วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Stainless Castle ..โลหะปราสาท สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจอินเตอร์เน็ต        เพราะเหตุว่ามันพลิกล็อคได้เสมอ....
ตอนที่ค้นข้อมูลขี่จักรยานในอินเตอร์เน็ตครั้งก่อน...ไปอ่านเจอในเฟสบุ๊คว่าเขามีทัวร์จักรยานเที่ยวทัศนศึกษาชุมชนหลังวัดราชนัดดาราม เห็นเขียนไว้น่าสนใจมากว่ามีบ้านเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ให้ชม อ่านแล้วก็อยากไปดูให้เป็นบุญตาสักหน เพราะชื่นชอบบ้านเก่า ๆ ประสาคนแก่ ๆ แต่ที่ไม่ได้นึกคือ...ไว้บอกเมื่อถึงเวลาดีกว่า ตอนนี้พร้อมไปเที่ยวกับน้ำชาหรือยังคะ ถ้าพร้อมก็...ลุย!
เมื่อคืนก่อนบอกเพื่อนว่าจะไปเที่ยวชุมชน เพื่อนบอกว่าไปทำไมแถวนั้น มันเป็นแหล่งอาชญากรรม ก็เถียงเพื่อนไปว่า กทม เขาคงเข้าไปเคลียร์แล้วมั้ง ไม่งั้นจะลงประชาสัมพันธ์ในเน็ตให้คนไปขี่จักรยานเที่ยวทำไม เพื่อนก็รู้ว่าคงห้ามไม่ได้ เลยอวยพรให้รอดพ้นจากนักวิ่งราว เป็นการขู่ทางอ้อมนะนั่น ดังนั้นมาเที่ยวนี้เลยพกศาตราวุธร้ายแรงที่ชื่อว่า “อำเบรลล่ะ” ติดตัวไปไว้สู้กับโจร 555555
ออกเดินทางแต่เช้าวันอาทิตย์ มารอต่อรถเมล์แยกอโศก ก็พอรู้ว่าสาย 60 แต่นั่งรอนาน เห็น 23 -72 ผ่านมาบ่อย อ่านดูไปเทเวศร์ มันก็ไปทางนั้นนะ แต่ด้วยประสบการณ์ครั้งก่อนเลยถามกระปี๋ก่อนขึ้นว่าไปเฉลิมไทยไหม? กระปี๋เซย์โน เลยนั่งรอรถต่อไป ระหว่างนั่งรอรถเกิดนึกถึงอะไรขำ ๆ นั่งอมยิ้ม มองไปมองมาสบตากับชายวัยกลางคน ๆ หนึ่ง ปิ๊ง~~~ 5555555 เขาก็เลยแสดงความอารี บอกว่าต้องขึ้นสาย 60ถึงจะไปลงหน้าเฉลิมไทย ไม่เท่านั้น พอรถมาก็เรียกให้ขึ้นรถ ขึ้นเสร็จยังดูแลให้ยืนตรงนั้นตรงนี้ พอมีคนลุกก็กันที่ไว้เรียกให้ไปนั่ง แอบนึกสงสัยถ้าเขาอยู่แถววัดราชนัดดาราม สงสัยจะได้ไกด์กิตติมศักดิ์
มาถึงบริเวณโรงหนังเฉลิมไทยเก่าในเวลาไม่นาน เดินทางตอนเช้านี่ดีอย่างนี้แหละ ถนนโล่งอากาศดี สายตาป๊ะเข้ากับโลหะปราสาทอันเลื่องลือ เลยว่า..ไหน ๆ ก็มาแล้ว ลองเข้าไปเที่ยวชมดูเป็นไร ค่าผ่านประตูแค่ 20 บาทเอง ที่จริงต้องการเวลานอกทำใจก่อนเข้าไปผจญภัยในแหล่งอาชญากรรมตามคำขู่ของเพื่อนน่ะค่ะ ถึงจะมั่นใจในโชคชะตาของตัวเองว่าคงไม่ถูกฆ่าตายอย่างน้อยก็ไม่ใช่วันนี้ 555555555
ตอนเดินมาใกล้ ๆ ปราสาท แอบเคาะดูว่าทำไมถึงชื่อโลหะปราสาท อืม มันเป็นโลหะจริง ๆ ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเหล็กหรืออะไร ที่แน่ ๆ คือไม่มีสนิม สมัยที่สร้างใหม่ ๆ อาจจะไม่สีดำอย่างนี้ อาจจะเป็นสีเงินมันวาว คงแปลกตาทีเดียว เพราะวัดวาในไทยส่วนมากเน้นสีทอง
พอได้เข้าไปแล้วรู้สึกชอบค่ะ เหมือนเป็นใต้ถุนอาคาร ลมทะลุได้ตลอดรอบทิศ ทำให้อากาศปลอดโปร่งไม่อับทึบ ที่สำคัญคือสะอาดพอดูทีเดียว แต่ก็น่ะ...ลืมตัวไปว่า...เดี๋ยวค่อยบอกนะคะว่าลืมว่าอะไร  เดิน ๆ ไปเจอกะไดเวียนของชอบค่ะ สมัยเด็ก ๆ บ้านอากงที่นเรศมีกะไดเวียน ชอบวิ่งขึ้นลงบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกิจอะไรที่ชั้นสอง แต่พอรื้อออก ก็ไม่เคยได้ไปขึ้นกะไดเวียนที่ไหนอีกเลย เขาไม่มีป้ายห้ามขึ้น ลองขึ้นไปดูดีกว่า
ขึ้นไปถึงชั้นสอง มีพระพุทธรูปวางเรียงรายมากมาย ไร้ผู้คน เดินรอบถ่ายรูปเพลิดเพลินเป็นอย่างมากค่ะ พอเดินทั่วแล้วมาที่กะไดอีกทีว่าจะลงไปแล้วเพื่อจะไปปฏิบัติภารกิจที่ชุมชนเสียที มองกะไดแล้วอดอยากรู้ไม่ได้ว่าชั้นบนมีอะไร ก็เลยไต่ขึ้นไปอีก ชั้นนี้เป็นที่ให้อ่านหนังสือค่ะ เยี่ยมมากเลยนะคะ มีที่อ่านหนังสือน่าสบายขนาดนี้ เผอิญว่าเดี๋ยวนี้อ่านหนังสือน้อยลง เพราะเล่นเน็ตมากไป สมาธิเลยสั้นลงเยอะ ไม่งั้นคงได้วางแผนหิ้วหนังสือมานั่งอ่านที่นี่สักวันแน่ ๆ เงียบสงบ วิวก็สวยค่ะ มองออกไป..เบื้องหลังหลังคาโลหะ จะเห็นภูเขาทองโดดเด่น แต่ตอนขึ้นภูเขาทองนี่เหนื่อยมาก ที่นี่ไม่เหนื่อยเลย มีเก้าอี้โซฟาให้นอน เอ๊ยนั่งอ่านหนังสืออยู่ติดหน้าต่าง อ่านไปดูวิวไป โรแมนติกน่าดูเลยแหละค่ะ
ตอนนี้ชักอยากรู้แล้วว่ากะไดจะพาไปได้สูงแค่ไหน แล้วข้างบนมีอะไร เริ่มตั้งเป้าหมายชีวิตว่า...ไม่ถึงจุดสูงสุด จะไม่ลงจากปราสาท 555555555 ชั้นที่ 3 เป็นที่สำหรับให้นั่งสมาธิ มีป้ายคำสอนเตือนใจประเทืองปัญญาติดไว้ เดินไปฉงนไปว่าที่สวย ๆ อย่างนี้ทำไมไม่มีคนมาเที่ยว? ตั้งแต่ขึ้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้เจอนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวเอง แต่ก็ดี เพราะถ่ายรูปได้เสรีดี..ชอบ ไม่มีคนถ่ายให้ก็ตั้งกล้องอัตโนมัติถ่ายเองก็ได้ ไม่เห็นต้องง้อผู้ใด เที่ยวครั้งหน้าต้องพกขาตั้งอันจิ๋วมาด้วย
ถัดจากชั้นนั่งสมาธิก็คือชั้นสูงสุดแล้วค่ะ เดินชมทัศนียภาพได้รอบ ตรงกลางยังยกสูงมีกะไดปูนสูงชัน แต่แค่ 4-5 ขั้นให้ขึ้นไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุค่ะ ขึ้นมาถึงชั้นนี้มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยหลายคนเลย แสดงว่าแต่ละคนมาถึงก็ direct มากราบพระบรมสารีริกธาตุเลย ไม่ได้แวะรายทางไปเรื่อยเหมือนน้ำชา
ตอนลงมาข้างล่างแล้วจะใส่รองเท้า คุณพระช่วย!!! อยู่ในวัดต้องอุทานอย่างนี้ 55555 ถุงเท้าอะฮั้นย้อมสีโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของ ขอถือโอกาสนี้เตือนผู้ที่จะมาเที่ยวปราสาทเลยนะคะ ใส่ถุงเท้าสีดำมาค่ะ ที่จริงตลอดรายทางก็มีเด็กถือไม้ม็อบมาเช็ดถูพื้น ถูกะไดนะคะ แต่สถานที่โปร่งโล่งและกว้าง จะให้สะอาดเดินเท้าขาวตลอดก็คงไม่ใช่
ออกจากโลหะปราสาทด้วยความประทับใจ ได้เวลาออกไปปฏิบัติภารกิจแล้ว เดินมาทางด้านหลังเจอห้องน้ำเรียงเป็นแถว เมียงมองไปเห็นสะอาดสะอ้านดี เลยเข้าไปใช้สักหน่อย 55555555
หลังวัดเป็นชุมชนขนาดเล็ก ไม่มีอะไรเลย บ้านเก่าที่ว่าก็เก่าและทรุดโทรมมาก เข้าไปเดินชมไม่ได้ด้วยว่าสัมภาระอุรังอุตังมากเลยค่ะ ผิดหวังอย่างแรงนึกว่าจะมีอะไรให้เข้าไปชมดู โชคดีที่มีโลหะปราสาท มิเช่นนั้นการเดินทางครั้งนี้คงเสียเปล่า ไม่มีอะไรมาเล่าสู่กันฟัง ขากลับต้องเดินไปขึ้นรถเมล์ไกลมาก เกือบถึงสี่แยกคอกวัวที่ไปบางลำพูครั้งก่อนทีเดียว แต่ไม่เหนื่อยค่ะ เพราะเดินไปถ่ายรูปไป อุตส่าห์ข้ามไปถ่ายรูปดอกไม้ที่เกาะกลางถนนด้วย คราวหน้าจะไปเที่ยวไหนดีหนอ? ขอ search internet ก่อนนะคะ น่าน...รู้ทั้งรู้ว่าไว้ใจไม่ได้ ยังไม่หลากจำนะ ก็...555555555.

ไม่มีความคิดเห็น: