วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นิทานดอกจำปาลาว

เป็นนิทานที่แต่งสด ๆ สมัยที่พี่ลียังอยู่ คุยไปแต่งไปสด ๆ  ตอนนี้เอามาเก็บไว้เพื่อระลึกถึงเพื่อนผู้เป็นที่รักยิ่ง T^T

มีคน ๆ หนึ่งอาศัยอยู่ตามลำพังในกระท่อมเล็กอยู่ตามลำพังจากวันเป็นเดือนเป็นปีแต่เขาไม่ได้หม่นหมองเศร้าสร้อย  เพราะจริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้อยู่คนเดียว เขามีความสุขกับสิ่งที่เขามี
เป็นต้นไม้เล็ก ๆ ต้นหนึ่ง ที่ส่งกลิ่นหอมซาบซ่านใจ เขารดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย และมีความสุขกับการเฝ้ามองต้นไม้นี้ออกดอก  ดอกโตแล้วก็ร่วง ดอกแล้วดอกเล่า เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตของเขาให้ต้นไม้ฟังและเขาก็ฟังต้นไม้เล่าถึงเรื่องต่าง ๆ ที่ต้นไม้รู้เหมือนกัน

บ้านเขามักปิดเงียบเขาไม่ได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปนานเท่าไรแล้วไม่มีใครรู้แต่ก็นานทีเดียว จนกระทั่งเพื่อนบ้านผู้หวังดีเข้ามาเยี่ยมเยียน
นี่แก...จะไม่คิดออกไปเที่ยวมั่งเหรอไง ทุ่งดอกกระเจียวกำลังเบ่งบานทางทิศตะวันออก ทุ่งทานตะวันก็กำลังเบ่งบานทางทิศตะวันตก แกจะมัวนั่งดูดอกไม้ไม่กี่ดอกนี่ทำไม ไป .. ข้าไปเป็นเพื่อนแกก็ได้

เขาจะปฏิเสธ แต่ก็เกรงใจเพื่อนบ้านผู้หวังดีนั้น เมื่อเขาจะต้องออกจากห้องไปเพื่อไปเที่ยวทุ่งกระเจียวและทานตะวัน เขาก็มองต้นไม้ของเขาด้วยสายตาละห้อย แต่ที่สุด เขาก็ตัดใจปิดประตูแล้วออกเดินทางไป

ยิ่งห่างจากบ้านหลังเล็ก ใจของเขากลับยิ่งชิดใกล้ เขาฟังเพื่อนบ้านคุยแทบไม่รู้เรื่อง ในโสตประสาทของเขามีแต่เสียงของต้นไม้ที่บ้าน และเมื่อเขามาถึงทุ่งกระเจียว ภาพของดอกไม้สีม่วงนับไม่ถ้วนดอก เป็นทุ่งอลังการอันน่าตื่นตา สายลมอ่อนที่พัดพาดอกกระเจียวเอนลู่ มันได้หอบกลิ่นแปลกปลอมมาด้วย เขารู้สึกแปลกที่ขึ้นมาในบัดดลแทบจะทนยืนต่อไปไม่ไหว
  
กลับเหอะ...เขาบอกเพื่อน
เฮ่ย เพิ่งมาถึง
ข้าไม่ชอบสีม่วง  มันให้ความรู้สึกหดหู่
  อ้ะ ไม่ชอบดอกไม้อารมณ์เกย์นี่เอง งั้นไปทิศตะวันตกละกัน ไปดูดอกทานตะวัน รับรองแกต้องชอบแน่

ทั้ง ๆ ที่เขาอยากกลับบ้าน แต่ด้วยความเกรงใจ เขาจึงเดินทางไปชมทุ่งทานตะวัน ใช้เวลาหลายวันทีเดียว มาถึงทุ่งสีเหลืองในยามเช้า เขาได้เห็นตั้งแต่ดอกไม้หน้าใหญ่ที่ก้มหน้าลง ค่อย ๆ เงยรับแสงตะวัน และเบ่งบานไปเต็มที่ สีเหลืองอร่ามเหมือนโลกนี้ทาด้วยทอง
  
ในชั่วโมงแรก ๆ เขาตกอยู่ในมนต์มหัศจรรย์ จนถึงกับเดินเข้าไปในดงดอกไม้ใหญ่ กางแขน หมุนตัวไปรอบ ๆ หลับตาซึมซับอารมณ์ทานตะวัน

  เป็นไงเพื่อน ชอบชิมิเพื่อนบ้านถาม
  
เขาไม่ได้ตอบ แต่ภาพดอกไม้สีเหลืองในตาของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนไป สีขาวสะอาดค่อย ๆ ตีวงล้อมนำพาสีเหลืองทองมากระจุกจาง ๆ กลางดอก...
  
เขาอมยิ้ม ไม่พูดอะไร  เพื่อนเขาถามว่าที่ทิศเหนือยังมีทุ่งดอกป๊อปปี้นะ
เขาโอบกอดเพื่อนไว้ แล้วบอกเพื่อนว่า เพื่อนเอ๋ย  ขอบใจนะ แต่ข้าเกรงใจแก ต้องมาเสียเวลาทำมาหากิน พาข้าชมดอกไม้ เอางี้เพื่อนบอกทางมา เดี๋ยวข้าไปเองละกัน  
เพื่อนบ้านก็รีบบอกทางไปชมทุ่งป๊อปปี้ที่ทิศเหนือ  และยังแถมทุ่งทิวลิปที่ทิศใต้อีก สองเกลอก็แยกย้ายกันไป

เขานั่งพัก เหนื่อย พอเพื่อนคล้อยหลังไป เขาก็รีบวิ่งไปทันที แต่เขาไม่ได้วิ่งไปทิศเหนือ และไม่ได้วิ่งไปทิศใต้ เขาวิ่งกลับไปที่กระท่อมของเขา เมื่อเขาเปิดประตูออกมา  ก็ถลา ไปดูต้นไม้ของเขาทันที
  
น้ำตาเขาไหล ต้นไม้ไม่มีคนรดน้ำหลายวัน  ดอกไม้ร่วงหล่นรอบ ใบและลำต้นก็หงอย เขากอดต้นไม้นั้น ร้องไห้ด้วยความคิดถึงเป็นล้นพ้น เขาไม่เคยลืมต้นไม้ของเขาเลย จะลืมได้อย่างไรในเมื่อกลิ่นหอมเย็นของต้นไม้เขาลอยไปถึงทุ่งกระเจียว และสีขาวของดอกไม้ก็ผ่านไปละลายสีเหลืองของดอกทานตะวันจนเหลือมากระจุกตรงกลาง

เพราะน้ำตาเขาช่างมากมาย ในไม่ช้า ต้นไม้ก็เริ่มตั้งตรง  ใบไม้ก็เริ่มชูช่อ   
ดอกไม้ก็ค่อย ๆ แย้มออก เป็นแบบนี้….

ไม่มีความคิดเห็น: