพี่เจนซื้อมาอย่างแทบจะครบเครื่องมีทั้งเสื้อ หมวก กำไลมือ กำไลเท้า และสร้อยคอเงิน เดินไปไหน คนก็เอี้ยวมองกันยังกับ F4 มาเอง 55555555 (เว่อร์ประจำนะ)
ทุกคนก็ไปรวมตัวกันที่สวน เพื่อฟังคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์กวีซีไรต์ ศิลปินแห่งชาติขับกลอนสดกล่อมท่ามกลางอ้อมกอดแห่งหมู่ไม้และดวงดาว แถมจุมพิตจากสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่ายุงพอให้รำคาญนิดหน่อย ไม่เคลิ้มหลงผิดไปว่าอยู่ ณ สวรรค์ชั้นไหน 555555 ชักเว่อร์มากไปแล้วยัยอ่อง  กลอนมันก็เพราะดีค่ะ แต่หนูหิว... 5555555 เมื่อไรอาหารจะยกมาเสิร์ฟเนี่ยะ กินไปฟังไปก็ยังดีนะคะ ทีท่านเนาวรัตน์ยังจิบเบียร์ไปร่ายกลอนสดไปเลยอ่ะ 
ก่อนเลือดจะหมดตัว..ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะพี่เตี๊ยกเอายากันยุงมาให้ทากัน แต่หิว ๆ ๆ ในที่สุดก็จบจนได้ ตาเริ่มลาย หูก็อื้อ จริง ๆ แล้วก็ฟังไม่รู้เรื่องเท่าไร 555555 แต่ดูจากสีหน้าคนรอบตัวแล้ว คงจะเป็นบทกวีที่มีความไพเราะเสนาะโสตอยู่ไม่น้อย เพียงแต่หูเรามันตึง-ใบหน้าหย่อนยาน ก็เลยเหวอ ๆ อยู่คนเดียว(ประจำเลยเนอะ)  อ้าว จบแล้วทำไมอาหารยังไม่มา?  แว้กกกก หิวอ่ะ จริง ๆ ที่กินอาหารเขาจัดอีกที่ค่ะ คงกลัวว่ากลิ่นอาหารจะรบกวนสมาธิทำให้ไม่ได้เสพความไพเราะของบทกวีมั้งคะ 5555555  ก่อนไปถึงที่ ๆ จัดบุฟเฟ่ต์ เขามีโคมให้ปล่อยค่ะ  โหย..ของชอบ อีก้ออ่องรี่เข้าใส่เลย 5555555 แหม เกิดเป็นคนกรุงเทพ ไม่มีโอกาสได้เล่นหรอกค่ะ เพราะถ้าโคมไปตกบ้านชาวบ้านลุกเป็นไฟ คนปล่อยได้เข้าซังเตซิคะ  พวกเรา 4 คนปล่อยกันหลายอันเลย แต่ดูเหมือนพี่จ๋อจะปล่อยน้อยสุด เพราะต้องเป็นคนถ่ายรูป  ฮ้า~~~~ ลืมหิวเลย 55555555 ชอบจริง ๆ 
มื้อนี้เป็นบุฟเฟ่ต์มีอาหารให้เลือกนานาชนิด กินกลางแสงไฟ และแสงดาวค่ะ โรแมนติคเนอะ กิน ๆ ไปอย่างมีความสุขมาชะงักตรงพี่เจนบอกว่า...เดี๋ยวเราต้องมีการร้องเพลงด้วย  เอ้า...ทำไมคุณพี่เพิ่งมาบอกเนี่ยะ พี่จ๋อกับป๊ากไม่มีปัญหาเพราะเป็นนักร้องอาชีพแห่งวง wwa alumni glee club อยู่แล้ว ส่วนพี่เจนก็ชอบร้องรำทำเพลงอยู่ เหลือข้าน้อยอ่องเนี่ยะแหละที่รู้สึกเป็นปัญหา หนูไม่ร้องเพลงงงงง พี่เจนบอกว่าไม่เป็นไรหรอก  lipsing เอาละกัน แหงะ...เพลง you’ve got a friend จะลิปส์ท่าไหนล่ะคะ จำเนื้อไม่ได้เลย  กิน ๆ ไปพักหนึ่งพี่เจนเปลี่ยนโปรแกรม เพราะพวกที่ขึ้นไปแสดงบนเวทีร้องเพลงไทยทั้งนั้น ถ้าเราฝรั่งจ๋า มันจะเป็นที่หมั่นไส้หรือเปล่า อีกอย่างใส่ชุดชาวเขาก็น่าจะร้องเพลงไทย  ก็เลยตกลงจะร้องเมดเล่ย์รำวง  อืม ๆ พอได้ ๆ อยู่ ชอบเพลงดวงจันทร์วันเพ็ญอยู่แล้ว  กำลังสบายอกสบายใจ พี่เจนก็โยนเรื่องทุกข์หนักมาโครมใหญ่ ต้องรำวงด้วยนะ...จ๊ากกกก พี่เจน!!!! ขออ่องนั่งเชียร์ข้างล่างคนเดียวได้ป่ะ 55555555   กินไปคิดหนักไป จะขอกลับห้องนอนเลยได้ไหมเนี่ยะ แต่เปิดประตูห้องด้วย key card ไม่เป็นนี่ซิ  55555555 เฮ้อ....ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่จัดงานเดินมาบอกว่าชุดของเราจะขึ้นเวทีเป็นชุดสุดท้าย เพราะความโดดเด่น เหอ ๆ ๆ แอบภาวนาให้ทุกคนง่วงนอนหลับกันหมดตอนขึ้นเวทีละกัน เครียดชะมัด 55555555 
เวลาต่อมา....ไม่รู้ลงจากเวทีได้ไง ความจำหายไป 55555555 มารู้ตัวอีกทีคือ...ตอนพี่เจนขึ้นไปรับรางวัลชนะเลิศประกวดร้องเพลง โว้ ๆ ๆ ดีใจ ๆ ปลื้มสุด ๆ 555555 แต่คงต้องยอมรับความจริงว่า....พี่เจน พี่ไก่แก้วลงทุนซื้อพวงมาลัยเพื่อมาเป็นคะแนนให้เราหลายเงินอยู่...จะว่าซื้อคะแนนเสียงก็น่ะ 555555555 ไม่ค่อยอยากจะยอมรับเท่าไร มองข้ามดีกว่า อิอิ (ขอบคุณพี่เจน พี่ไก่แก้วนะค้า)
คืนนั้นนอนหลับไปด้วยความผาสุก ตื่นมารับอรุณอย่างสดชื่น ดี๊ด๊าสุด ๆ เพราะวันนี้มีโปรแกรมให้พายเรือเล่น ถึงขนาดไปปลุกพี่เจนจากเตียง 555555 พี่เจนตื่นสายอ่ะค่ะ
เขาจัดอาหารเช้าบนแพค่ะ กิน ๆ อยู่ เอ๊ะมันแปลก ๆ มองไปอีกที อ้าว...แพมันเคลื่อนที่ได้ มีเรือลากจูงไปช้า ๆ อะไรจะโรแมนติกขนาดนี้เนี่ยะ  อาหารอร่อยขึ้นมาทันที 5555555 ป๋าจักรโทรมาถามลูกจ๋อ ว่าเป็นยังไงมั่ง ที่ป๋าจักรเป็นห่วงเพราะมีข่าวออกทีวีว่าฝนตกน้ำท่วม แต่พวกเราไม่เจอฝนเลย ป๊ากบอกฉันว่า...เป็นเพราะเรามากับพวกผู้มากบารมีทั้งหลาย ฝนฟ้าเลยไม่กล้าเป็นอุปสรรค...ว่าเข้าไปนั่น...  เป็นอาหารเช้าที่สนุกสนานมากค่ะ เพราะมีเพลงคาราโอเกะด้วย มีตอนหนึ่งพี่ไก่แก้วร้องเพลง เดินมาถึงโต๊ะที่พี่เจนนั่ง แอบหอมแก้มพี่เจนด้วย  ฉันล่ะชอบนัก ภาพพี่ ๆ น้อง ๆ รักกันเนี่ยะ พี่เจนโชว์ลีลานักลีลาศมือหนึ่งคนเดียวไม่พอ ดึงป๊ากขึ้นไปสอนสด ๆ ด้วย บางทีก็เป็นหางเครื่องร่วมกับพี่ไก่แก้ว ฉันกับพี่จ๋อก็ถ่ายรูปกันมันมือเหมือนกัน พวกเราสนุกกันมากถึงขนาดว่าแพอื่น ๆ ที่ริมท่าก็พากันเต้นรำไปกับเราด้วย เป็นบรรยายกาศที่น่าประทับใจจริง ๆ ค่ะ
พอไปถึงจุดปล่อยเรือคายัค  ฉันก็เป็นคนแรก ๆ ที่ลงแถมกวักมือเรียกพี่เจนมาเป็นฝีท้ายอีก เป็นการตัดสินใจที่ผิดมาก ๆ 5555555 เพราะความที่ฉันไม่เคยพายเรือในน้ำเชี่ยวแบบนี้  เคยแต่พายในน้ำนิ่ง ๆ พายมั่วยังไงก็ได้ จริง ๆ เรือคายัคเนี่ยะ ป๊ากบอกทีหลังว่าต้องจ้ำฝีพายไปทางเดียวกัน แต่ฉันจ้ำมั่ว ๆ 555555 พี่เจนก็ตะโกนบอกแล้ว ดันไม่ได้ยินเพราะถอดเครื่องช่วยฟังฝากพี่จ๋อไว้ เนื่องจากเครื่องช่วยฟังโดนน้ำบ่ได้  สรุปว่าเรือเราเลยหมุน ๆ เป็นนาฬิกาหลายรอบ 5555555 กว่าจะถึงรีสอร์ทพี่เจนคงเหนื่อย และเซ็ง แต่ฉันสนุก 55555555  ขอโทษอีกครั้งนะคะพี่เจนขา   แหะ ๆ  แบบว่าพี่เจนเปียกโชกทั้งตัวเลย ไม่รู้เพราะฉันหรือเปล่าเนี่ยะ ....
ขึ้นจากน้ำก็นึกว่าจะได้เข้าห้องพัก ยังค่ะ ยังมีการรวมตัวที่สนามเล่นเกมกัน สารพัดเกม ทำให้พวกเราได้หัวเราะกัน ได้คุ้นเคยกันมากขึ้น   เรียกว่าพอขากลับในรถทัวร์ เราก็ไม่ได้คุยกันเอง 4 คน แต่ยังคุยกับคนข้างหน้า ข้างหลังด้วย ....  กว่าจะกลับห้องพักก็ประมาณ 11 โมงมั้งคะ จำไม่ได้ รู้แต่ว่าเขาให้เวลาเก็บกระเป๋า อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ แล้วออกมากินข้าวเที่ยงก่อนออกเดินทางไปเที่ยวโรงถ่ายพระนเรศวรที่มีผู้กำกับคนดัง ท่านมุ้ยมาต้อนรับ และพาชมทั่ว หลังจากนั้นก็กลับค่ะ
โห...เล่าไปเรื่อย ยาวเหมือนกันนะเนี่ยะ 55555555  ฉันต้องขอบคุณพี่เจนที่พาฉันมาเพื่อรับทราบถึงกิจกรรมหนึ่งที่สมาคมศิษย์เก่าของเราได้ร่วมกับคนอื่นทำงานเพื่อสังคม ขอบคุณค่ะพี่เจน ขอบคุณไปถึงเจ้าภาพที่จัดงานได้อย่างประทับใจไม่พอ วันรุ่งขึ้นมี sms ยาวเหยียดจากประธานชมรม จนฉันล่ะงง เพราะจำได้ว่าไม่เคยให้เบอร์มือถือไป  sms เนื้อหายาวขนาดว่าเครื่องฉันรับไว้ไม่หมด 5555555 ต้องลบอันเก่าออก ถึงจะรับได้แหละค่ะ 
มันเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ฉันเห็นสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้องวัฒนา พี่ไก่แก้วแม้จะเพิ่งรู้จักกัน ก็ให้ความเมตตาเอ็นดูพวกเราเป็นอย่างดี ฉันหวังว่าความรักดี ๆ นี้จะคงอยู่ในสายสัมพันธ์พี่ ๆ น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ชาววัฒนาทุกคนตลอดไป เหมือนเพลงที่ว่า...ความรักเป็นสายสัมพันธ์ ยึดมั่นใจเราทั้งหลายให้สามัคคีไม่มีวันคลาย.....
ติดตามชมภาพต่าง ๆ ที่ http://www.facebook.com/album.php?profile=1&id=587560548#!/album.php?aid=2080084&id=1014205787&page=2  ได้เลยค่ะ





9 ความคิดเห็น:

Rarin กล่าวว่า...

ชอบมากจ้ะอ่อง .. อ่านเพลิน เหมือนนั่งรถไปเที่ยวกะแก๊งสุโค่ยเลยยยยยยย ... เอ้อ .. อ่องไม่มีรูปตอนร้องเพลงกะตอนรำวงมั่งเหรออออออ ...

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

จะมีได้ไงคะ ตากล้องจ๋อก็ขึ้นไปรำด้วย ต้องขอไปที่ชมรมมั้งคะ เดี๋ยวจะลองขอดูค่ะ

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

ดีจังอ่อง ชอบนะได้อ่านเรื่องที่อ่องเขียน ยังแต่งเก่งเหมือนเดิม บรรยายายแล้วเห็นภาพเลยละ และรูปดูมีความสุขกันจัง โชคดีนะที่ได้เที่ยวแบบนี้บ่อย ๆ

พี่ปุ้ม

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

ขอบคุณที่ส่งบทความสนุกๆ มันส์ๆมาให้อ่าน อย่าลืมส่งมาอีกนะจ๊ะ พี่ว่าอ่องมีพรสวรรค์มั่กๆ ชมรมนี้กับของพี่คล้ายๆกัน ของพี่มีชมรม (เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่น เป็นสโลแกน) ชื่อชมรมว่า ศิลปธรรม จ๊ะ ส่วนชมรมนี้ ไม่เคยได้ไปประชุมกับพี่ไก่ ซักที สงสัยไม่มีบุญได้เข้าชมรมฯ โทรมาทีไร เป็นอันว่าติดธุระทุกครั้ง 555
ดีใจและ โมทนาบุญกับพี่ๆ-น้องๆทุกคนที่ได้ทำความดีให้กับแผ่นดินนะจ๊ะ

พี่โอ๊ะ

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

ชอบมากเลย อ่องเขียนได้สนุกมากค่ะ
พี่เตี๊ยก

อ่อง นพพร กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
อ่อง นพพร กล่าวว่า...

Ong ka,

thank you na ka, give me a big smile and laugh with my notebook. sanook and ta-loak mark mark. You're very talented, my applause to you ka.

P Eah

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

Dearest Ong: You write very well. I feel as if I had been to Karnjanaburi with you 55555...Jane

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

น้องน้ำพริกอ่องจ๋า


อ่านเรื่องไปเที่ยวกับหนูเจนและคณะไฮโซแล้ว สนุกเพลิดเพลินมากกับสำนวนของผู้บรรยาย


แต่ตอนนี้กำลังอยากอ่านเรื่อง พาครูวรรณดีไปเที่ยวตลาดน้ำที่อยุธยาในวันเกิด ด้วยใจจดจ่อ


เพราะไม่มีโอกาสไปด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยเถอะ อยากรู้อยากเห็นจริงๆ อยากดูรูปด้วยจ้ะ


จะได้เห็นว่าใครไปบ้าง จะได้อิจฉาได้ถูกคนไง นะ นะ เล่าให้ฟัง นะจ๊ะ รออยู่.....


พี่เฉิดจ้ะ.