วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก

วัฒนา...เรือนแห่งความผูกพัน
เพราะว่าสมองเริ่มถึงเวลาปลดประจำการ จึงขอรวบยอดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับมวลมิตรวัฒนาไว้เป็น 1 บันทึก พูดง่าย ๆ ว่าเดือนนี้มีอะไรมั่ง ทุกเรื่องอยู่ในบทความสีชมพูนี้แหละค่ะ ที่จะเล่ามีด้วยกัน 4 เหตุการณ์ค่ะ
เหตุการณ์ที่ 1 เกิด ณ  วันที่ 14 ก.พ. แก๊งสุโค่ยรวมพลเจ๊าะแจ๊ะจอแจจูจุ๊บกันที่ออฟฟิศพี่เจน
วันแห่งความรัก...เราควรจะได้เจอหน้าคนที่เรารัก และรักเราใช่ไหมคะ? งานนี้ชาว GSG ก็เลยรวมตัวกันเพื่อ give – get & share love กัน....สีชมพูแจ๋นเชียวใช่ไหมคะบทความนี้ 55555 นี่แค่เริ่มต้นนะเนี่ยะ อิอิ  ทีแรกก็คิดว่าจะตรงไปออฟฟิศพี่เจนเลย อยากจะไปนั่งฟังเพลงดอกไม้แห่งสยามผ่านลำโพงคุณภาพ แต่ไหงมาลงที่ไปเจอพี่เก็จก่อนก็ไม่รู้ ไม่รู้จริงเหรอ? 555555 คือจำได้ไม่ค่อยชัดค่ะ พี่เก็จกำลังเห่อดีคูผาด ทำของแจกผองพี่น้องอย่างเมามันส์  ระลึกถึงเวลาเก่า ๆ ที่ฉันเคยคลั่งบาติก แล้วไม่กล้าเรียนรู้เจ้าผาดนี่ กลัวเกิดหลงใหลขึ้นมาจะยุ่ง เพราะไม่มีตังค์ซื้ออุปกรณ์ ก็ได้แต่ดูผ่าน ๆ แต่หัวก็แล่นไปแล้วว่าจะหาทิชชู่ลายสวย ๆ จากไหนมาฝากพี่เก็จได้บ้าง?
พี่เก็จรดน้ำเสร็จในเวลาไม่นาน ด้วยหัวฉีดมหัศจรรย์ยืนที่เดียวฉีดได้ทั้งบ้าน 555555 จริง ๆ นะคะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปบ้านพี่เก็จตอนพี่เก็จรดน้ำต้นไม้ดู.. เห็นยังมีเวลาก็เลยเล่นเปียโนให้ฟัง เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ถูกใจมาก แต่เช่นเคย ฉันยังคง
request เพลงชวนหาวนอน พี่เก็จเห็นว่าขืนเล่นต่อไปอีกนาน ๆ คงได้หลับคาเปียโนก่อนไปมีตติ้งแจกจ่ายความรักของแก๊ง เลยตัดสินใจว่า...เราออกเดินทางกันเถอะอ่อง...
เห็นชุดพี่เก็จแล้ว...โห พี่เจนจะไม่รักได้ไง มีทั้งหมวกทั้งกระโปรงที่พี่เจนให้ ถึงจะเป็นเสื้อขาวดำผิดกาละเทศะวาเลนไทน์ พี่เก็จก็แก้ด้วยมีผ้าคลุมไหล่สีชมพู ทั้ง ๆ ที่ร้อนออกจะตาย ถ้าไม่ใช่อยากให้พี่เจนดีใจแล้วอะไร? พ่วงด้วยกำไลสุโค่ยที่แก้วเอามาแจกอีก เลือดสุโค่ยเข้มข้นมากค่ะคุณเก็จวรงค์ สุโค่ยรุ่นบุกเบิกยังยอมแพ้เลย
ไปถึงออฟฟิศ พี่จี๋ควงสามีสุดเลิฟมารออยู่ก่อนแล้วพร้อมพี่นุ้ย มีพี่เจนกำลังง่วนอยู่หน้าเตาเช่นเคย บนโต๊ะมีไก่แจ้..เอ๊ยไก่อบหนังสีน้ำตาลมันวาวน่าฉกกินก่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องข่มใจไว้ไม่มองค่ะ ไม่มอง ...พี่จี๋มอบหัวใจช็อกโกแลตให้คนละเม็ด อร่อยมากกกก อยากเบิ้ลอ่ะ ขอแล้ว พี่จี๋บอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวไม่มีแจกคนหลัง ๆ พี่นุ้ยจูงไปดูพายสตอเบอรี่ในตู้เย็น บอกว่าจริง ๆ แยมสีแดงพี่บรรจงให้เป็นรูปหัวใจนะ แต่มันดันละลายก่อนมาถึงนี่ ไม่เป็นไรค่ะพี่นุ้ย ถึงไงอีกไม่นานมันก็ละลายในกระเพาะอยู่ดี และมันอร่อยมากค่ะ พี่นุ้ยทำมาเยอะ เลยได้หิ้วกลับไปกินต่อที่บ้านอีก 1 ถาด
นอกจากไก่อบตัวอ้วนพีแล้ว พี่เจนก็ทำข้าวผัดหนำเลี้ยบที่พี่เก็จบอกว่าอร่อยกว่าอ่องทำอีก แหงล่ะ ...พี่เจนเขาแม่ครัวอาชีพนิ  อ่องมันสมัครเล่น และก็ต้มยำปลาทูที่แสนเปรี้ยวซ่าสะใจต้องซดน้ำต้มยำเปล่า ๆ เบิ้ลอีก 1 ชาม
แก้วมาพร้อมกิมจิ ได้มาเป็นกับข้าวสำรองในตู้เย็นอีกหลายมื้อเลย อร่อยค่ะ บอกแก้วไปว่าทำอีกเมื่อไรเรียกไปด้วย จะไปขโมยสูตรมาออกอากาศซะหน่อย พี่หนิงเอาบราวนี่ที่บรรจงตัดเป็นหัวใจสีน้ำตาล วางเรียงรายเต็มกล่อง พี่พัชกับสุดเลิฟวันนี้มาช้า หิ้ว m&m มาถุงใหญ่ พี่วุฒิใจดีมาก มอบช็อกโกแลตหัวใจของพี่จี๋ให้ เห็นน้ำลายหยดเลยสงสารมั้ง 5555555 จะตะกละไปไหมยัยอ่อง ปิดท้ายรายการด้วยนางเอกศรีราชา มาพร้อมขนมเปี๊ยะรสสตอเบอรี่  พี่ ๆ น้อง ๆ แลกเปลี่ยนขนม-ข้าวของกัน รวมทั้งพี่เจนให้คุ้กกี้รูปหัวใจ จะมีก็แต่ข้าพเจ้า...ขอมอบบันทึกนี้ให้พี่น้องละกันนะคะ แหะ ๆ
ตามเคย กินกันอิ่มหนำสำราญปากและฟัน เสร็จแล้วก็ไปนอนแผ่ผึ่งพุงกัน แต่พี่พัชเอางานวารสารมาให้พี่หนิงกับพี่เก็จช่วยตรวจปรู๊ฟ ช่างเป็นการย่อยอาหารที่น่าสนใจยิ่ง พี่เจนเสนอวาระอันน่าตกใจว่า...ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งควรจะหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ แบบระบอบประชาธิปไตย .... ม่ายอาววววค่า เสียงมติจนชนชาวสุโค่ยค้านเป็นเอกฉันท์ ให้พี่เจนเป็นหัวหน้าตลอดชีพแหละดีแล้ว เราเป็นประชาธิปไตยแบบสุโค่ย ๆ  นายกเราต้องมีผมสีม่วงเท่านั้น 5555555
วันนี้พี่เจนมีประชุมต้องไปร่วม แต่บอกน้อง ๆ ที่กำลังนอนพุงอืดกันอยู่ว่า ผึ่งพุงต่อได้นะจ๊ะ ตามสบาย พวกเราเลยนอนแผ่เกลือกกลิ้งทั่วฟลอร์อยู่นาน จนพี่หนิงบอกว่าขอนอนก่อนนะ ง่วงจัง ฉันก็ถามขึ้นมาว่า...ทำไมไม่กลับไปนอนที่บ้านกันล่ะคะ? เออ ใช่! ทุกคนเพิ่งรู้ตัว 55555555 แยกย้ายกันกลับบ้านโดยพลัน
เหตุการณ์ย่อย – โฆษณาคั่น 5555555 บทความก็มีโฆษณากับเขาด้วย?
เพราะเมื่อวานพี่เก็จฝากตะกร้าดีคูผาดพร้อมช่อดอกไม้กุหลาบน่ารัก ๆ มาขอบคุณพี่ตุ้มสำหรับบัตรละครดอกไม้แห่งสยาม และวันนี้เผอิญว่ามีงูบุกบ้านพี่ตุ้ม ฉันจึงได้แวะเอาตะกร้าพี่เก็จไปให้ แล้วก็อยู่ดูเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการล่างู ปรากฏว่าเป็นงูเห่าค่ะ ท่าทางจะมีเป็นครอบครัวเลย  ตอนที่อยู่ยังหารังไม่เจอค่ะ แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะเรียบร้อยไปแล้ว...มั้ง?????
เหตุการณ์ที่ 2 วันที่ 16 กพ. สามสหาย watch flood ตะลุยบ้านศิลปิน ณ คลองบางหลวง
วันก่อนตั้งใจว่าจะทำ avocado sour cream ไปให้ชาวสุโค่ยได้กินกัน แต่ว่า...ไม่รู้มาก่อนว่าต้องใช้อะโวคาโดสุก ผิดสูตรไปหน่อย คราวนี้เลยไปซื้อลูกนิ่ม ๆ มาทำ อร่อยมากค่ะ เอาไปฝากพี่เก็จโลด เนื่องจากวันนี้มีนัดกับพี่เก็จ พี่ตุ้มวัลลภว่าจะไปบ้านศิลปิน และชุมชนบ้านคลองบางหลวงถิ่นของแม่พลอยแห่งสี่แผ่นดิน พี่เก็จถามว่าทำไมจะไปที่นี่? อ้าว..ไหงคุณพี่ความจำสั้นแข่งกับอ่องซะแล้ว ก็พี่เองไม่ใช่เหรอคะที่บอกว่าอยากไปง่ะ? สงสัยจะนานเนิ่นเกินเมมโมรี่สติ๊กเป็นแน่ เนื่องจากตอนที่พี่เก็จพูดน่ะ ก่อนน้ำท่วมอีกค่ะ นี่ข้ามมาอีกปี..
เราสองคนนั่งรถใต้ดินจากห้วยขวางไปอโศกเปลี่ยนรถไฟฟ้า แล้วไปเปลี่ยนสายที่สยามเพื่อไปกรุงธน พี่เก็จบอกว่าน่าจะเปลี่ยนที่ศาลาแดงนะ พูดช้าไปหน่อยค่ะคุณพี่ ระหว่างทางพี่ตุ้มก็โทรเข้ามาว่าถึงที่นัดหมายแล้ว น้อง ๆ อยู่ไหน? วันนี้พี่ตุ้มทำตัวเป็นชายหนุ่ม มาก่อนหญิงสาว คราวก่อนปล่อยให้สาว ๆ มารอหนุ่ม เจ๊ากันไป...
นั่งรอพี่แดงอยู่พักใหญ่ ติดต่อก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจนั่ง taxi ไปกันเอง ตอนแรกที่ไปถึงชุมชนคลองบางหลวง ฉันผิดหวังนิดหน่อย ความที่เคยไปตลาดน้ำ และชุมชนริมคลองมาหลายที่หลายแห่ง ที่นี่เล็กมากค่ะ และมีร้านค้าน้อยมาก ๆ จุดขายของที่นี่คงเป็น “หุ่นละครโรงเล็ก”ที่เล่นที่บ้านศิลปิน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูไม่น้อย ทั้งยังมีเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวโฉบผ่านไม่ขาดสาย เรียกว่าทุก ๆ 10 นาทีก็ว่าได้ค่ะ
ถึงจะเป็นชุมชนเล็ก ๆ แต่ก็สะอาดสะอ้าน ไร้ฝุ่น และยุง ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ติดน้ำแต่ไม่มียุงเนอะคะ คงเป็นเพราะมีปลาสวายนักเขมือบทุกอย่างที่ขวางปาก ทีแรกไม่รู้หรอกค่ะว่ามีฝูงปลาสวาย ระหว่างนั่ง ๆ นอน ๆ เล่น พี่เก็จเห็นเขาขายอาหารปลา ก็เลยซื้อมาให้อาหารปลาแก้เซ็งหน่อย อุตส่าห์เบิกตังค์มาเตรียมช็อปกระหน่ำ ดันมีอยู่ร้านเดียว แถมไม่มีของถูกใจให้เสียเงิน อย่ากระนั้นเลย เลี้ยงปลาดีกว่า ได้อาหารมาก็นั่งเนือย ๆ โปรยอาหารเม็ดลงไป
พรึ่บ! ฝูงปลาโผล่ขึ้นมามะรุมมะตุ้มอาหารซะพี่เก็จร้องว้ายตกใจ 5555555 ดีที่มันไม่ใช่พันธุ์กระโดด มิฉะนั้นพี่เก็จอาจจะกระโดดตามปลาด้วย แค่นี้ก็สะดุ้งโหยงเกือบลอยแล้ว สีหน้าปรับเปลี่ยนโหมดจากเนือย ๆ ง่วง ๆ เป็นสดใสขึ้นทันที อีตอนแรกที่มาถึง พี่เก็จคงเบื่อถึงกับไปนอนเลยล่ะค่ะ บอกว่าเย็นสบายดี แต่นอนไม่หลับเพราะเรือหางยาวที่วิ่งผ่านทุก ๆ 10 นาทีนี่แหละ ฉันเห็นพี่เก็จเริ่มสดใสขึ้นหลังจากให้อาหารปลา เลยชวนพี่ไปถ่ายกับหุ่นริมน้ำ มีหุ่นตัวนึง สีแดงก่ำ นั่งทอดอารมณ์ทะมึน ๆ อยู่ริมท่า ฉันบอกให้พี่เก็จไปนั่งคู่ พี่เก็จบอกไม่เอาง่ะ  ขอนั่งรักษาระยะห่างได้ป่ะ กลัว...55555555
ข้างพี่ตุ้มก็เที่ยวคุยกับคนนั้นคนนี้ไป ถ่ายรูปบรรยากาศไป ผิดกับฉันที่ถ่ายแต่รูปพี่เก็จ 555555 จนได้เวลาเที่ยงก็เดินไปกินข้าว แถวนั้นมีร้านเดียวมั้งคะ คนเต็มร้านเลย ก๋วยจั๊บก็อร่อยดีค่ะ ตามด้วยข้าวเหนียวหน้าสังขยาและปลาป่น พี่เก็จเบิ้ล 2 ชุด ส่วนพี่ตุ้มสั่งข้าวเหนียวมะม่วง...แง้ว ไม่รู้ว่ามีข้าวเหนียวมะม่วงอ่ะ พี่ ๆ บอก..ก็สั่งดิ  ไม่มีกระเพาะใส่ อิ่มแล้วอ่ะ
เราเลือกที่นั่งริมน้ำ ระหว่างนี้ก็มีเรือพานักท่องเที่ยวผ่านมาตลอดเวลา เราสามคนโบกมือ แต่ไม่ได้ถือธง ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองกันเป็นที่หนุกหนาน ตอนนี้อิ่มท้องแล้ว ก็เดินกลับไปที่บ้านศิลปินรอดูการแสดงค่ะ ฉันชวนพี่เก็จไปถ่ายรูปกับหุ่นเชิด พี่เก็จเริ่ดมาก จับหุ่นปุ๊บ ยกขาขึ้นปั๊บ...เอ้า—เชิด... สงสัยอดีตชาติกาลเคยเป็นนักโขนมาก่อน
เสร็จแล้วก็มานั่งรอต่อ ไม่มีอะไรทำฉันเลยชวนพี่เก็จร้องเพลงซะเลย ทีแรกพี่เก็จปฏิเสธ บอกว่าคนเยอะ แต่ทนลูกตื้อไม่ได้ ร้องซะหน่อยก็ได้ ดีกว่าอยู่เปล่า ๆ มานั่งใกล้ ๆ  เปิดหูฟังดัง ๆ ล่ะจะได้ได้ยิน มิวสิคขึ้น...5555555 เว่อร์นิดหน่อยพอเป็นกระสาย ทายดิ๊เพลงอะไรเอ่ย?..
~~ดอกไม้ที่แสนสวยงาม...~~ โอ้วเย่...คนบางคนยังอินกับ musical ไม่เลิก พี่เก็จร้องแบบจำเนื้อได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะนักร้องเขาซ้อมกันแค่ท่อนฮุค ฉันต้องคอยป้อนเนื้อเพลงให้ ก็จำได้มั่งไม่ได้มั่งพอกัน 5555555 ฉันเห็นฝรั่งที่นั่งใกล้ ๆ สนใจฟังด้วย แต่พี่เก็จไม่รู้เพราะหลับตาร้องเพลง 5555555 เลย request เพลงสากล พี่เก็จก็จัดให้ค่ะ หลวมตัวร้องไปแล้วก็เอาให้สุด ๆ เลย ~~such a feeling coming over me~~ ทีนี้เลยขยายวงเลย ฝรั่งร่วมร้องด้วยค่ะ งานนี้เรียกว่าดนตรีกระชับมิตร ได้ฟังเพลง close to you จากฝรั่งหญิง และ oh holy night จากฝรั่งชาย มีพี่เก็จเป็นเสียงประสาน 5555555 ตอนนี้คนเริ่มเต็มบ้านแล้ว ไม่ได้เข้ามาฟังเพลงหรอกค่ะ ใกล้เวลาแสดงหุ่นเชิดแล้วต่างหาก
เวลาผ่านไป ได้รับความรู้พอสังเขปเกี่ยวกับบ้าน เจดีย์และหุ่นเชิด เพลิดเพลินกับละครหุ่นเชิดตอนหนุมานตามล่านางเบญจกายที่จำแลงเป็นนางสีดา เสียงปรบมือ และรอยยิ้มของทุกคนคงเป็นคำตอบที่ดีถึงความสำเร็จของคณะหุ่นละครโรงเล็ก แต่ความที่เขาพูดแต่ภาษาไทย พี่เก็จก็เลยทำหน้าที่คนไทยเจ้าบ้านที่น่ารัก ทำการพากษ์ให้ฝรั่งเพื่อนใหม่ฟัง พี่ตุ้มช่วยถ่ายรูปกับหุ่นให้หลายรูปทีเดียว ขอบคุณนะคะตากล้อง
ขากลับพี่ตุ้มชวนไปวัดต่อ แต่เราสองคนไม่ถนัดเที่ยววัด เลยขอแยกกันตรงนี้ค่ะ ขากลับตอนลงสะพาน สะพานข้ามคลองขนาด 2 คนสวนเขาแบ่งเป็นเลนสำหรับมอเตอร์ไซด์ และบันไดสำหรับคนเดิน พี่เก็จนึกสนุก อยากเดินลงทางดิ่งเลนมอเตอร์ไซด์ด้วย บอกให้ฉันเดินลงบันไดตีคู่ แล้วจับมือฉันเดินแกมวิ่งลงสะพานชัน ๆ ลงไป ทดสอบความแข็งแรงของขาเหรอคะพี่เก็จ?
เหตุการณ์ที่ 3 ขอยื้มชื่อจากพี่เมตตาหน่อยนะคะ ...Blu-O โบวล์กลิ้ง 18 กพ.
เห็นได้ว่าอาทิตย์นี้ออกจากบ้านเกือบทุกวัน อยู่บ้านพักผ่อนแค่วันศุกร์วันเดียวเท่านั้นเอง ที่จริงพอรู้ว่าพี่เก็จจะไม่ไป แถมป๊ากก็บอกไปเองได้ไหม? ก็งอแงละ ทำท่าจะไม่ไป ป๊ากเลยถอนหายใจเฮือก ๆ ไปรับก็ได้ฟระ 5555555 แถมมาซะสายเชียว รถก็ติด ทำให้ไปไม่ทันเจอพี่เจน คนอื่น ๆ เขาก็เล่นกันจะจบเกมอยู่แล้ว เหลือทีมนางเอกโผล่มาเป็นทีมสุดท้าย โดดเด่นแต่ไกลแบบว่ามาโยนโบว์ลแต่ดันใส่หมวกปีกบานมาอย่างเก๋ไก๋ ถ้าไม่เกรงใจคงมีคนอยากเข้ามาถามว่ามาผิดงานป่ะจ๊ะ เท่านั้นยังไม่พอ คุณแก้วเอากางเกงชาวนามาให้ใส่อีก โอ๊ว... ดูรูปแล้วนึกสรรเสริญตัวเองอยู่ครันว่าช่างกล้าบ้าบิ่นจริง ๆ 5555555 แต่ก็น่ะ blu-o มีแสงอึมครึมสีฟ้า คงไม่มีใครสังเกตสนใจใครเท่าไร
หลังจากทักทายพี่ ๆ ที่รู้จัก อาทิพี่โอ๊ะพี่เอ๊ะ พี่หน่อยพี่แดงพี่ป้อม ตอนนี้ขำพี่ป้อมมาก เพราะฉันดีใจที่เจอพี่หน่อยออกหน้าออกตาไปหน่อย วิ่งไปกอดพี่หน่อย แล้วบอกว่าดีใจจังงั้นงี้ พี่ป้อมเลยประท้วงว่า..ดีใจแค่เจอพี่หน่อยเหรอ แล้วพี่ล่ะ? 5555555 พี่หนิงและผองเพื่อนรุ่น 100 พี่อะไรต่อมิอะไรอีกเพียบแล้ว ก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตาล้างท่อกันอย่างขะมักเขม้น คนที่ล้างท่อสะอาดที่สุดในทีมคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฉันเอง ว่าว่าง ๆ จะไปช่วยกทม ลอกท่อซะหน่อย แต่ก็มีดีนะเออ ทำ 3 strikes ติดกันได้ด้วย วิธีนับคะแนนไม่เหมือนโบวลิ่งที่คุ้นเคย โยนทีเดียว ถ้าขวดล้มจำนวนคู่เป็น strike หมด เหมือนง่าย แต่ก็ไม่ง่ายเท่าไร ก็ยังดีกว่าให้โยนหมดพิน ซึ่งคงไม่มีทางทำสไตรค์ได้แน่ ๆ เพราะเป็นทีมที่มาถึงสาย เลยเล่นได้แค่ 2 เกมก็หมดเวลา ไม่ครบเซ็ทค่ะ แต่คะแนนก็ไม่ขี้เหร่ ในทีมมีป๊ากทำคะแนนดี แก้วตามมา แล้วทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่นคือฉัน ที่ว่าทิ้งคือทิ้งท้ายนะคะ
มีเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือฉันหาพี่ตุ้ย 101 ไม่เจอค่ะ เนื่องจากตอนเช้ามาพี่ตุ้ยบอกใน fb ว่าจะทำบราวนี่มา ฉันก็เลยอยากกิน (อ้อที่หาเพราะอยากกินบราวนี่นี่เอง) เลยได้รับข่าวที่น่าตกใจว่าพี่ตุ้ยลื่นล้มแขนหัก ไปรพ.แล้ว พี่เมตตาถ่ายรูปหลังจากเหตุการณ์ได้ทัน เอารูปให้ดูแล้วเล่าว่าพี่หมอพรทิพย์วิ่งเข้าไปดูอาการรวดเร็วมาก ในขณะที่คนอื่น ๆ มัวตกตะลึง ส่วนพี่เมตตามัวถ่ายรูปเก็บเหตุการณ์ สงสัยเคยเป็นนักข่าว พี่ตุ้ยยังบอกเลยว่า take every shot 5555555 หลังจากตรวจอาการคร่าว ๆ ก็คาดว่าแขนน่าจะหัก จึงนำส่งรพ.จุฬา พี่โอ๊ะเล่าในเมลว่าทีแรกคุณพ่อพี่โอ๊ะก็เล่นด้วย พอเห็นพี่ตุ้ยล้มเลยหยุดเล่นทันที
มิน่าตอนที่ฉันทำเล่น ๆ แล้วเหมือนจะลื่น แต่ก็แค่ไถลนิดหน่อยไม่ถึงกับล้ม พี่เอ๊ะหน้าตื่นเลย แบบว่าคงเพิ่งผ่านเหตุการณ์มาหมาด ๆ ไม่อยากเห็นอีกรอบสอง
ผลการแข่งขัน พวกเราได้รางวัลกับเขาด้วย 55555555 ไม่ใช่รางวัลบู้บี้หรอกค่ะ เพราะป๊ากตั้งใจเล่นเกินไป ทีมเลยคะแนนไม่น่าเกลียด แต่ที่ได้รางวัลคือชุดทีมดีเด่นค่ะ เพราะหมวกสุโค่ยแท้ ๆ ฉันว่านะกรรมการเขาคงให้เพราะความใจถึงของ 3 สาวมากกว่า 555555 ตอนนี้เริ่มหิวข้าวแล้ว แต่เขาก็จะประกาศรางวัล จะถ่ายรูปหมู่กัน ฉันแว่บไปกินก่อน แบบว่าหิวอ่ะ ทันกลับมาถ่ายรูปหมู่บ้างนิดหน่อย
สักพักพี่ตุ้ยก็กลับมาค่ะ พร้อมกับแขนที่เข้าเฝือก ดีที่เป็นข้างซ้าย ยังพอทำกิจกรรมได้หลายอย่างยกเว้นทำฟัน งานนี้คนไข้ช่วง 6 อาทิตย์นี้จะทำไงเนี่ยะ พี่ตุ้ยเอาฟิล์มให้ดู ขำอ่ะ..ในฟิล์มมีทำมือโอเคด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่โอเค พี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ รุมกันเอาอกเอาใจ แล้วก็อ่านฟิล์มกันเป็นที่หนุกหนานประสาวัฒเนี่ยน
พี่เจนเห็นรูปฉัน แก้ว ป๊ากใน fb ก็สั่งการลงมาทันที...เด็ก ๆ จ๊า วันที่ 31 มีค.มาโยนอีกทีนะจ๊ะ งานนี้พี่เจนเป็นประธานหาทุนสร้างตึกพระอาจวิทยาคม หัวหน้าสั่งก็ต้องไปซิคะ ไม่งั้นจะเรียกแก๊งสุโค่ยได้ยังไงกัน? จริงไหมคะ? จริงจ้ะ ๆ ๆ  55555555 พี่เก็จ...ห้ามขาดนะงานนี้ ไม่โยนก็มาเป็นกองเชียร์ แบบพี่ ๆ รุ่น 100 ที่เหนียวแน่นกันเสมอมา ได้รับรางวัลทีมเชียร์ด้วย เพราะคนเยอะ แถมหลายคนเป็นนักร้องด้วยเลยเสียงดังฟังชัดกว่าทีมอื่น ๆ
โบว์กลิ้งรอบนี้มีวัฒนาหลากรุ่นมากันอย่างคับคั่งกว่าครั้งก่อนค่ะ เสียงดังมาก ๆ ทั้งเสียงของโบว์ลิ่งและเสียงทักทายกันของพี่น้องวัฒนา มีบางคนที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อน – พี่ดอลลี่ เห็นพี่โอ๊ะบอกว่ารุ่น 80 ดูพริ้งมากค่ะ ไม่น่าเชื่อว่ารุ่นเดอะขนาดนั้น พี่หมอนายไม่คิดว่าจะเจอก็เจอ สงสัยมีลางสังหรณ์ว่างานนี้จะเป็นโบว์กลิ้งเลยมา stand by เป็นแพทย์ภาคสนาม
พี่โอ๊ะเล่าว่างานนี้หาเงินให้ครูวรรณดีเพื่อนำไปถวายโบสถ์สำเหร่ได้ถึง 2 แสนกว่า เพราะบางคนที่ไม่ได้มาก็ฝากเงินมาทำบุญหลายคน สิ่งนี้ฉันไม่ค่อยใส่ใจเท่ากับความรักความสามัคคีระหว่างพี่น้องวัฒนาหรอกค่ะ ตอนนี้ได้ข่าวว่าเขาจะเอาสระน้ำมาไว้ที่ศาลาโคล์ที่ทำการของสมาคมศิษย์เก่า โดยจะทำเป็นอาคาร แล้วให้สำนักงานสมาคมไป 1 ห้อง หรือ 1 ชั้นก็ไม่แน่ใจ และมี in door swimming pool แต่พวกเราศิษย์เก่าคัดค้านค่ะ เพราะเกรงว่าจะถูกกลืนหายไปจากพื้นที่โรงเรียนไปไม่รู้เนื้อรู้ตัว ฉันจึงอยากให้พวกเรานอกจากรักกันเองแล้ว เผื่อแผ่ความใส่ใจมาให้โรงเรียนแหล่งกำเนิดสายใยระหว่างพวกเราด้วย เพื่อลูกหลาน และเด็กไทยรุ่นหลัง ๆ จะได้มีที่ถักทอสายใยอันอบอุ่นเปี่ยมคุณภาพนี้ตลอดไป บางคนคงรู้แล้ว แต่หลายคนอาจจะไม่รู้..ว่าความผูกพันระหว่างชาววัฒเนี่ยนเป็นที่จับตามองด้วยความอิจฉาจากโรงเรียนอื่นแค่ไหน ฉันล่ะภูมิใจในความเป็นวัฒนาเป็นที่สุดเลยค่ะ
เหตุการณ์ที่ 4 เกิด ณ วันที่ 22 กพ. วันที่ฉันรู้ว่าตัวเองเลือดจาง แต่แอบดีใจ 55555555 เรื่องของเรื่องคือคืนวันจันทร์พี่ต้อยปาริชาต msg มาชวนไปบริจาคเลือดที่สมิติเวชค่ะ นัดกัน 11 โมง แต่ไหน ๆ ออกจากบ้านแล้ว ก็กวาดธุรกรรมที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นทีเดียว เริ่มต้นไปวัฒนาเพื่อซื้อ dvd + cd ดอกไม้แห่งสยามให้เพื่อนที่ไม่สะดวกเดินทางมาเอง รวมทั้งพี่ต้อยด้วย จากนั้นก็ไปเจอพี่ต้อยที่สมิติเวช
ขั้นตอนการบริจาคเลือด ก็กรอกแบบฟอร์ม มีเรื่องขำเล็กน้อย คือมันจะมีคำถามยาวเหยียดประมาณว่าเคยเป็นโรคนั้นนี้ไหม? บลา ๆ ๆ เกือบทุกข้อเราต้องตอบว่าไม่ไง ฉันกับพี่ต้อยก็อ่านลวก ๆ ผ่าน ๆ แล้วกาไม่ๆ  ๆ ๆ หมด 5555555 งานเข้าสองพี่น้องวัฒนาเลย เจ้าหน้าที่ถามว่าข้อนี้...จำไม่ได้ชัดนะคะ แต่คำถามประมาณว่าร่างกายพร้อมที่จะบริจาคเลือกหรือไม่? 555555 แล้วดันตอบว่าไม่ทั้งสองคนเนี่ยะนะ  เป็นแบบสอบถามดักจับคนไม่อ่านแหง ๆ 5555555 ที่สำคัญคือพี่ต้อยน่ะมาครั้งที่ 2 นะคะ หรือครั้งแรกไม่ได้กรอกแบบฟอร์มนี้?
อย่างไรก็ตามก็ไปถึงขั้นตอนการตรวจสอบเลือด ตอนเขาเจาะนิ้วเพื่อตรวจกรุ๊ปเลือด และตรวจสอบคุณภาพของเลือด พี่ต้อยผ่านฉลุย กรุ๊ปเลือดก็เป็นกรุ๊ปที่หายากซะด้วยค่ะ RH+ สำหรับฉันคนดาษดื่นทั่วไป กรุ๊ปเลือดเลยพื้น ๆ สามัญ ๆ O ค่ะ สัญลักษณ์ความรักไม่รู้จบ มาตกม้าตอนเขาหยดเลือดลงในน้ำสีน้ำเงิน...ถ้าเลือดเราพร้อมพลีให้คนอื่น มันก็จะจมและละลายไปกับน้ำนั้น แต่เลือดฉันดันลอยตุ๊บป่อง....เลยต้องตรวจสอบเจ้าเลือดมีปัญหาอีกหน่อย เรื่องของเรื่องคือขาดธาตุเหล็ก เลยทำให้เลือดจางไปหน่อย ต้องเอายาบำรุงเลือดไปกิน 3 เดือน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่อีกที ว้า...เสียเที่ยวแฮะ แต่ครั้งหน้าคงได้บริจาคแน่ ๆ เพราะเจ้าหน้าที่บอกให้ฉันกินวันละ 3 เม็ด จากที่ปกติคนอื่นกินกันวันละเม็ด เท่านั้นยังไม่พอ สั่งให้กินไข่แดง ตับ และผักเยอะ ๆ แสดงว่ากาชาดคงอยากได้เลือดฉันมากเลยซินะ
ในเมื่อมาแล้วเลยดูพี่ต้อยหน่อยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ฉันเป็นคนที่ไม่กลัวเข็มฉีดยาเท่าไร แค่เกรงใจเล็กน้อย สมัยเด็ก ๆ เวลาเขามาฉีดวัคซีนให้ ฉันจะอยู่หัวแถวเสมอ เคยประสบอุบัติเหตุไม้เจาะเท้าเป็นรูโหว่ ก็ยังนั่งดูหมอเขาเย็บได้ แต่ยอมรับเลยว่าอีตอนแรกที่เห็นเข็มสำหรับดูดเลือด..ตกใจและหวั่นใจ...โอ้ว..นั่นมันเข็มฉีดยาหรือท่อน้ำประปาคะ?  แบบว่ามันจะอ้วนไปไหมคะนั่น? เข้าใจว่าเพื่อเลือดจะได้ไหลคล่อง ๆ ใช้เวลาน้อย ๆ แต่มันจะหวาดเสียวตอนเจาะน่ะซิคะ พี่น้องเพื่อนพี่ต้อยเม้นใน fb ว่าโดนครั้งแรกเห็นดาวเลย ชักเครียด 555555 ดีที่ได้กลับมาทำใจก่อน เวลาทำใจตั้งสามเดือน ตอนนี้ผ่านไปแล้วสามวัน หัวใจยังตึกตักอยู่เลย
พี่ต้อยบอกว่าเจ็บเหมือนกันตอนที่โดนท่อประปาทิ่มเข้าเส้นเลือดแต่พยายามนึกถึงคนที่เขาจะได้ประโยชน์จากเลือดถุงนี้แล้ว ก็ทำให้ผ่อนคลายลง มีใจเป็นบุญเป็นกุศลอย่างนี้เลยพี่ต้อย แต่ฉันนี่ซิ 5555555 ไม่ได้อารีขนาดนั้น เปรียบท่อประปาอาจจะเว่อร์เกินไปหน่อย เอาเป็นว่าถ้าเข็มฉีดยาทั่วไปคือหลอดยาคูลท์แล้ว เจ้าเข็มนี่ก็คือหลอดชานมไข่มุก! อยากจะต่อรองขอหลอดกาแฟก็พอ แบบว่าเลือดฉันไม่มีไข่มุกหรอกค่ะ แม้จะชอบกินก็ตาม..
อันที่จริงตอนเล็ก ๆ เคยได้รับการถ่ายเลือดเหมือนกันค่ะ แบบว่าแบเบาะอยู่นะคะ ไม่รู้เจอเข็มแบบไหนเพราะจำความไม่ได้ นานเนิ่นมา 50 ปี 5 เดือน ในเมื่อเราเคยรับเลือดจากผู้อื่น บัดนี้ก็ถึงเวลาเป็นผู้ให้บ้างแล้ว ว่าแล้วก็...ออกไปซื้อไข่ต้มมากินดีกว่า มะรืนนี้ค่อยออกหาตับกิน ..เหอะ ๆ ปี๋ฟ้ามาแล้ว~~
บันทึกนี้ยาวเหยียดซะหน่อยนะคะ เพราะฉันเล่นปรุงเป็นเกาเหลารวมมิตรชามพิเศษ อร่อยหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าอิ่มยาวอีกไปนาน 5555555 สุขสันต์เดือนแห่งความรักค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน .

3 ความคิดเห็น:

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

Parichard Kasemsuwan - เขียนได้สนุกสนานมากจ้ะ.. อ่อง แต่ขอแก้ตัว เอ๊ย แก้ข่าวว่า.. ตอนทำข้อสอบ เอ๊ย แบบสอบถาม.. พี่อ่านทุกข้อ (ครั้งแรกก็ถูกหมดอ่ะ) แต่ตอนกาคำตอบน่ะ เผลอไป.. ก็ตื่นเต้นว่าอ่องมาน่ะซิ!

P'Jane - ong your medley stories are so goody goody..i enjoyed reading so much..u r good as ever..love u jub jub

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

Mulliga Limpianunchai - like yr blog. I never dare to play bowling again and not available on 31.3. Yr writng is so good, r u journalist?

อ่อง นพพร กล่าวว่า...

Ong ja,

I think of you when I had a liver paste that P Nitt (Yuwanit) made for P Oh and I, eating along with a biscuit….soooo good.
I think this menu suits your blood condition now.

Hope you can donate your blood next time na ja.
Be healthier and stronger na ja,
P Eah