วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Watch Bangkok Flood 2011

Could it be worse in 2012?!?? Hope not!!!!
 ทีแรกว่าจะไม่นำมาลง Blog แต่คิด ๆ ดู ก็น่าจะนำมาลง เพราะเป็นที่เก็บเอกสารที่ดีอีกที่หนึ่ง ก็เลยตัดสินใจนำมาลง ครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้มีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษาสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ นั่นคือน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ

จากครั้งก่อนที่ไปนั่งรถดูน้ำท่วมแบบ chilled chilled nothingham กลับมาถึงบ้านก็ร่อนเมลเล่าให้ชาวคณะสุโค่ยฟัง มีรูปประกอบจากพี่ตุ้มชายบน FB เล็กน้อยพอสังเขป พี่หนิงบอกว่าจะคอยอ่านบล็อก.. โธ่ พี่หนิงขา ก็บอกไปในเมลหมดแล้วว่านั่งรถทหารจากสะพานควาย รถวิ่งไปห้าแยกลาดพร้าว จตุจักร รัชโยธินที่ท่วมทุกจุด แล้วก็วิ่งกลับมา ไม่ได้ไปซุกซนก่อวีรกรรมอะไร ทัศนาหายนะของกทมแบบตัวแห้งสบาย
 
มีแช่น้ำเล็ก ๆ ตอนกลางคืน เพราะพี่ตุ้มพาไปดูหมอทหารแจกยาตามจุดต่าง ๆ ก็ในเส้นทางเดิมแหละค่ะ เพียงครั้งนี้ได้ลงไปในพื้นที่ตรง ท่า เซ็นทรัลลาดพร้าว เห็นกระทงตั้งเต็มโต๊ะถึงได้นึกได้ว่าวันนี้เป็นวันน้ำนองตลิ่ง แบบว่ามันล้นตลิ่งมาตลอด เลยลืม ๆ ไปว่าวันนี้มันนองตลิ่ง เลยหมดอารมณ์ชวนกันมารำวงวันลอยกระทง
 
ที่ได้แช่น้ำโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน (แต่ซื้อบู๊ตสูงเลยเข่าไว้แล้ว 555555 ไม่ได้วางแผนเล้ย!) เพราะไม่ได้คิดจะลอยกระทง เลิกฮิตตั้งแต่ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นโสด 555555 ขณะกำลังเดินไปเดินมาในพื้นที่จำกัด ไม่มีอะไรทำเลยยืมกระทงขนมปังของทหารถือถ่ายรูป สงสัยว่าจะมีแววนางนพมาศ (กล้าพูดนะอ่อง 55555) พี่ตุ้มเลยบอกให้ยืมกระทงของชาวบ้านที่เตรียมลอยแถวนั้นไปถ่ายรูปริมน้ำ
 
โอ้...หน้าห้างเซ็นทรัลกลายเป็น ริมน้ำ ซะแล้วแถมยังนองตลิ่งอีกต่างหาก พี่ตุ้มบอกให้ลงไปในน้ำ ม่ายอาว....เค้ากลัวชาละวัน!!!! ขอยืนบนกระไดก็พอ ตรงขั้นบันไดน้ำก็ท่วมค่ะ ระดับตาตุ่ม (แต่ใส่เครื่องป้องกันระดับหัวเข่า)
 
พอกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูป ทันใดนั้น นักข่าว CNN BBC Springnews ที่กำลังทำข่าวแถวนั้น (จริง ๆ มีค่ายเดียวคือ springnews 555555 WER ไว้ก่อน) ก็กรูกันเข้ามาระดมยิงแฟลช โว้ว...รู้สึกเสมือนเป็นซุปตาเลย 55555555 หลาน ๆ ตากล้องเอ๊ย - ป้าขอเวลานอกไปแต่งหน้าทำผมก่อนได้ไหม? 555555 ตากล้องทั้งหลายพร้อมใจกันบอก...เมื่อไรป้าจะปล่อยกระทงซะทีคร้าบ?
 
ที่แท้ที่มารุม ๆ เนี่ยะ รอถ่าย กระทง ชิมิ เห็นเราเป็นตัวประกอบฉากไปซะงั้น ไม่มีวันปล่อยหรอกกระทงเนี่ย เพราะปล่อยไปมันก็แย่งซีนซิ 55555555 ไหน ๆ จะถ่ายกระทงแล้วก็น่าจะถ่ายนางแบบด้วยนะ 5555555 ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วกระทงนี้มีเจ้าของ ยืมเขามาเฉพาะกิจ ไม่ได้จ่ายตังค์ ขืนปล่อยไปเจ้าของได้โวย มิต้องลุยน้ำเน่า ๆ ไปตามเก็บมาคืนเขาเหรอตอนนี้ยืนโพสต์ท่านานจนเทียนเขาจะไหม้หมดแล้ว 55555 ชักเมื่อยเลยหย่อนก้นนั่งบนขั้นบันไดนิดนึง อ้าว บันไดไม่แห้ง! ตูดเปียกเลย กรำ จะลุกก็ตากล้องทั้งหลายยังยิงกันไม่หนำใจซะที กว่าจะได้เอากระทงไปคืนเจ้าของก็...เทียนนี้ยี่ห้ออะไร มันช่างอยู่ได้นานจริง ๆ 5555555
 
ก็แค่นั้น สำหรับทริปน้ำท่วมครั้งแรก ทั้งสบาย ทั้งสนุก แต่ข้อมูลก็ไม่มากพอจะเขียนบล็อก อีกอย่างบล็อกเรื่องน้ำท่วมมันควรออกแนว drama มากกว่า comedy ไม่ใช่เหรอ? (เป็นอะไรที่เขียนลำบากจริง ๆ 55555)
 
พอตอบพี่หนิงไปว่าไม่ได้บอกจะเขียนบล็อกนะคะ พี่พัชก็กัดมาตามนัดว่า อ่องเขาชอบ play body งี้แระ ซะที่ไหนเล่าคุณพี่พัช! จนวันต่อมาพี่ตุ้ม upload รูปลงไปใน FB หัวหน้าแก๊งก็สนใจฉับพลัน ถามว่าจะไปกันอีกไหมอยากตามไปด้วย พี่เก็จก็อยากไปอีกคน เพราะดูน่าสนใจ เหมือนผู้มีอำนาจวาสนาออกตรวจราชการน้ำท่วม 5555555 แถมยังมีเวลาไปแปลงกายเป็น Wonder Woman บน BTS ให้ฮือฮา เพื่อน ๆ หลังไมค์มาแซวกันว่า..จะจ๊าบไปไหนยะคุณนพพร 55555555
วันอังคารไปเจอพี่เก็จ พี่เก็จยืนยันว่าอยากไปจริง ๆ กลับมาเลยคุยออนไลน์กับพี่ตุ้มวันพุธ พี่ตุ้มถามว่ายังจะไปอีกเหรอ??? สงสัยคงคิดว่าพวกนี้นี่ยังไง? เห็นความทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติเป็นสิ่งบันเทิงไปซะแล้ว ไม่ใช่ซะหน่อย!! แบบว่า..ตั้งแต่ถือกำเนิดมาในปีพศ.2504 จนตอนนี้ก็ 50 ปีบริบูรณ์ เพิ่งเคยเห็นน้ำท่วมกทม.อ่ะค่ะ เมื่อก่อนอาจจะมีท่วมแต่ไม่เคยไปทัศนศึกษา อีกอย่างน้ำท่วมครั้งนี้..สาหัสสากรรจ์นัก ถึงจะเสพข่าวสารจากอินเตอร์เน็ตและทีวี ก็ไม่ได้ไอเดียเลยว่ามันจะขนาดนี้
 
พี่ตุ้มบอก งั้นจะพาไปดูของจริงนะ! ครั้งก่อนน่ะแค่น้ำจิ้ม ตอนนี้จะออเดิฟละ เอ้อ..พี่ตุ้มขา อ่องน่ะไม่เป็นไร แต่ขอแบบสบาย ๆ แบบคราวก่อนได้ป่ะ แบบว่าสงสารพี่เก็จ กลัวเข็ดซะก่อน 5555555 สรุปก็คือนัดพรุ่งนี้(พฤ. 17 พย.) วันเกิดอากงครบ 1 ศตวรรษ แต่หลานรักไปดูน้ำท่วมซะงั้น อากงคิดถูกแล้วที่ไม่ให้มรดก
 
พี่ตุ้มนัด 6.30 น.ที่จุดปล่อยรถทหารตรง BTS สะพานควาย ฉันนัดพี่เก็จ 6 โมงเช้าที่ MTR ห้วยขวาง จึงต้องออกเดินทางจากบ้านอ่อนนุชตี 5 กว่าเล็กน้อย
 
หญิงสาว (สาว?!?!?!?) 2 นางมาถึงจุดนัดหมายก่อนคุณชายตุ้ม วันนี้พกกางเกงยางมาด้วย เตรียมผจญซึนามิน้ำเน่าเต็มขั้น เพราะพี่ตุ้มบอกไว้ว่าจะพาไปลุยน้ำ ตื่นเต้นชะมัด 555555 พอพี่ตุ้มมาถึง ก็วางแผนทริปคร่าว ๆ กับพี่เก็จว่าอะไรยังไงบ้าง หนูอ่องไม่รู้เรื่องกับเขา ไปไหนก็ได้ แต่ไปยังไงนี่ซิ!
 
ก่อนออกเดินทาง ก็ไปกินข้าวเช้ากันก่อน ทีแรกว่าจะกินข้าวมันไก่ แต่เช้าไปไก่ยังไม่โดนเชือด เลยไปกินร้านข้าวแกงแทน พี่ตุ้มคนเดียวที่ไม่กิน สงสัยกินมาจากบ้านแล้วถึงได้มาสายกินข้าวเสร็จก็เดินไปเข้าห้องน้ำห้องท่าที่รพ.เปาโล นั่งเอาแอร์กันแป๊บนึง
 
การเดินทางที่ทรหดมหัศจรรย์สำหรับ 2 สาวกำลังจะเริ่มต้น ณ ...บัดนาว!! อย่างที่บอกไว้ เขาจะไปไหนกัน ไปกันอย่างไร ตกลงกันระหว่างพี่ตุ้ม&พี่เก็จ ไปยังไง-ไปไหนบ้างไม่สนใจ ขอให้มีพี่เก็จไปด้วย พอใจแล้ว 5555555 (เสียงพี่เก็จแว่วมาว่า WER!!!!)

แต่พอรู้ว่าจะต้องขึ้นรถสีเขียวที่ไม่ใช่เขียวเฉดทหาร แต่เป็นเขียวเฉดกทม. ก็มีอิดออดเล็ก ๆ ต่อรองหน่อย ๆ ไม่เอาอ่ะ อยากไปรถตาหาน... แล้วรถเนี่ยะ..เค้าไว้ขนขยะมะช่ายเหรอ???? อ่องไม่อยากพาพี่เก็จขึ้นรถขยะ !! พี่เก็จบอกว่าไม่ใช่รถขยะ แต่เป็นรถขนกิ่งไม้ตะหาก อ้อ..ระดับดีกว่ารถขยะหน่อยนึง แต่เอ้า เห็นหน้าพี่เก็จไม่ mind ก็เอ้า ไปไหนไปกัน ถ่ายรูปนางงามปีนรถขนกิ่งไม้ขยะเป็นที่ระลึกสักหน่อย พอขึ้นไป..เฮ้อ.. 555555 มันก็เป็นรถที่มีเก้าอี้พลาสติคตั้งให้นั่ง 2 แถว ตรงกลางมีเชือกขึงไว้เป็นราวให้เกาะ มีผ้าแบบที่ใช้บรรจุทรายวางกั้นน้ำเป็นหลังคา โอ้ว...ทริปนี้ท่าทางพี่ตุ้มจะ จัดหนัก !!!!

 
เพราะรถคันนี้ไปไกลถึงสะพานใหม่ (อยู่ตรงไหนของกทม.ฉันยังไม่รู้เลย 55555) ผู้โดยสารจึงเต็มรถ ดีที่เราขึ้นก่อนเลยมีโอกาสเลือกที่นั่ง ทีแรกพี่ตุ้มชวนให้นั่งฝั่งหนึ่งแต่พี่เก็จเห็นว่าแสงแดดส่องหน้าเลยเลือกอีกฟาก เอาหลังสู้แดดดีกว่า เพราะหลังไม่เป็นฝ้า นั่ง ๆ ไปจึงรู้ว่าคิดผิด เพราะไม่มีที่หลบแดดจริง ๆ ร้อนมาก ตะแรกพี่เก็จยังไม่รู้สึกร้อนเพราะมัวตื่นเต้นที่เห็นโฉม น้องน้ำ  แต่พอนานไป เริ่มเบื่อน้องน้ำแล้ว โดนพี่แดดไล้แก้มซะหมดอารมณ์เอ็นจอย เลยเดินหนีไปยืนฝั่งพี่ตุ้มแทน พอใกล้จุดหมาย เห็นระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็มาแต่งตัวพร้อมรบพร้อมลุย
 
ฉันใส่บู๊ตมาจากบ้านแล้ว เหลือกางเกงยาง-รอให้ถึงก่อนค่อยใส่ เพราะยางเนื้อหนามาก ใส่ตอนนี้ท่าจะร้อนจนทนไม่ไหว ครั้นพอใกล้จุดหมายปลายทาง น้ำระดับตะโพก ก็ได้เวลาอ่องแปลงกาย 55555 รู้สึกจะแปลงกายบ่อยนะ ตอนนั้นเป็น Wonder Woman อาละวาดบน BTS ตอนนี้เป็นเงือกสายพันธ์กรีนแมมบ้า  เพราะป้อมซื้อกางเกงยางสีเขียวสดใสซาบซ่าประหนึ่ง green mamba's skin อันเงือกนั้น ธรรมชาติเขาออกแบบให้แหวกว่ายในสายชล นี่กลับมาเดินบนสะพาน เลยสะเปะสะปะเหมือนเพนกวิน(พันธ์กรีนแมมบ้า)
 
เห็นสะพานไม้ใหม่หมาด ๆ แล้วอยากจะกรี๊ด ตอนเด็ก ๆ ก็เดินบนที่แคบไม่เป็น แก่ปูนนี้ก็ใช่ว่าจะดีขึ้น ถึงแม้ว่าเจ้าสะพานนี้จะกว้างถึงไม้ 4 กระดานก็เถอะ จะให้อ่องสะเปะสะปะในชุดเพนกวินกรีนแมมบ้าไปบนสะพานนี้อ่ะนะ พี่ตุ้มขา..ขอขี่หลังหน่อย 555555 คำตอบเดินไปนู่นแล้ว มีพี่เก็จตามไปติด ๆ ทำไมพี่ ๆ เขาไม่ห่วงใยน้องเล็กมั่งเลยน้า เกิดอ่องตกน้ำตกท่า (ตกได้ทั้งซ้ายและขวา) จะทำไง? หูฟัง 2 ข้างจะช็อต สำลักน้ำครำเสียหายใช้การไม่ได้นะคะ นึกว่าห่วงชีวิตตัวเอง?!?!?! 5555555
 
ด้วยความเป็นเพนกวินสะเปะสะปะเครียด ๆ บน brigde over very troubled water เลยเดินช้ามาก เวลามีคนสวนมาต้องแบ่งทางให้อีก ปกติก็แทบไม่พอยืนอยู่แล้ว เครียดชะมัด  แง้ ๆ พี่ตุ้ม-พี่เก็จง่ะ จะลิ่วไปถึงไหน รออ่องด้วย ~~~ ในที่สุด พี่เก็จก็เพิ่งนึกได้ หันหลังมาด้วยความห่วงใย อ้าว...ทำไมอ่องโอ้เอ้อยู่ไกลขนาดนี้เนี่ยะ 55555555 นี่ถ้าอ่องตกน้ำไป พี่ๆ จะรู้มั่งมั้ยเนี่ยะพี่เก็จกวักมือไหว ๆ เร็ว...อ่อง  เร็วไม่ได้ เดี่ยวตกน้ำ อะมีบาขึ้นสมองแบบ Big D2B พี่เก็จจะไม่มีคนช่วยเก็บบ้านหลังน้ำท่วมนะเออ  พี่เก็จเลยยืนรอ พอเดินไปถึง พี่เก็จปรารภว่า พี่ตุ้มเขาจะเดินไปถึงไหน? เหนื่อยแล้วอ้ะ ตอนนี้ฉันเดินคล่องขึ้น แต่เปลี่ยนเป็นพี่เก็จเดินรั้งท้าย คงเพราะเหนื่อยและร้อน เส้นทางสายไหมนี้ จะสิ้นสุดลงณ หนใด?
 
ทริปนี้ช่างวิบากผิดกับทริปแรกราวกับปอกกล้วย vs ปอกกระเทียม!  พี่ตุ้มจัดหนักจริงไรจริง อากาศก็ร้อน นี่ถ้าน้ำสะอาดนะจะลงไปแช่รู้แล้วรู้รอด เดิน ๆ ไป อยากบ่นแต่ต้องกลืนลงในคอ เพราะเห็นสิ่งที่ผู้ประสบภัยเผชิญ แค่เดินบนสะพานไม้ในกางเกงยางกลายเป็นเรื่องสิว ๆ
 
บ้านเรือนสองข้างทางสะพานไม้น้ำท่วมระดับครึ่งบ้านโดยที่ส่วนมากแล้วเป็นบ้านชั้นเดียว แต่พวกเขาก็ยังอยู่บ้านกัน โดยขนของมาไว้บนหลังคา เห็นกล่องส้วมสาธารณะ นาน ๆ จะมีสักกล่อง เจอกล่องนึงมีป้ายติด ส้วมเต็มห้ามเข้า!! กลิ่นก็ช่าง...อยากบรรยายค่ะ แต่เกรงจะหยาบคายเกินผู้อ่านรับไหว..
 
ระหว่างเดินบน Samai Bridge over troubled water พี่ตุ้มและพี่เก็จก็จะแวะเวียนพูดคุยกับผู้คนไป ส่วนอ่องก็ถ่ายรูปไป ไม่มีคนพากย์ จริง ๆ แล้ว บางครั้ง บางเรื่องไม่ได้รับรู้ก็ดูจะดีกว่า อาจจะเป็นของขวัญจากสวรรค์ก็ได้ที่ฉันหูตึง 555555 พอรู้น้อยก็ทุกข์น้อย พี่ตุ้มอารุณี และหลาย ๆ คนเคยพูดในทำนองว่าฉันดูเป็นคนมีความสุขได้เกือบตลอดเวลา จะบอกว่าความสุขนั้น..อยู่ที่การปิดกั้นความทุกข์  หลายครั้งที่คนจะงง ๆ กับฉัน เวลาพูดอะไรแล้วฉันไม่ได้ยิน พอ repeat แล้วฉันยังไมได้ยิน แต่ชอบแสดงออกว่าถึงบางอ้อแล้ว ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงยังอยู่แถว ๆ บางเง็งอยู่เลย 5555555
 
ที่อ้อไป คือ อ้อ! เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรู้ 555555 จึงช่วยไม่ได้ที่นอกจากฉันจะไม่ได้ไปสถานีบางอ้อแล้ว บางทียังพาคู่สนทนาไปสถานีบางเง็งด้วยกันอีก 5555555 นิสัย...ใชไหมคะ?
 
ดูเหมือนสะพานนี้จะทอดยาวไปถึงอยุธยามั้งเนี่ยะ เดินไปแบบไม่รู้ว่ามันจะพาไปไหน  ในที่สุดพี่ตุ้ม พี่เก็จก็ตัดสินใจพักในร่มเงาไม้เย็นแห่งมะขาม พี่ ๆ ถอดรองเท้าบู๊ตออก ยกเท..น้ำเหงื่อไหลโชกยังกับคันกั้นถูกรื้อ!! พี่เก็จบอกว่าร้อนมาก ส่วนฉันไม่ได้ถอดบู๊ต เพราะไม่มีรองเท้ามาเปลี่ยน แต่มั่นใจว่าไม่มีเหงื่อมากอย่างนี้แน่ ๆ ถอดแต่คราบกรีนแมมบ้า เมื่อทุกคนปลดเครื่องป้องกันออกก็เบาตัวขึ้นเยอะ ช่วงนี้เป็นช่วงพักผ่อน พี่ตุ้มแวะเข้าห้องน้ำในบ้านแถวนั้น ฉันจินตนาการห้องน้ำไม่ออก เพราะมองไปในบ้านน้ำเข้าบ้านในระดับเข่า
 
เพราะตรงนี้มีเงาไม้ที่ใหญ่น่าสบายพอสมควร เลยอาศัยนั่งปิคนิคแบบไม่มีอาหารและเครื่องดื่ม แล้วเรียกปิคนิคได้ไงยะ ก็นั่งคุยกัน ถ่ายรูปสนุก ๆ กันไงคะ รูปช่วงนี้ดูเหมือน 3 คนไปเที่ยวบ้านสวน มีรูปพี่ตุ้มกระโดดตัวลอยด้วย ฉันกับพี่เก็จไม่ได้เล่น เพราะ 1.กลัวสะพานพัง โดนชาวบ้านรุมสะกรัมยิ่งกว่าไปรื้อ big bag แน่ 555555  2.กลัวพลาดหล่นลงไปในน้ำ
 
หมายเหตุ พี่ตุ้มไม่ได้กระโดดที่สะพานนะคะ แต่กระโดดตรงกระสอบทรายหน้าบ้านที่ไปเข้าห้องน้ำค่ะ
 
นอกจากนี้ ก็ยังทำเงาเกาหลีเล่นกัน หลายรูปหรรษาประสาสุโค่ยอ่อง งานนี้ต้องบอกว่าน้องพาพี่เสีย ถ้าไม่มีน้องซนนำ พี่ๆ เขาก็คงเรียบร้อย ไม่มีโพสต์ท่าเฮฮาแบบนั้น ตอนที่เอารูปลง FB งวดแรก ก็ลงรูปที่ชอบไปเยอะ แต่เช้ามาก็เอารูปออกไปหลายรูปด้วยเหตุผลว่าอาจจะสื่อความหมายที่ไม่เหมาะสมอันจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดจากผู้ประสบภัยที่อาจจะมาเห็นรูปเหล่านี้ว่าพวกเรามีความสุขบนความทุกข์ของพวกเขา
 
แต่ในความเป็นจริง..มันใช่ซะที่ไหน? ตลอดทริป เราเห็นน้ำท่วมสูง เห็นคราบเก่าที่ฟ้องว่ามันเคยสูงกว่านี้มาก และสีของน้ำที่ทำให้รู้ว่าตรงนั้นน้ำเพิ่งหลากมา กับตรงนี้น้ำได้ขังอยู่นาน ขยะ, กลิ่นต่าง ๆ ที่เราผจญมา ฉันคิดว่าต่อให้มีศัตรูของฉันอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ ฉันก็มีความสุขสะใจไม่ลง
 
แต่ที่เรายังยิ้มได้ เพราะเราได้เห็นชาวบ้านเขายังพยายามที่จะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยจิตใจที่อาจจะล้า แต่ก็สู้ อาจจะอ่อนใจแต่ก็เข้มแข็ง พวกเขาไมได้นั่งกอดเข่าทอดสายตาซึมเศร้ามองน้ำสีคล้ำ ไม่ได้นั่งเฉย ๆ รอถุงยังชีพ&อาหารบริจาค แต่ยังคงเปิดขายอาหาร ยังคงซื้ออาหารสด ลุยน้ำระดับเอวนำกลับไปประกอบที่ครัวบนหลังคาบ้าน
 
ฉันเองชั่วชีวิตไม่เคยเจอภาพแบบนี้อย่างใกล้ชิดขนาดนี้ การเห็นในทีวี-หนังสือพิมพ์-อินเตอร์เน็ต บางครั้ง 1 ภาพก็เป็น 1 ล้านคำที่ too drama-so drama-very drama ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ต้องคารวะจิตใจผู้ประสบภัยในเส้นทางที่เห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู(อันนี้อาจจะน้อยหน่อย) ได้ดมกลิ่นด้วยจมูก ได้สัมผัสความร้อนด้วยผิวหนัง..ฉันเองคงทนไม่ได้อย่างพวกเขา คงยิ้มไม่ออก ด้วยว่าภูมิต้านทานความทุกข์ประเภทนี้เกือบเป็น 0%  พี่เจนบอกว่า ถ้าเราเจอแบบนั้นจริง ๆ เราก็จะปรับตัวเราได้เอง แต่จากภาพความเป็นอยู่ที่เห็น ฉันว่า ฉันทำไม่ได้..แค่นั่งรถขนกิ่งไม้ของกทม จนเดินสะพานไม้มาถึงตอนนี้ก็ยังปวดหัวตุ้บ ๆ เล็ก ๆ แล้ว
 
เราจะนั่งกันตรงนี้ forever ไม่ได้ เมื่อขีดพลังงานได้รับการชาร์จเพิ่มขึ้นแล้ว เราก็ลุกขึ้นเดินทางต่อไป ฉันแอบมองไปข้างหน้าเผื่อจะเห็นธงชัยแต่ก็ไร้วี่แวว เป็นเส้นทางที่ยาวไกลจริง ๆ แถมจะไปไหนก็บ่ฮู้ 5555555  ระหว่างทางมีเรือ มีรถใหญ่ผ่านเข้า-ออก ฉันล่ะอยากเกาะไปด้วยจัง แต่จำต้องเดินตามพี่ ๆ เขาไปอย่างละห้อย พี่เก็จนั้น..พอได้ถอดบู๊ต&กางเกงยางออกก็เดินเหินคล่องตัวขึ้น ไม่มีทีท่าเหนื่อยแบบตอนแรก สันนิษฐานว่าคงเพราะร้อนมาก ส่วนฉัน..ช้าเพราะมัวถ่ายรูปพี่เก็จ เดินไปถ่ายไป พี่ตุ้มก็แวะเวียนพูดคุยกับชาวบ้านตลอดทาง-คนนี้มีสาระที่สุด 555555
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา..ยังไม่จบทริป แต่สะพานหมด เป็นสะพานใหม่ สด ๆ ซิง ๆ จริง ๆ มีทหารช่างกำลังต่อสะพานด้วยค่ะ แต่เราคงยืนรอไม่ไหว พี่ตุ้มไปประสานงานแป๊บนึงได้โปรแกรมใหม่ เราจะเป็นผู้ติดตามผอ.เขตสายไหม..ดร.นงพะงา บุญปักษ์
 
อย่านึกว่าจะได้เดินทางหรู ๆ นั่งเรือเก๋ ๆ เท่ ๆ ประมาณเรือหลวง หรืออะไรทำนองนั้นเลยเชียว!! ขอบอกว่าทริปนี้..วิบากกว่าที่คิด 55555 เรือที่พาพวกเราไปติดตามผอ.ตรวจราชการเป็น เรือขนขยะ ค่ะ ถึงแม้จะไม่มีขยะก็เถอะ!! มีช่วงเปลี่ยนเรือ คุณชายวัลลภลืมรองเท้าบู๊ตไว้ในเรีอลำเก่า ต้องพายเรือตามล่าสมบัติสุดขอบฟ้าอีก 555555 โชคดีที่ตามจนเจอ และตอนนี้พวกเราก็ได้เข้าไปสัมผัสกับชุมชนหนึ่ง ชื่อว่าชุมชนหมู่บ้านแอนเน็กซ์ พิกัดถนนพหลโยธิน 58 ค่ะ ที่นี่ระดับน้ำเดิมคงจะมิดหัว ตอนนี้ลดลงแล้ว เหลือเอว-อกแล้วแต่ส่วนสูงของบุคคล แต่ผู้คนก็ยังมีอารมณ์ยิ้มต้อนรับให้ผู้มาเยี่ยมเยียน High spirit จริง ๆ ค่ะ 
 
ช่วงนี้โดนแดดเต็ม ๆ เพราะในเรือไม่มีหลังคา ไม่มีร่มเงาไม้ และแสงอาทิตย์อุทัยก็กำลังปิ้ง-ย่างสมองฉันจนจะ well done อยู่แล้ว แม้ว่าเจ้าสมองจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหมวก-ผม-กะโหลกก็เถอะ แต่ฉันก็เริ่มรู้สึกเหมือนมันสมองกำลังเดือดฉ่า ๆ ๆ ระหว่างนั่งอยู่ในเรือ พี่ตุ้ม พี่เก็จก็พูดคุยกับท่านผอ. ส่วนฉันก็นั่งดูสภาพความเสียหายจาก น้องน้ำ ไป 
 
ภัยจากน้ำ แม้ว่าจะ เย็น แต่ก็จะเป็นมหันตภัยที่สร้างความเสียหาย และร้ายแรงกว่าไฟ ด้วยซ้ำ เพราะไฟไหม้ น้ำยังดับไฟได้ แต่น้ำหลากมา จะเอาไฟที่ไหนมาเผาไหม้ให้ระเหยแห้งไป? ไฟไหม้อาจจะวอดวายหมด แต่ก็จบแค่นั้น น้ำท่วมขังแรมเดือนทิ้งไว้ซึ่งบาดแผลเรื้อรังไปอีกยาวนาน เรามักจะประมาทพลังของน้ำ บางทีอาจจะเพราะน้ำเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน น้ำทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ เลยลืมไปว่า..บางทีน้ำก็สามารถเป็นเรยาได้ ใครไม่รู้จักเรยาบ้าง? (อ่องยกมือ 55555) ไม่รู้จักแล้วเอามาอุปมาอุปไมยเนี่ยนะ 555555 ก็รู้ว่าเป็นตัวละครตัวร้ายที่ฮอตฮิตติดปากคนจากละครเรื่องมงกุฎดอกส้ม แต่ไม่เคยดูละครไทยนานแล้วค่ะ ดูแต่เกาหลี แล้วทำไมต้องเปรียบกับเรยา...ก็อินเทรนด์อ่ะ
 
กลับไปที่เรือใหม่ดีกว่า ตลอดเวลาร่วมชั่วโมงที่อยู่ในเรือ พี่เก็จพากย์ให้ฟัง 2 เรื่อง เรื่องแรก-ตอนนี้รายงานสดจากวิทยุผอ.เลยทีเดียว...มีชาวบ้านไปรื้อ big bag  เรื่องที่ 2-วันก่อน (ไม่รู้วันไหน?) มีชาวบ้านเจอจระเข้แถว ๆ นี้...แถว ๆ นี้???? ฟังปุ๊บก็นั่งเก็บไม้เก็บมือทันที เพราะน้ำดำมาก ถ้าจระเข้ดำน้ำมาก็คงมองไม่เห็น ระดับน้ำช่วงนี้ มีคนเอาไม้พายหยั่งให้ ประมาณ..เลยเอวค่ะ
 
จบทัวร์ในเรือขนขยะ ก็มาขึ้นรถขยะ 5555555 ขอบอกว่าทั้งเหม็นและร้อน หลังรถที่เรายืนกันยังมีถังขยะเรียงรายเพียบถึงจะเป็นถังเปล่าก็ตาม แต่เชื่อเถอะ ไม่ได้ล้าง...มาถึงตลาด พี่เก็จก็บอกว่าเราหาอะไรกินกันไหม เพราะบ่ายกว่าแล้ว แต่ฉันเกรงว่าอาหารและภาชนะจะไม่สะอาด เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้ว่าพ่อค้าแม่ค้าเขาเอาน้ำจากไหนมาปรุงอาหาร และล้างจานชามกระทะ ถ้าเกิดป่วยขึ้นมา เสียง alto จะขาดไปอีก พี่เก็จเลยซื้อแต่น้ำเปล่า ส่วนฉันต้อง pepsi พี่ตุ้มกาแฟเย็น ตอนนี้ต้องงัดแบบฟอร์มออกมาใส่กันอีก เพราะต้องเดินลุยน้ำไปหาที่ขึ้นรถ ต้องขอบคุณป้อมจริง ๆ ที่เลือกยางแบบหนามาให้ ของพี่เก็จขาดตั้งแต่ยังไม่ได้ใส่เลย 555555 แต่ขาดนิดเดียว เอาพลาสเตอร์ปิดแผลปะรูรั่ว  ของฉันไม่มีขาด-รั่ว-ซึม เดินอย่างมั่นใจ แต่เดินยากหน่อยเพราะหนา&หนัก อาจมีล้มลงไปทั้งตัว 55555
 
สุดท้าย พี่ตุ้มก็สามารถเจรจาหารถคันหนึ่งที่จะเข้ากรุงเทพชั้นในได้ เป็นรถปิ๊คอั๊พค่ะ ไม่มีหลังคาตามเคย จึงไม่แปลกเลยที่พอมาถีงร้านท่องกี่ ฉันเกิดอาการปวดหัวอย่างมาก แต่ก็ดีใจที่เห็นพี่ ๆ สบายดี กินอาหารได้เยอะ ผิดกับฉันที่กล้ำกลืนฝีนกินอย่างผะอืดผะอมจนต้องเดินออกไปซื้อยาแก้ปวดหัวกิน ทริป watchflood คราวนี้พี่ตุ้มจัดหนักจริง ๆ !!



 

ไม่มีความคิดเห็น: