วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

หมูฝอย..ทำไปก็บ่นไป

นักเล่นกล้ามพลาดไม่ได้
อันสุกรฝอยนั้น จะว่าทำยากก็ยาก ทำง่ายก็ได้ เพราะขั้นตอนไม่มีอะไรมากมาย แต่ต้องอาศัยวิริยะอุตสาหะในการฝอยหมูอยู่บ้าง การทำหมูฝอยนั้นถ้าทำคนเดียวอาจจะน่าเบื่อ แต่ถ้าได้ทำกับเพื่อน ทำไปฝอยไป ก็ช่วยได้กิจอันน่าเบื่อนั้นสนุกสนานขึ้นมาได้อักโขอยู่ค่ะ
หัสแรกเริ่มเดิมทีที่พี่เก็จชักชวนไปทำหมูฝอยที่บ้านนั้น ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ามันจะสำเร็จลุล่วงด้วยดีหรือไม่ แต่หลังจากได้ฝึกปรือฝีมือทำครัวจากพี่ลีผ่านการแชตมา ก็คิด (ผิด ๆ???) ว่าตัวเองนั้นต้องมีพรแสวงแฝงอยู่บ้างแหละน่า  
ไปถึงบ้านพี่เก็จ ก็พบว่าหมูถูกต้มและนำขึ้นพักไว้เรียบร้อยแล้ว  เนื้อหมูที่จะนำมาทำหมูฝอยนั้นต้องเป็นเนื้อล้วนค่ะ จะสันนอก สันในก็แล้วแต่ชอบ ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะแตกต่างกันมาก เพราะยังไงเดี๋ยวก็เอาฝอยละเอียดอยู่ดี ขั้นตอนการต้มที่ถูกต้องนั้น ให้หั่นหมูเป็นชิ้น ๆ ค่อนข้างบาง แล้วต้มด้วยน้ำเกลือ ยิ่งต้มนานก็ยิ่งทำให้หมูนุ่ม เปื่อย ง่ายต่อการฉีก เมื่อต้มได้ที่แล้วให้เอาขึ้นพักน้ำให้แห้งค่ะ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้พี่เก็จได้ทำไว้ ก่อนจะออกไปรับฉันที่ปากซอย ดังนั้นพอกลับมา เนื้อหมูก็สะเด็ดน้ำแห้งสนิทดี
เราก็นำหมูมาทำการฉีก เกิดมาก็ไม่เคยทำหมูฝอย อีตอนที่เห็นหมูก็นึกในใจอยู่ว่า มันจะฉีกง่ายเหรอนั่น เพราะดูน่าจะเนื้อแน่นอยู่  กว่าทั้งชะลอมจะกลายเป็นหมูฝอยเนี่ยะ ถึงเที่ยงคืนจะฉีกหมดไหมนั่น?  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เริ่มแรกพี่เก็จก็แจกชามคนละชาม กับส้อมคนละคู่ แล้วเราก็นั่งฉีกด้วยส้อม นัยว่าเพื่อสุขบริโภค แต่ทำอยู่ 2 ที รู้สึกไม่ถนัดเลยยอมทิ้งอนามัย ใช้มือนี่แหละลงมือฉีก พี่เก็จคงต้มหมูไม่นานพอ ฉันนั่งดูคุณพี่กับตัวเองฉีกด้วยความเร็วที่ไม่น่าประทับใจแล้วก็ท้อ ฉีกไปบ่นขำ ๆ ไปว่าเมื่อไรจะได้กินเนี่ยะ...พรุ่งนี้จะได้กินหรือเปล่า? ในที่สุด ฉันก็เกิดไอเดียว่าลองทุบให้มันยุ่ย ๆ น่าจะแยกอนุภาคง่ายกว่านี้ พี่เก็จก็ลุกไปครัวหาสาก กับเขียงมา แล้วฉันก็ลงมือทุบ ๆ ๆ ๆ จนแบนแต๋ งานนี้พี่เก็จชมเชยว่าไอเดียเริ่ดมาก ฉีกง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ภายในเวลาไม่นาน หมูชิ้นก็กลายสภาพเป็นเส้นฝอย ๆ มองดูคล้ายหมูหยอง
จากนั้นก็ซอยหอมแดง กะเอาค่ะดูว่าหมูมากน้อยแค่ไหน ตอนปอกหอมแดง ขำพี่เก็จมาก ประมาณหยิบแว่นกันแดดมาใส่ หอมแดงมันมี uv เหรอคะคุณพี่? 55555 พี่เก็จบอกว่าก็แว่นกันแดดมันใหญ่ดี แล้วยังเล่าว่าไปได้ยินจากไหนไม่รู้ จุดเทียนระหว่างปอกหอมจะช่วยไม่ให้ร้องไห้เหมือนกัน โอ๊วคุณพี่ขา น้องนึกภาพจุดเทียนรอบห้องครัวตอนปอกหอมแดงแล้วต้องบอกว่าโรแมนติกมาก ๆ 555555555 ซอยหอมแดงเรียบร้อยแล้วก็ตั้งกระทะก่อนค่ะ ยังไม่เจียวหอมนะคะ ก่อนอื่นคั่วงาก่อน ใช้ไฟอ่อน ๆ เทเมล็ดงาลงไปแล้วเอาตะหลิวคนไป ๆ มา ๆ จนงาหอมฉุยดี แล้วก็เทใส่ชามไว้ค่ะ จากนั้นก็ใส่น้ำมันเพื่อเจียวหอมแดง  เคยนึกสงสัยว่าทำไมถึงชื่อหอมทั้ง ๆ ที่ออกเหม็นฉุน ๆ แต่เจียวไป ๆ ตอนมันจะสุกเนี่ยะ หอมดีเหมือนกันค่ะ อย่ามัวเพลินกับกลิ่นหอมล่ะ เดี๋ยวจะไหม้ซะก่อน เอาแค่เป็นสีน้ำตาลก็เอาขึ้นพักน้ำมันไว้ค่ะ
ถ้ามี 2 คน คนหนึ่งคั่วงา-เจียวหอมแดง อีกคนก็จัดการหมูซะ..จะได้ไม่เสียเวลา แต่เผอิญต้องถ่ายรูปด้วย เลยรอ...5555555.... กลับมาที่หมูฝอยในชามหรือกะละมังก็ได้ ใส่แป้งสาลีเล็กน้อย น้ำปลา เกลือ น้ำตาล พริกไทย แล้วคลุกให้เข้ากันค่ะ ลองชิมดูได้ว่าได้รสชาติที่ถูกใจหรือยัง แป้งสาลีใส่ลงไปเพื่อให้หมูกรอบค่ะ แต่ก็ไม่ต้องประเคนใส่เยอะ แค่เล็กน้อยเท่านั้นก็น่าจะทำให้กรอบพอ
เมื่อคลุกหมูเสร็จแล้วก็ใส่น้ำมันลงในกระทะที่เจียวหอมแดงสักครู่ ใส่เยอะหน่อยค่ะ เทหมูลงไปรวน ใช้ไฟอ่อนหน่อยนะคะ เดี๋ยวหมูจะไหม้ ค่อย ๆ คนให้มันออกสีน้ำตาลสวย แล้วก็ปิดไฟ เอาขึ้นใส่ชะลอมให้น้ำมันสะเด็ดให้หมด
แล้วจึงเทงาคั่วกับหอมแดงเจียวลงไปคลุก ๆ ให้เข้ากัน เท่านี้ก็พร้อมเปิบแล้วค่ะ เมนูนี้สามารถเก็บไว้เป็นเสบียงติดครัวไว้ได้นาน ด้วยการใส่ภาชนะแห้งมีฝาปิดมิดชิด แต่ก่อนจะใส่ภาชนะดังกล่าว ควรทิ้งไว้ให้เย็นก่อนค่ะ.
รูปภาพประกอบโดยละเอียด เชิญที่...http://www.facebook.com/album.php?id=587560548&aid=309336

ไม่มีความคิดเห็น: