วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดอกไม้แห่งสยาม the great musical ever….

Very good - so good - too good
คิดว่าจะไม่ได้เขียนบล็อกเสียแล้ว หลังจากใช้เวลานานเพื่อปรับลดอุณหภูมิอารมณ์ปิติ และเพิ่มเลเวลสมอง พักหลังนี้รู้สึกโง่ ๆ ไงไม่รู้ – ไม่ใช่คนฉลาด แต่เคยฉลาดกว่านี้ 5555555  ไม่แน่ใจว่าในชีวิตเคยดูละครเพลงหรือเปล่า? สมัยเด็ก ๆ เคยดูอันตราคนีที่พี่อ้อนเล่นที่ธรรมศาสตร์ จำได้อย่างเดียวว่าพี่หัวโต๊ะเราผมยาว และสวย...5555555 เลยไม่แน่ใจว่าอันนั้นเป็นละครพูด หรือว่าเป็นละครเพลงด้วย?...พอพูดถึงพี่อ้อนแล้วนึกได้...ทำไมพี่ไม่มาดูคะ????
ฉันดูดอกไม้แห่งสยามตั้งแต่มันยังเป็นเมล็ดถูกหว่านลงในห้องซ้อมเพลง ได้ฟังดอกไม้ที่แสนสวยงาม...จนร้องท่อนฮุคได้ ตอนนี้ร้องได้ทั้งเพลง แต่อย่าขอให้ร้องให้ฟังนะ ...ไม่มีวันเสียล่ะ 555555 ได้ดูการซ้อมตั้งแต่ตัวละครวัยกระดูกอ่อน(แรง)ยังวิ่งพล่านทั่วศาลาโคล์อย่างมึน ๆ เพราะจำบทได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ...ที่พูดนี่คือนักแสดงตัวประกอบที่รักของฉันนะคะ นักแสดงเอกทุกคน...ค่อนข้างแม่นยำ เพราะตั้งใจทุ่มเทแรงใจแรงกายมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะแหม่มคิลแพทริก ถึงกับหลอดเสียงป่วย...แต่ก็ไม่ย่อท้อ รอบแรก รอบที่สองผมดำ....รอบสุดท้ายเริ่มขาว แก่เท่าแหม่มโคลทีเดียว 555555
ดูหลายรอบซะขนาดนี้ บางคนอาจจะนึกว่าฉันขึ้นไปเล่นเองได้เลยมั้ง แต่ขอบอกว่าไม่ได้ค่ะ เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลย 55555 มารู้เรื่องบ้างเล็กน้อยตอนกลับบ้านดูจาก dvd อีกที แต่ก็ยังมีหลายฉากที่ฟังไม่ออกว่าพูดอะไรกัน กำลังรอบทละครที่พี่จุ๋มรับปากจะส่งมาให้อ่าน...(ทวงออกอากาศซะเลย 55555) จั๊ดง่าวไปหรือเปล่า...ดูเป็นร้อยรอบแต่ไม่รู้เรื่องเนี่ยะนะ ก็ไม่รู้จะว่าไง 5555555 เหมือนดูชาลี แชปปลิ้นแบบไม่มีซับ
แต่การที่ดูแบบใช้ตาอย่างเดียว หูไม่ใช้ก็เลยมีสมาธิจับจ้องการแสดงของนักแสดงทุกคน โดยมากจะโฟกัสที่ชาวนาก่อน 555555 พอชาวนาลงจากเวทีแล้วถึงมีโอกาสให้ความสนใจตัวละครอื่น ๆ  ตอนที่ซ้อมกันที่ศาลาโคล์ น้องที่เล่นเป็นไอด้าตอนเด็ก...ร้องไห้จริงทุกครั้ง ทำเอาฉันทึ่งมาก จะซ้อมฉากนี้กี่รอบ ก็สามารถบีบน้ำตาหยดแหมะ ๆ ได้ทุกนัดไม่มีพลาด ฉันดูน้องร้องไห้หลายวัน..ยังไม่รู้เลยว่าน้องเล่นเป็นใคร 5555555 ก็ดูเอาละกันว่าจั๊ดง่าวขนาดนี้แหละ
การที่ละครได้เลื่อนมาแสดงเดือนมกราเพราะเหตุน้ำท่วมใหญ่ ก็เป็นการดีเหมือนกัน เพราะทำให้หลายคน(ที่ฉันรู้จัก) ได้มีโอกาสตัดสินใจใหม่ นั่นคือก๊วนจิ๊บ...เป็นเพื่อนที่ฉันเพียรพยายามชวนอย่างหนักหน่วงให้มาโรงเรียน เพิ่งจะสำเร็จครั้งนี้ .. ตอนแรกนั้นคุณเธออ้างว่าต้องไปเมกาพอดี ซึ่งก็เป็นความจริง เดินทางก่อนวันแสดงเพียง 1 วัน ยังบอกจิ๊บเลยว่า เลื่อนออกไปอีกหน่อยไมได้เหรอ จิ๊บบอก...จะบ้าเหรอ เค้าจองตั๋ว จองโรงแรม นัดหมายคนทางโน้นหมดแล้ว ...ตอนนั้นเศร้าไปเลย แต่คงเพราะเพื่อนมีบุญจะได้กลับมาโรงเรียนอีกครั้งเพื่อมาดูละครเพลง เลยเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ละครเพลงเลื่อนออกมาถึง 2 เดือน ตอนนี้เองที่ก๊วนจิ๊บตัดสินใจซื้อบัตรเพิ่ม 5 ใบ
พี่ตุ้มบอกว่าคงไม่ไปดู เพราะอยู่ในช่วงไว้ทุกข์คุณแม่ ฉันก็แอบเซ็งเล็กน้อย พี่ตุ้มถึงกับยกบัตรที่จองไว้ให้ฉันไปให้ใครก็ได้ที่อยากดู  พอดีว่าพี่อู่น้องพี่เก็จยังไม่ได้ซื้อบัตร ฉันเลยเอาบัตรพี่ตุ้มให้ไป แต่ด้วยอารมณ์ประมาณอยากให้พี่สาวได้อั๊พเดตเหตุการณ์ครั้งสำคัญโดยตลอด เวลาที่ฉันไปดูการซ้อมไปถ่ายรูป ก็จะส่งไปให้เรื่อย ๆ ทุกอย่างก็เหมือนสายลม..พัดไปในทะเลทราย แต่แล้ววันซ้อมใหญ่ ฉันได้ไปดูและให้กำลังใจโอ๋ในการรำครั้งแรก หลังจากทิ้งชุดนางรำมาหลายสิบปี ถ่ายรูปโอ๋ไว้หลายท่า เห็นว่าสวยดีเลยส่งให้พี่ตุ้มดูด้วย...it worked very well, indeed!!! พี่ตุ้มตอบเมลมาบัดดลว่าเปลี่ยนใจแล้ว ช่วยหาบัตรให้พี่ 4 ใบ พี่จะพาเพื่อนที่ทำงานไปดูด้วย เยส!!! แทบอยากบินไปเอกมัยเพื่อไปจุ๊บนางรำ 5555555 จริง ๆ แล้วช่วงนี้อารมณ์เริ่มนอยด์เล็กน้อย เพราะสงสารพี่เก็จ ซ้อมดึกทุกคืนจนผ่ายผอม หน้าเหลือนิ้ดเดียว ทั้งยังเป็นห่วงพี่หมอกัลยาว่าจะไหวไหม? กลัวเหนื่อยจนตกบันได ไหนจะป๊ากผู้ขับรถไกลทุกคืน ๆ มาตัวเปล่าก็เหนื่อยจะแย่ ยังต้องจัดน้ำท่าไว้บริการพี่น้องนักแสดงด้วยกันอีก จำนวนเท่าไร...ก็บนเวทีนั่นกี่คนล่ะคะ
พอช่วยขายบัตรได้เพิ่มอีกหน่อย ก็เลยดี๊ด๊าขึ้น...อารมณ์ขึ้นลงเร็วประสาสาวน้อย 5555555
ฉันเพิ่งรู้ในรอบซ้อมใหญ่ว่ามีนักเรียนชายจากวชิราวุธมาร่วมแสดงด้วย เป็นทหารญี่ปุ่นค่ะ วิ่งตึง ๆ โผล่มาจากไหนไม่รู้ 55555555 อารมณ์ประมาณผีหลอก แบบว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีฉากนี้ด้วย ขลังสุด ๆ ตอนที่แม่ทัพโกโบริ..เอ๊ย มายาโมโต้(รึเปล่า???) ขึ้นไปแผดเสียงกึกก้องกัมปนาทแสดงแสนยานุภาพหลานครูภิญโญเพื่อยึดโรงเรียนเป็นโรงพยาบาลกองทัพญี่ปุ่น
รอบแรกที่ไปดู เป็นรอบนักเรียนแต่มีคณะครูอาวุโสมานั่งดูด้วย แม้ว่าจะดูซ้อมมาหลายร้อยหน แต่ก็เป็นอะไรที่อึ้งทีเดียวกับการแสดงจริงรอบแรก คุณแม่ของแก้วคึกมาก ลุกขึ้นเต้นด้วย ซึ่งในบทไม่มีค่ะ ป๊ากเล่าว่าพี่บุษเครียดไปเลย กลัวคุณแม่หกล้มจะเป็นเรื่องใหญ่ ...เลยบอกไปว่าคุณแม่ออกกำลังกายเรื่อย ท่านต้องรู้ว่าท่านทำอะไรได้แค่ไหน ไม่ต้องห่วงหรอก... ฉันตะลึงตึง ๆ กับฉากแหม่มโคลกลับบ้าน ตอนที่เรือพาแหม่มโคลลาโรงไปนั้น เจ้าพันธุ์ทิพสองต้นข้างเวทีก็สลัดดอกโปรยปรายลงมา...อินเลยค่ะงานนี้ น้ำตาซึมเล็ก ๆ!  พักการแสดง 15 นาที ฉันไปรายงานตัวกับครู ๆ ทั้งหลายพร้อมซาวเสียงฟี้ดแบ็ค ที่จริงไม่ต้องถามก็ได้ค่ะ ครู ๆ หลายท่านตาแดงก่ำ โดยเฉพาะครูปรานี ณ นคร ยังเช็ดน้ำตาที่ไหลพราก ๆ อยู่เลย ได้รับนิ้วโป้งหลายสิบนิ้วมาประเดิม ซาวเสียงจนครูเสริมศรีแซวว่า..เป็นผู้กำกับเหรอ? เปล่าค่ะ หนูเป็นผู้อำนวยการสร้างตะหาก 5555555 น่าน...ไม่รู้ตัวอีก สมควรให้คนเขาหมั่นไส้แล้วยัยอ่อง!
รอบที่สอง รอบผู้ปกครอง รอบนี้ฉันไม่เจอคนรู้จัก และชาวนาทั้งหลายเหมือนจะเกี่ยวข้าวหนักไปหน่อย เลยดูเหนื่อย ๆ เล่นไม่เต็มที่เท่าไร อาจจะอยากเก็บแรงไว้ระดมในวันรุ่งขึ้น...รอบสุดท้าย  พอถึงวันรอบสุดท้าย ฉันตื่นเต้นมาก 555555 เพราะว่าวันนี้จะได้เจอผู้คนที่ฉันรักเพียบในโรงเรียนวัฒนาใน 1 วัน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ นะคะ  แต่เช้ามา..ค้นตู้เสื้อผ้าจะใส่ตัวไหนดี? ทีแรกจะใส่เสื้อยืดดอกไม้แห่งสยามแหละค่ะง่ายดี แต่ว่าเสื้อยืดสองตัวส่งไปซักยังไม่กลับมาเลย ไม่อยากใส่กระโปรง-รองเท้าส้นสูงเพราะคะเนดูแล้ววันนี้ต้องเดินเยอะแน่ ๆ เอาเสื้อเชิร์ตแขนยาวลายดอกไม้เล็ก ๆ ดีกว่า ไม่หลุด concept ดอกไม้แห่งสยาม ที่ใส่แขนยาวจะได้กันยุงค่ะ เพราะยุงชุมมาก ๆ (เอาเข้าจริงคืนนั้น เพื่อน ๆ บอกว่าไม่เห็นยุงเยอะเลย สงสัยยุงมันมึนกลิ่นน้ำยาทากันยุงที่หลาย ๆ  คนคงทากันมา 5555555)
คนเยอะจริง ๆ ค่ะ หาเพื่อนไม่เจอเลยแหละ พี่ตุ้มก็ไม่เห็น อุตส่าห์ไปยืนดักรอตรงทางเข้าแล้วนา เลยได้ช่วยจูงผู้อาวุโสลงจากรถหลายคน เพราะยืนตรงนั้นพอดี ได้พบกลุ่มวัฒนารุ่นพี่ ๆ ที่มากันเยอะ ๆ อาทิรุ่น 96  รุ่น 100 รุ่น 102 และรุ่น 105-106 แต่ก๊วนจิ๊บหายไปไหนล่ะเนี่ยะ ว่าแล้วก็โทรหาดีกว่า...อร๊ายยยย มือถือหาย!!! เสร็จเลยงานนี้ จะได้เจอจิ๊บ ได้เจอพี่ตุ้มไหมนั่น? แว่นตาที่ใส่มาก็ดันกรอบกระจุยตอนเจ้าปอมน้องสาวป๊ากโผเข้ากอด รักมากไปหน่อย..แว่นกระจาย เฮ้อ .... เริ่มเซ็งเล็ก ๆ 55555555
ตอนมานั่งที่ที่นั่ง เจอใครไม่รู้มานั่งในกลุ่ม 105 มาได้ไงเนี่ยะ? พอนั่ง ๆ ไปสักพัก สมองเริ่มรันค่ะ เอ้อใช่!!! บัตรพี่ตุ้มให้พี่อู่ไปนี่นา 5555555 หันขวับไป ...พี่อู่ป่าวคะ พี่อู่ตอบรับ ....แหะ ๆ เพิ่งนึกได้ค่ะสวัสดีค่ะ  ละครเริ่มพอดี เลยไม่ได้คุยกันเลย ถึงได้ก็คุยไม่รู้เรื่องอยู่ดี เพราะไฟดับ หูฉันก็ดับตามไฟไปด้วย
พอละครพักครึ่ง ฉันก็ลุกไปที่ ๆ ที่คิดว่าพี่ตุ้มนั่ง แต่ที่นั่งว่างเปล่า ...สงสัยพี่ตุ้มจะไม่มาซะแล้วมั้ง เฮ้อ เซ็ง ไปหาป้าจีดีกว่า คุยกับป้าจีและพี่หมอปิยรัตน์ได้ 2 คำ มีคนมาทักทายป้าจีหลายคน เลยหลบไปสวัสดีครูวรรณดี และท่านผู้หญิงสุมาลี ตอนนี้ท่านผู้หญิงก็จะไปห้องน้ำพอดี เลยอาสาพาไป เนื่องเพราะได้ยินพี่นุกูลบอกว่าจะพาไป ไอ้เราก็นึก...พี่นุกูลเป็นผู้ชาย...เลยจูงท่านผู้หญิงไป โดยมีพี่นุกูลเดินตามมาเป็นบอดี้การ์ด 555555 ท่านผู้หญิงก็พูดคุยด้วย แต่อย่างที่บอก ไฟไม่มา หูไม่มี ..พอช่วงมีไฟ หูก็มา ตอนนั้นก็คุยกันรู้เรื่องหน่อย
ส่งท่านผู้หญิงกลับมาที่เก้าอี้แล้ว ก็ยังไม่เจอจิ๊บ ไม่เจอพี่ตุ้ม เฮ้อ...วันนี้จะได้เจอไหมเนี่ยะ? แวะไปหาป้าจี เผื่อจะหาอาหารและน้ำท่าให้ได้ พบว่าป้าจีนั่งกินขนมครกอยู่ เลยว่าจะไปซื้อน้ำมาให้แต่ป้าจีไม่เอา เพราะกลัวต้องเข้าห้องน้ำ พอดีพี่หมอกลับไปแล้ว ละครเริ่มเลยทำเนียนนั่งข้างป้าจีไปเลย ทิ้งพี่เจนหน้าตาเฉย 5555555 ดูละครได้ชัด ๆ ตอนนี้เอง ที่นั่งเดิมมีผู้ชายตัวโต ๆ นั่งหน้าค่ะ เลยดูไม่ถนัด พี่เจนคงเซ็ง ฉันอุตส่าห์สละที่นั่ง VIP เพื่อมานั่งกับกิ๊ก แต่โดนกิ๊กหักหลังทิ้งกลางอากาศซะได้ คบเด็กสร้างบ้านซะแล้ว.....

พอละครเลิก โอ้โห ชุลมุนสุด ๆ ป้าจีซื้อกุหลาบมาไว้สำหรับให้นักแสดงด้วย แต่ป้าจีให้คนรอบ ๆ ไปยื่นแทน ฉันก็ได้มาเหมือนกัน เอาไปให้พี่เก็จ 555555 แล้วจากนั้นก็วิ่งหาเพื่อนและพี่ตุ้มต่อ สายตาก็แย่มากค่ะ ไม่เห็นใครเลย เดินไปเดินมาเห็นท่านผู้หญิงจะกลับแล้ว เลยช่วยจูงไปส่งที่รถ อยากจะซาวเสียงท่านอีกคนหลังจากที่ฟังป้าจีชมเปาะมาแล้ว ก็นั่งกับป้าจีตลอดละครครึ่งหลัง
ท่านผู้หญิงก็พูดหลายอย่าง แต่ความที่ทางมันมืด แล้วต้องคอยระวังพื้นตลอดทางเลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร 5555555 ตอนที่เดินจูงท่านผู้หญิงออกไป พี่ตุ้มก็เข้ามาสะกิด...เจอพี่ตุ้มแล้ว บอกพี่ตุ้มว่ารอแป๊บนะคะ ไปส่งท่านผู้หญิงก่อน เดินไปได้อีกหน่อย จิ๊บกับป้อมมาสะกิด....นี่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มาสะกิดนี่ ฉันคงไม่เจอใครเลย อารมณ์เบิกบานมากค่ะตอนนั้น ปลื้มที่ละครจบลงอย่างสวยงาม ปลื้มที่จิ๊บป้อมมา ปลื้มที่พี่ตุ้มมา ....ตอนที่ยืนรอรถเป็นเพื่อนท่านผู้หญิงเลยต่อยหอยเป็นพิเศษ แถมยังริอ่านขอกอดท่านทีนึง 5555555 แอบชื่นชมมานานหลายสิบปีแล้ว ประทับใจไหวพริบท่าน คือตอนลาครั้งสุดท้ายก็บอกขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง จะได้มางานโรงเรียนอีก 10 ปี  ท่านตอบกลับมาทันที ..10 ปีน้อยไปค่ะ ขอ 30 ปี โอ้ว...เอาใจไปเลยค่ะ
เดินกลับมาหาพี่ตุ้มไม่เจอซะแล้ว เพื่อน ๆ ก็กลับกันไปแล้ว กำลังคิดว่าสงสัยต้องกลับเองแหง ๆ ก็เจอพี่ตุ้ม ถามพี่ตุ้มว่าทำไมไม่รอตรงที่บอกล่ะคะ พี่ตุ้มบอก...ใครจะไปรอไหว ไปนานเหลือเกิน อ้อนพี่ตุ้มซื้อ cd เพลงให้ด้วย พี่ตุ้มก็ซื้อให้ไม่มีอิดออด ส่วน dvd ซื้อไว้แล้วตั้งแต่แรกมาถึงค่ะ ระหว่างทางกลับบ้านในรถ เปิด cd เพลง พี่ตุ้มร้องตามให้ฟังหลายเพลงเลย ทำให้ช่วงรถติดไม่น่าเบื่อสักนิด
กลับมาถึงบ้านก็ยังอินกับดอกไม้แห่งสยามไม่เลิก เปิด dvd ดูดีกว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ concentrate กับภาพรวมของละคร 5555555 ดูแล้วน้ำตาไหลพราก ๆ ปิ๊งเพลงความหวังจนต้องเมลหาพี่น้อยขอเนื้อเพลงมาร้องตาม ประทับใจกับเสียงใส ๆ ของน้องแอ๋มน้องแน้ตในเพลง morning has broken และเพลงออกกำลังกายที่ยังไม่รู้ชื่อ แต่ชอบ... ยังจะเพลงตอนก่อสร้างตึกเรียนอีก สรุป..ชอบทุกเพลง 555555555
ยิ่งมานึกเสียดายแทนเพื่อน ๆ หลายคนที่ไมได้ดู บางคนซื้อบัตรแต่มาดูไม่ได้ อยากจะโฆษณาจริง ๆ ค่ะว่าให้ซื้อ dvd ไปดูกัน แค่ 500 บาท แต่รับรองค่ะว่าจะประทับใจเกิน 500 แถมอีก 200 ค่า cd เพลง 5555555


ถึงเป็นแค่ความหวัง ฉันยังหวังว่า...ตึกเรียนของเราจะกลับมา และอยู่ยืนยาวไปชั่วชีวิตของฉัน ตึกเรียนแห่งนี้เป็นตึกที่ฉันรักมากที่สุดในบรรดาสิ่งก่อสร้างทั้งหมด เพราะเป็นคลังความทรงจำดี ๆ และร้าย ๆ แต่น่าประทับใจมากมาย เป็นที่ซึ่ง...พวกเราหลายคนได้เติบโตขึ้นมาอย่างสวยงามบนดินอันสมบูรณ์ มีเหตุผลอีกล้านแปดที่ฉันอยากให้ตึกเรียนกลับมาเปิดให้ใช้งานได้ดังเดิม...รักเธอนะเจ้าตึกเรียน.

7 ความคิดเห็น:

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

พี่เฉิดศิริ - เจ้าน้ำพริกอ่องถ้วยใหญ่ผู้น่ารัก

ไม่ผิดหวังเลยกับการรอคอยอ่านบทความของเธอ ได้ข้อมูล ได้อารมณ์ ได้เห็นภาพตาม
เธอไปอย่างสนุกสนาน ไม่เบื่อเลยซักตัวหนังสือ เช่นเดียวกับการดูละครดอกไม้แห่งสยาม
ซึ่งไม่มีตรงไหนที่น่าเบื่อเลย เนอะ สร้างดีมาก กำกับดีมาก บทดีมาก แสดงดีมาก
เพลงเพราะมากทุกเพลงและก็ร้องได้เพราะมากเช่นกัน การเลือกตัวละครก็เหมาะสมจริงๆ
อยากดูอีกหลายๆหน ขอขอบคุณ ส.ว.ว. ที่ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ด้วยความตั้งใจจริงและ
เสียสละ เพื่อโรงเรียนของเรา ขอบอกว่า "คุณทำสำเร้จแล้ว ไชโย"

Ruby - อ่านดอกไม้แห่งสยามแล้ว ชอบมากเลยนะ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลยอ่ะ บรรยายซะเห็นภาพเลย ยอดเยี่ยมจริงๆ

ขอบคุณที่ได้แบ่งปันบรรยากาศ และความรู้สึกต่างๆ ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือให้อ่านนะ สุดยอดเลยจ๊ะ

ศิรินทิพย์ - เขียนเก่งจัง หนุกแทนไปด้วยเลย
ภัทรชนก - สุดยอดอีกแล้ว และขออนุญาตตรงนี้เลยว่าขอลงวารสารได้มั๊ย จะให้พี่เก็จและพี่หนิงช่วยปรู๊ฟด้วย จะเยี่ยมมาก ชอบภาษาอังกฤษที่อ่องเขียนเร้าใจมากจ้ะ

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

natta - thank you ja. อ่านแล้วเลยทำให้อยากดู จะรอเอาไว้กลับไปดูที่ กทม คราวหน้าละกัน

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

waewwan - Thanks for your Dog-Mai Siam which you sent to me. Your story is very good and I forwarded to Pee Pun too. Can you get the CD and the DVD one each for me and I will pay you back later when I go to Thailand? If you will mail them to me by the Post Office,I will be very happy. And you figure how much I owe you and please let me know then I will pay you back later,is it a good deal?
I think the alumni of W.W.A. should see these CD and DVD ,the ones who live outside Thailand.

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

arunee - Just finished reading. IT is so good i have to read twice. Thank so much.

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

พี่เจน - Ong I read your blog and as usual naja I love it and you write well ja.enjoyed it ja ESP..the part that you left me even though I sacrificed the VIP seat to sit with you and you just left me.555 that part I liked the most ja....love u.

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

ketvarong - เขียนได้สนุกมากเหมือนเคย อ่านไปยิ้ม/หัวเราะไป เอาอีก

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

chararin -ดีใจที่อ่องบันทึกความทรงจำที่สวยงามอันนี้จ้ะ .. ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ มากกกกกกกก ...