วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ความทรงจำที่ไม่อยากได้ TT^TT


ที่สุดของความอาย (แล้วจะเอามาเล่าทำไมล่ะเนี่ย?????)

งั้นขอเล่าแบบเบา ๆ (ด้วยสีตัวอักษรจาง ๆ 555555555) ก็แล้วกันนะ

คิดอยู่หลายตลบว่าจะเล่าดีไหมเนี่ยะ? แต่เอ้า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เมื่อกล้าเปิดบล็อกก็ต้องกล้าเล่าซิน่า ขายหน้านิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อความครื้นเครงของบล็อก คงไม่หนักหนาอะไรหรอก (เหรอ...?) 

อีกอย่าง ... นี่แหละค่ะ หมายเลขหนึ่งความทรงจำอันขมขื่นที่สุดในชีวิตการเป็นนักเรียนวัฒนาก็ว่าได้ แต่ยามนี้...ยามที่เราเข้าเขตวัยชรา มองย้อนกลับไปก็เป็นเรื่องขำ ๆ ไปได้ 

เหตุเกิดขึ้น ที่เก่า แต่ไม่ใช่เวลาเดิม จำไม่ได้แล้วว่าปีไหน (ไม่อยากจำมากกว่า 55555)

ชีวิตนักเรียนกินนอนนี่ จะว่าอึดอัดก็ใช่นะ แต่มันทำให้มีเรื่องราวสนุก ๆ ให้นึกย้อนกลับไปมากมาย ดังเช่นเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้

สมัยนั้น ตอนเย็นหลังจากอาบน้ำเสร็จ (ประมาณ 18.00-18.30 น.) พวกเราก็จะมีเวลาเล่น / คุยกันกับเพื่อน ๆ ถึง 1 ทุ่ม เมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นเวลา“ท่องหนังสือ” ที่ทุกคนจะต้องไปนั่งเงียบ ๆ ทำการบ้าน หรือดูหนังสือในตึกเรียน  จำกันได้ใช่ไหมคะ

ค่ำนั้น ฉันเกิดปวดท้องอึ๊ขึ้นมา ดูเวลาแล้วอีกไม่กี่นาทีก็ 1 ทุ่ม เลยคิดว่าอั้นไว้ก่อน ให้ถึงเวลาเข้าตึกเรียนแล้วค่อยขออนุญาตครูออกมาเข้าส้วมเพราะถ้าเข้าตอนนี้ เกิดเสร็จไม่ทันเวลาขึ้นตึก ก็กลัวว่าจะโดนครูทำโทษเอา (จริงๆ แล้วครูคงไม่ทำโทษหรอก ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เด็กน่ะค่ะ กลัวไปเอง)

ฉันก็นั่งฟังเพื่อน ๆ คุยกันไป ทีนี้ในกลุ่ม เกิดมีคนเล่าอะไรขำ ๆ ออกมา ฉันก็พรืด..ปล่อยก๊ากตามประสาคนเส้นตื้น พร้อมกันนั้น ด้านล่างก็...พร่วดดดด...

โอ้ว มายก็อด เต็มกางเกงลิงเลย.. TTOTT ..ไม่ใช่อึธรรมดาด้วยนะ แต่ดันเหลวเป็นโจ๊กข้น ๆ

โชคดีที่ไม่มีกลิ่น เพราะมองดูหน้าผองเพื่อนแล้ว ไม่มีพิรุธใด ๆ เกิดขึ้น ^ ^’

TT^TT แล้วนี่ฉันจะทำยังไงล่ะเนี่ยะ ห้องตู้ ก็ปิดไปแล้ว หรือฉันจะต้องแช่กองโจ๊กสีน้ำตาลนี่ไปถึงพรุ่งนี้เช้าเนี่ยะ ตูดมิเน่าไปเหรอ ฝันร้ายชัด ๆ ๆ

ฉันมองหน้าเพื่อน ๆ เพื่อหาคนที่น่าไว้ใจมากที่สุด เพราะฉันทนไม่ได้หรอก ถ้าเพื่อนจะหัวเราะขำที่ฉันขี้แตก (หรือใครทนได้ ก็ยกมือขึ้น) ดูหน้าแต่ละคน น่าไว้ใจทั้งน้าน..เจ้าหล่อนคงจะหัวเราะก๊ากออกมาตั้งแต่ฉันยังเล่าไม่จบเลยล่ะมั้ง

ฮือ ๆ ทำไมชีวิตฉันถึงรันทดขนาดนี้นะเนี่ยะ แล้วฉันก็จำใจเสี่ยงเอากับเพื่อนคนหนึ่ง ดูหน้าแล้วเป็นคนขรึม และก็ใจดีที่สุด (แต่จำไม่ได้แล้วว่าใคร รู้แต่ว่ารุ่น 105)

“เธอ ๆ” ฉันดึงเขาออกมาจากกลุ่ม แล้วกระซิบกระซาบ “มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องเดือดร้อนมากเลย”

“อะไรเหรอ” เขาถามอย่างห่วงใย เมื่อเห็นสีหน้าอมทุกข์(เหม็น ๆ)ของฉัน

“อย่าบอกใครนะ” ฉันกระซิบ ยังไม่ชัวร์ ดึงเขาห่างออกจากกลุ่มไปอีกหน่อย “ฉันขี้ราดน่ะ”

เพื่อนคนนี้ คุณเธอเก่งมากเลยแหละ ไม่มีหลุดยิ้มออกมาเลย กระวีกระวาดพาฉันไปหาครูเวร ครูเวรก็ให้พี่เวร (ที่โรงเรียนรุ่นพี่มศ.5 จะจัดเวรถือกุญแจห้องตู้ ) เอากุญแจไปเปิด หลังจากทำความสะอาด แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ฉันก็ดึงเธอมากำชับว่าอย่าบอกใครนะ ก็ของมันน่าอายจะตายไป ใช่ป่ะ....เขาก็พยักหน้าหงึก ๆ แล้วหันหน้าไปแอบหัวเราะแบบเก็บเสียง คงกลั้นไม่ไหว ก็ฉันเห็นไหล่งี้กระเพื่อมเชียว ฉันไว้ใจคนผิดป่ะเนี่ย -"-


และแล้ว..วันรุ่งขึ้น...วันโลกาวินาศ เรื่องฉันอึแตกก็สะพัดไปทั่วโรงเรียน เดินผ่านไปไหน ๆ ก็มีแต่สายตาหัวเราะขบขันโฟกัสมา (นี่พวกมรรยาทดี)  ที่มรรยาทพอใช้ก็จะหัวเราะให้เห็นจะ ๆ เลย ฉันล่ะอายมาก อยากวิ่งหนีกลับบ้านซะตอนนั้นด้วยซ้ำ แต่กลัวครูภิญโญมากกว่า 555555 เลยจำใจเดินอยู่ในโรงเรียนด้วยความชอกช้ำเหลือประมาณ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแพร่ข่าวลือ  เพราะงานนี้มีผู้ต้องสังสัยถึง 3 คน ครูเวร, พี่เวร, และก็เธออะแหละ ถ้าเธออ่านแล้วนึกได้ ช่วยสารภาพด้วย แง่งงงง ทำไมถึงทำกับชั้นด้าย

ช่างทำกับฉันได้ลงคอนะ ฮึกฮือออออ…

ไม่มีความคิดเห็น: