วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

110 ปี คุณครูผกาย ชัชกุล

ความรักเป็นสายสัมพันธ์
ไม่ได้มาเยี่ยมคุณครูผกาย 1 ปี ใจหายเล็กน้อยที่เห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากปีก่อนนู้นที่ครูอายุ 108 ปี ครูยังสามารถเดินเองได้ไม่ต้องพึ่งพารถเข็น เป็นผู้ที่อาวุโสสูงสุดในศูนย์อภิบาล แต่เป็นคนเดียวที่ไม่ต้องใช้รถเข็น น่าทึ่งมากค่ะ แต่ปีที่แล้วครูเกิดอุบัติเหตุหกล้ม สะโพกเคลื่อน เลยต้องใช้รถเข็นตั้งแต่นั้นมา
ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เห็นคือ สายตาครูสู้แสงไม่ได้ ต้องเอามือป้องข้าง ๆ ตาเกือบตลอดเวลา ดูเหมือนครูกุมขมับ..มึนจังตรู..ตลอด ไม่ว่าพวกเราจะเข้าไปกราบสวัสดี ก็มึน รายงานตัวตามรายชื่อโพย ก็มึน เอาขนมเค้กวันเกิดไปให้ เปิดกล่องให้ดูขนมเค้กหน้าสวย ๆ ก็มึน เอาการ์ดวันเกิดให้ครูอ่าน ก็อ่านไปมึนไป ร้องเพลงให้ฟัง ก็ฟังแบบมึน ๆ สรุปมึนตลอดรายการ 55555 นพพร..แซวคนแก่อายุ 110 ปีนี่บาปนะจ๊ะ  หนูแซวด้วยความเคารพค่ะ
ครูยังจำครูวรรณดี ครูสาลินี(จำคุณแม่ครูสาลินี) พี่เจน พี่สายสนม ได้ ส่วน 2 นพพร พี่แต๋น ป๊าก ครูพรรณมหา ครูไม่ได้บอกว่าจำได้หรือเปล่า หรืออาจจะบอกแต่ฉันตกหล่นพลาดเหตุการณ์ไป เพราะมัวแต่เก็บภาพ ถึงไม่ได้เก็บภาพก็อาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะทั้งศิษย์ครู ทั้งรุ่นน้อง มะรุมมะตุ้มชุลมุนอยู่รอบตัวครูจนฉันยังมึนแทน ส่วนมากก็จะถามว่าครูขาจำหนูได้ไหมคะ คำถามยอดฮิตที่เด็กวัฒนาต้องถามครูเก่า ๆ ทุกคน ฉันเองว่าต่อไปจะไม่ถามครูแบบนี้แล้วไม่ว่าครูคนไหน เมื่อวันครูที่ผ่านมา..โดนกรรมย้อนศรสนองไปเรียบร้อย  เข็ดค่ะ นพพรเข็ดแล้ว
ปีนี้ครูอายุครบ 110 ปี ครูวรรณดีจึงเชิญศาสนาจารย์มาอธิษฐานอวยพรวันเกิดเป็นกรณีพิเศษด้วย ถึงว่า..ทำไมมีผู้ชายมาด้วย 5555555 แล้วพวกเราก็ร้องเพลงให้ครูฟัง สักพักใหญ่ ๆ ครูเปรยออกมาว่าถึงเวลากินข้าวหรือยัง? เหมือนนพพรเลย มีนาฬิกาปลุกอยู่ที่กระเพาะ พอถึงมื้ออาหารก็จะรู้ทันที พวกเราก็ตามครูไปดูครูกินข้าวกัน เป็นครั้งแรกที่ฉันอยู่ดูครูกินข้าว ปกติพอครูจะเริ่มกินข้าว พวกเราก็กลับกันค่ะ ปีนี้เป็นกรณีพิเศษ
อาหารปั่นเสิร์ฟในชาม มีไข่ต้มครึ่งลูกด้วย ครูตักข้าวกินเองเรื่อย ๆ มีลูกศิษย์ – รุ่นน้องผลัดกันเข้ามาลุ้นถึงขอบจานข้าว เป็นการรับประทานอาหารที่อบอุ่นมาก ครูก็กินไปเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ แต่ก็ไม่อ้อยสร้อย กินตามปกติของครู จนเกือบหมด ก็กินผลไม้เป็นองุ่นค่ะ ทีแรกครูเอาช้อนตัก แต่องุ่นมาเป็นช่อ ฉันจึงจัดแจงเด็ดใส่ชามให้ครู แล้วครูก็หยิบกิน คายเปลือกวางไว้บนโต๊ะ พอกินหมดแล้วครูก็เก็บเปลือกองุ่นลงในชามอย่างเรียบร้อย สมกับเป็นวัฒเนี่ยนจริง ๆ ค่ะ
อันที่จริงครูเรียนจบที่วังหลัง ถือว่าเป็นศิษย์เก่าวังหลัง แต่ก็เคยเข้ามาสอนที่วัฒนาอยู่พักหนึ่งค่ะ ก่อนจะไปสอนที่นั่น ที่นี่ ทั่วไทย เคยไปสอนที่ลำปาง - ปัตตานีด้วย ครูจึงถือว่าเป็นครูของครูของฉัน สุดท้ายก็มาสอนภาษาอังกฤษให้นักศึกษาวิชาพยาบาลของเซ็นต์หลุยส์ ความที่ครูเป็นศิษย์วังหลังได้เรียนกับแหม่มทั้งหลาย ภาษาอังกฤษครูจึงแข็งแรงแม้จนเมื่อครูอายุถึง 110 ปีในวันนี้ อายุครูมากกว่าอาคารทุกหลังในโรงเรียนวัฒนาเสียอีก!
เมื่อครูกินข้าวอิ่มแล้ว พวกเราก็ทยอยกันเข้าไปอ้อนครูส่งท้ายก่อนกลับ บางคนจูบแก้มครู บางคนจูบมือ บางคนให้ครูเล่นผมสีสดใส บางคนกอดครู แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนว่าจะอ้อนรูปแบบไหน ทุกคนจากศูนย์อภิบาลวัดพระวิสุทธิวงส์ด้วยสัญญาใจที่ไม่ต้องกลั่นเป็นคำพูดว่าปีหน้า เราจะมากันอีกครั้ง เพราะ~~ความรักเป็นสายสัมพันธ์ ยึดมั่นใจเราทั้งหลาย ให้สามัคคีไม่มีวันคลาย~~