วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

ตระการตากับศิลป์แห่งแผ่นดิน

ตระการใจกับ heartthrob แห่งวัฒนา
ว่ากันว่าที่สุดของความสุขในมนุษย์เรานั้นคือการได้สมหวัง แต่การที่จะตั้งความหวังนั้นก็ออกจะสุ่มเสี่ยงที่จะพาเราไปคาบเกี่ยวกับความทุกข์อยู่ ถ้าเราไม่มีศิลปะในการคาดหวัง
เมื่อก่อนปีใหม่ ได้รับค่าเรื่องล่วงหน้ามาจากพี่เจน ความที่เกิดอารมณ์แปรปรวน ไม่รู้ว่าเพราะน้ำขึ้นหรือลง รู้แต่ว่าหัวใจไม่ปกติ สมองไม่ทำงาน ก็เกิดความวิตกว่าจะเขียนบทความให้พี่เจนไม่ได้
ไม่รู้จะวิตกไปทำไม ในเมื่อมีความเป็นอัจฉริยะออกปานนี้ 555555 นี่ละ เป็นซะอย่างนี้นะคนเรา ก็จริงนิ ช่วงปีใหม่ที่อยู่กับบ้านคนเดียว อยู่กับความคิดวกวนหมุนเวียนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คิดไม่ออกเหมือนเดินในเขาวงกตแล้วหลงทางไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาหลายวัน สมองหมดแรง ประมาณนั้น
มาประจักษ์ในสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเองก็ตอนที่เพื่อนมาขอให้ช่วยเขียนกลอนวันครู ว่าเอาเข้าจริง ๆ ก็เค้นออกมาจนได้ แต่..ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เขียน ต้องอยากเขียนจริง ๆ ต้องมีความสุขที่จะได้ถ่ายทอดออกมา จะให้เขียนในเรื่องที่ขาดความสนใจ หรือความชำนาญ คิดว่าไม่น่าจะทำได้ เขาเรียกว่าอัจฉริยะวันละหนึ่งนาที ที่เหลือ 23 ชั่วโมง 59 นาที..โง่..เอาน่า ยังดีที่มีเวลาตั้งวันละนาทีเพื่อเป็นอัจฉริยะนะ 5555555
ย้อนกลับไปเรื่องพี่เจน ฉันออกจะเกรงใจพี่เจนอยู่ นอกจากเป็นพี่สาวที่เคารพรักแล้ว ฉันก็อยากตอบแทนความรักความเมตตาที่ได้รับมาตลอดเวลาที่ได้มาสนิทกัน มีไม่กี่อย่างที่ทำได้เพื่อพี่เจน ก็บอกแล้วไงว่าโง่ พอมีอะไรที่พอทำได้ ก็ไม่อยากทิ้งโอกาส ยิ่งพี่เจนอุตส่าห์ให้ตังค์มาล่วงหน้า แถมขึ้นค่าเรื่องให้โดยที่ไม่เคยเอ่ยปากขอ ความเกรงใจก็ยิ่งทวี ยังไง ๆ ก็ต้องเขียนให้ได้ แต่จะเขียนอะไรดีล่ะ?
ให้วันหนึ่งเห็นโอ๋สิริวิมลโพสต์ลง fb ว่าไปเที่ยวงานศิลป์แห่งแผ่นดิน..ใช่เลย งานนี้อยากไปมานานแล้ว ได้เวลาที่จะไปยลสักครั้งตอนนี้เอง แต่จะไปยังไงดี? เพราะไม่รู้ว่ารถเมล์สายไหนไปพระที่นั่ง แล้วจะต้องลงตรงไหน เดินไกลไหม? ที่ห่วงเรื่องเดินไกลเพราะได้ยินมาว่าต้องนุ่งกระโปรงค่ะ เมื่อนุ่งกระโปรงจะลากแตะก็กระไรอยู่ คิด ๆ แล้วก็กลัดกลุ้มเล็กน้อย ลองวัดดวงชวนพี่สาวสุดที่รักไปดีกว่า
ย้อนกลับไปปฐมบทของเรื่อง...ว่าด้วยการคาดหวังและการสมความปรารถนา แม้ว่าเส้นทางของคนทำงานกับคนว่างงานเป็นถนนคนละสายก็ตามที แต่ถนนที่วิ่งขนานกันไปสองเส้นนี้ก็มีบางช่วงไว้สำหรับยูเทิร์นอยู่ดี
ตั้งแต่ที่เจอพี่ตุ้มครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี ก็ไม่ได้เจอพี่ตุ้มบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งที่ฉันเขียนเมลคุยกับพี่ตุ้ม ฉันมักจะชวนพี่ตุ้มไปนั่น ไปนี่ตลอดเวลา โดยเฉพาะโรงเรียนวัฒนา จนได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่ตุ้มลอยมากับสายลมและจางหายไปในแสงแดด ปีที่ผ่านมา พี่ตุ้มแทบไม่ตอบรับเลย ถามว่าผิดหวังไหม ฉันต้องโกหกแน่ ๆ ถ้าตอบว่าไม่ผิดหวัง แต่ความผิดหวังนั้นตั้งอยู่บนความเข้าใจ และยอมรับ มันก็เลยไม่ส่งผลกระทบมากมายอะไร
ครั้งนี้ก็เช่นเคย ฉันลองชวนพี่ตุ้มไปงานศิลป์แห่งแผ่นดิน โป๊ะเชะ เหมือนถูกหวยจากล็อตตารี่ที่บังเอิญเก็บได้ 555555 อ่านเมลนั้นหลายรอบเลย กลัวตีความผิด อ่านกี่รอบ ๆ ก็ได้คำตอบ positive โอ้ลัลล้ามากค่ะงานนี้
ไปถึงบ้านพี่ตุ้มตามเวลานัด จิตตกหน่อยนึงเพราะคุณพี่ดูเหมือนไม่ค่อยอยากไป บ่นว่านอนน้อยง่วงมาก แต่ก็ปากหนักเกินว่าจะพูดว่างั้นยกเลิกไหมคะ กลัวพี่ตุ้มบอกว่า..ดีเหมือนกัน 555555 พี่ตุ้มบ่นนิดหน่อยเรื่องต้องใส่กระโปรง แต่พอไปถึงเห็นผู้หญิงที่ใส่กางเกง หรือแม้แต่ผู้ชายที่ใส่ขาสั้นมา โดนให้ใส่ผ้านุ่งแล้วคงดีใจไม่มากก็น้อยที่ใส่ซิ่นมา
ฉันออกจะเซ็งที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพข้างในได้ โบรชัวร์ หรือหนังสือก็ไม่มีขาย เพราะฉันใช้กล้องเป็นตัวช่วยจดจำมานานแล้ว กฎมีไว้เพื่อละเมิดใช้ได้กับวัฒนาเท่านั้น ที่นี่ใช้ไมได้ ขนาดมือถือ และกระเป๋ายังต้องเก็บไว้ในล็อกเก็ตเลย อนุญาตเพียงเครื่องนุ่งห่มติดกาย และกระเป๋าสตางค์เท่านั้นที่ถือติดมือเข้าไปได้ ก่อนเข้าไปในตัวงาน เขาแจกรีโมตให้ค่ะ ไว้กดและฟังเล็คเช่อร์ ส่วนฉันเอาไว้ถือเล่นแก้เหงามือ เพราะฟังบ่ฮู้ จุ๊กกู้บ่ใจ๋ มันแปลว่าไรอ่ะอ่อง..ม่ายรุ้จิ555555
เพียงก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้าไปในพระที่นั่ง ฉันก็ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมยูโรเปี้ยนสไตล์แล้ว มันช่างอลังการและงดงามเป็นที่ยิ่ง จริง ๆ แล้วแค่เดินชมอาคาร ฉันก็ว่าคุ้มค่าบัตรผ่านประตูแล้วล่ะค่ะ ยังได้ชมผลิตภัณฑ์ทรงคุณค่าสมกับชื่องาน “ศิลป์แห่งแผ่นดิน” ก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณพี่ตุ้มที่พาฉันมาจริง ๆ งานแต่ละชิ้น ประณีต งามหยดจริง ๆ เดินอ้าปากหวอ เพราะตื่นตาตื่นใจตลอดงาน แม้จะไม่รู้ประวัติความเป็นมาของงานแต่ละชิ้นสักเท่าไรก็ตามที ดูแล้วมีความสุขซาบซ่าน มีความภูมิใจที่ได้ร่วมแผ่นดินกับศิลปินผู้จรรโลงศิลปะชั้นสูงเหล่านี้
ได้ชมส่วนหนึ่งของโต๊ะเสวยเหล่าราชอาคันตุกะครั้งในหลวงทรงครองราชย์ครบ 60 ปี งานไม้แกะสลัก ผ้าปักไหมชั้นในที่ให้ความละเอียดสูง ฯลฯ ที่ชอบมากมีอยู่ 2 สิ่งค่ะ คือกระเป๋าย่านลิเภาทรงมะเฟือง น่าจะมีผลิตจำหน่ายด้วย เพราะรูปแบบเก๋ไก๋ลงตัว และปีกแมลงทับ โดยเฉพาะอันที่มีสีเหลือบม่วง ไม่น่าเชื่อว่าธรรมชาติรังสรรค์ได้ขนาดนั้น ไม่แน่ใจว่างานจะมีจัดถึงเมื่อไร แต่อยากขอเชิญชวนให้ไปชมกันนะคะ
เราสองคนพี่น้องเพลิดเพลินอยู่ในงานนานทีเดียว เดินออกมาแดดแรงจ้าลืมตาแทบไม่ขึ้น พี่ตุ้มแวะอุดหนุนสินค้าเยอะแยะไปหมด นัยว่าไว้เป็นของขวัญ แล้วเราก็เดินฝ่าไอแดด แต่ไม่ร้อนมากเท่าไร คงจะเพราะสะสมความเย็นจากภายในพระที่นั่งไว้มากพอ มานั่งจิบกาแฟกันก่อนกลับ พี่ตุ้มพาไปที่ร้านเกรย์ฮาวน์ทองหล่อ เพราะจะได้ซื้อลูกหยีที่ร้านข้าง ๆ ด้วย ไปถึงลูกหยีหมดซะงั้น แต่ฉันก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากมาย
คงเป็นเพราะอิ่มอกอิ่มใจ จากการได้ไปเที่ยวชมพระที่นั่ง ได้ชมงานศิลป์แห่งแผ่นดินกับพี่สาวอันเป็นที่รัก เลยทำให้ท้องไม่หิว นั่งพลิกเมนูอยู่นาน ไม่รู้จะกินอะไร 5555555 พี่ตุ้มคงง่วง อยากกลับไปบ้านนอน แต่คุณน้องก็มัวอ้อยสร้อยสะกดตัวหนังสือในเมนูอยู่นั่นแล้ว แถมตอนกินก็ยังละเลียดอีก คนมันไม่หิวอ่ะพี่ตุ้ม
อย่างไรก็ตาม พี่ตุ้มก็ยังเป็นพี่ตุ้มที่ใจดีเมื่อ 40 ปีก่อนไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะโดนน้องถ่วงเวลาจนเกือบหายง่วง ตอนนั่งรถขากลับ มีร้องเพลงคลอตาม cd ให้ฟัง ..darling you can count on me til the sun dries up the sea until then I’ll always be devoted to you…ฉันเกิดความอยากรู้ในบัดดลว่าใครเป็นคนร้อง เลยถามพี่ตุ้มพร้อมกับพลิกกล่อง cd เพลงหาชื่อนักร้อง พี่ตุ้มตอบหน้าตายว่า..อารุณีร้อง..55555555 อ่านะคุณพี่
เราได้คุยกันถึงเรื่องราวเก่า ๆ ตอนที่พี่ตุ้มพาน้อง ๆ 4 คนไปเที่ยวแดนเนรมิต พี่ตุ้มเล่าว่าตอนเข้าบ้านผีสิงเพราะฉันอยากเข้า พี่ตุ้มเป็นคนกลัวผี แต่ก็น่ะจะปล่อยให้น้อง ๆ เข้าไปกันเองก็กระไรอยู่ เดี๋ยวเอาลูกไปคืนคุณแม่ไม่ครบคนจะเป็นเรื่อง เพราะเอาลูกคุณแม่มาเที่ยวหมดบ้านเลยค่ะ เลยต้องตามเข้าไปด้วยแบบใจตุ้ม ๆ ต้อม ๆ ตื่นเต้นตกใจกับผีที่โผล่มาตลอดเส้นทางอันมืดมน ดีที่น้อง ๆ ไม่รบเร้าขอเข้าไปอีกรอบ 5555555 แหม พี่ตุ้มขา ผีแดนเนรมิตอ่ะเด็ก ๆ ของจริงน่ะอยู่ในโรงเรียนวัฒนาค่ะ
พี่ตุ้มถามว่าทำไมถึงรักพี่? คำถามโลกแตกนะคะเนี่ยะ ฉันว่าการที่เรารักใครสักคน บางครั้งไม่ใช่สิ่งที่จะบอกเหตุผลกันได้ เพราะหลาย ๆ หนที่มันไม่มีเหตุผล หรือเหตุผลฟังไม่ขึ้น เพราะความรักเป็นเรื่องของความรู้สึก ความรักไม่ใช่งานวิจัยนิคะ จะได้มาวิเคราะห์หาเหตุผลที่มาที่ไป และทำไมจึงได้รัก ทำไมจึงคิดถึง ทำไมจึงผูกพัน และท้ายสุดทำไมจึงใจหายหรือแตกสลายกับการจากไป
แต่ความรักที่ดีจะไม่สลายไปกับการหายไปของคนที่เรารัก ความรักที่ดีจะสอนให้เราอดทน มีความเพียรที่จะเข้าใจ และยอมรับวิถีชีวิตและความคิดที่แตกต่างจากเรา ความรักที่ดีจะสอนให้เรารู้จักคาดหวัง และเรียนรู้ที่จะมีความสุขไม่เพียงจากความสมหวัง แต่กับความผิดหวังก็ยังทำให้เรามีความสุขได้ เพียงแค่คิดว่า..ไม่เป็นไร อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตที่ดี..
ไม่ได้พูดแบบโลกสวยนะคะ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อย่างน้อยนี่ก็เป็นวิธีที่ฉันรัก wwa heartthrobs ของฉัน.

ไม่มีความคิดเห็น: