วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้าวผัดหนำเลี้ยบกับซี่โครงหมูต้มฟัก

สูตรบังเอิญอร่อย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จะไปค้างบ้านพี่เก็จ และจะไปทำอาหารให้เจ้าของบ้านชิม สร้างความตึงเครียดเล็กน้อย เพราะสามีพี่เก็จเป็นผู้ชายที่ทำอาหารอร่อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำให้พี่ขุนกิน แต่พี่เก็จน่าจะคุ้นลิ้นกับอาหารอร่อย ๆ มาหลายมื้อ เกรงจะเสียความมั่นใจ แต่ก็สู้ไปมิได้ไหวหวั่น
บอกพี่เก็จว่าจะทำข้าวผัดหนำเลี้ยบให้กิน พี่เก็จก็บอกว่าเนื้อหมูไม่ต้องซื้อมา ซื้อแต่หนำเลี้ยบมาอย่างเดียว ก่อนวันนัดเจอกันก็เมลบอกให้พี่เขาหุงข้าวไว้แต่เช้าเลย แล้วปล่อยให้เย็น เพราะข้าวร้อน ๆ จะทำให้ติดกระทะค่ะ แต่ลืมบอกไปว่า...ข้าวต้องหุงให้เป็นเม็ดด้วย
ข้าวที่จะนำมาผัดให้อร่อยนั้น ควรหุงให้เป็นเม็ด วิธีการก็ไม่ยากอะไรแค่ใส่น้ำสูงกว่าข้าวประมาณไม่ถึงข้อนิ้วเท่านั้นเอง แล้วข้าวสุกแล้วก็ต้องทิ้งให้เย็น จากนั้นจึงนำมายี ๆ ให้แยกจากกันก่อนจะลงผัด จึงจะได้ข้าวผัดที่ดูน่ากิน และรสชาติอร่อยค่ะ
ตอนเช้าก็เดินไปตลาดสด หาซื้อหนำเลี้ยบกระป๋องสีส้มตราม้าขาวไม่มีอัศวินขี่ ระหว่างนั้นก็คิดว่า..ด้วยนิสัยดูแลสุขภาพของพี่เก็จ กินข้าวผัดอย่างเดียวคงติดคอ น่าจะทำแกงจืดไว้ซดให้คล่องคอ แกงจืดฟักน่าจะดี เพราะฟักมีคุณสมบัติเย็น เหมาะกับอากาศร้อน ๆ เป็นอย่างยิ่ง ตัดสินใจซื้อระนาดซี่โครงหมูด้วย 1 ระนาด จริง ๆ ไม่รู้เรียกอะไร แต่เห็นมันเหมือนระนาดก็เลยเรียกเอาเอง แล้วยังมีผักกาดแก้วไว้กินแก้เลี่ยนอีกด้วย
มาถึงบ้านพี่เก็จ อย่างที่คาดไว้เลย พี่เก็จบอกว่าผักเนี่ย..แอกอนิกส์หรือเปล่า?  เอ้อ...เปล่าหรอกค่ะ พี่เก็จเลยนำไปแช่น้ำ เทน้ำยาเพิ่มสารแอกอนิกส์ (ประชดค่ะ อิอิ)  ก็ล้างซี่โครงหมูที่ซื้อมา คลุกเกลือและรากผักชีตำหมักไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วต้มน้ำให้เดือด ใส่ซี่โครงหมู หรี่ไฟอ่อน แล้วไปนั่งดูพี่เก็จออกกำลังกาย อันน้ำซุปนั้นจะให้อร่อยจริง ๆ ต้องต้มให้นาน ๆ ค่ะ และห้ามคน น้ำจะออกมาใสจ๋องส่งประกายวิ้ง ๆ ถ้ามีเศษเนื้อหลุดลอย ให้ค่อย ๆ ช้อนออก พยายามสร้างความกระทบกระเทือนให้กับน้ำน้อยที่สุด สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำอาหารให้อร่อย...ต้องใจเย็น ๆ ค่ะ...
จริง ๆ แล้วระหว่างการรอน้ำซุป สามารถหั่นผักไว้ก่อนได้ แต่เนื่องจากผักมันไม่แอกอนิก เลยต้องแช่น้ำยานานหน่อย พอพี่เก็จออกกำลังกายเสร็จ ก็บอกว่าหิวแล้ว..ให้รีบทำ...เง้อ...
ก็เลยปอกฟัก หั่นบาง ๆ  ดูสวยและน่ากินกว่าชิ้นหนา ๆ แต่ฟักเป็นผักที่สุกแล้วเละง่าย ดังนั้นให้ใส่ตอนใกล้เวลาจะกินเท่านั้นค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ใส่ปุ๊บกินปั๊บนะคะ ต้องให้เวลาฟักสุกด้วยค่ะ วิธีดูก็คือใส่ฟักลงในน้ำซุปแล้วทิ้งไว้ อย่าคนเด็ดขาดค่ะ อ้อก่อนใส่ฟักก็เติมน้ำปลานิด เกลือหน่อยลงในน้ำซุปชิมดูรสชาติตามที่ชอบค่ะ ตอนที่ชิมอย่าตกใจนะคะ ถ้าน้ำซุปมันหอมเกินไป 555555 ไม่วายเว่อร์เลยจริงจริ๊ง.....ใส่ฟักแล้วก็เฝ้าพอฟักสีเขียวอ่อนเหมือนหยกใส ๆ แล้วก็ยกขึ้นเลยค่ะ เวลาตักใส่ชามให้โรยหน้าด้วยผักชี ใส่พริกไทยลงไปเล็กน้อย
ทีนี้ก็มาทำข้าวผัด เอาหนำเลี้ยบมาบี้ให้เละ ๆ เอาเม็ดออกค่ะ น้ำในกระป๋องห้ามทิ้งนะคะ เพราะนั่นแหละตัวชูรสชูโรงเลยแหละค่ะ หมู...จะสับหรือจะบดก็แล้วแต่สะดวก เอาพริกขี้หนูซอย ต้นหอมซอย มารอพร้อมกับไข่ไก่ค่ะ  เห็นข้าวแล้วกลุ้ม เพราะมันแฉะไปหน่อย แต่ได้โอกาสบอกว่าถ้าไม่อร่อย ก็เพราะข้าวไม่สวยนะเออ 555555555
เริ่มแรกก็ใส่น้ำมัน เอาหมูลงไปผัด ...เอ้อ...มีอีกเรื่องที่จะบอก กระทะที่จะทำข้าวผัดนั้น ถ้ามีกระทะตั้งครรภ์ จะทำข้าวผัดได้ดีกว่ากระทะท้องแบน นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ เพราะมันจะพลิกจะแพลงจะรวนได้สะดวกทั่วถึงกว่าเยอะค่ะ
กลับเข้าเรื่อง ป่านนี้หมูไหม้ไปแล้วมั้ง ชอบนอกเรื่องเรื่อย ...หมูใกล้สุกก็เทหนำเลี้ยบ พริกสดลงไป ผัดจนหมูสุก ถ้าน้ำมันแห้งให้เติมน้ำมันด้วยค่ะ แล้วก็ใส่น้ำหนำเลี้ยบ ลงไป หลังจากนั้นใส่ไข่ลงไป ตอนนี้ต้องรวนเร็ว ๆ หน่อยค่ะ แล้วหรี่ไฟ ค่อย ๆ ตักข้าวไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน พอไข่แห้งก็ปิดไฟ แล้วคลุกต่อให้ทั่วถึง ชิมดู ถ้ายังเค็มไม่พอก็เติมน้ำหนำเลี้ยบค่ะ จากนั้นก็เอาต้นหอมลงไปคลุก ๆ โรยพริกไทยแล้วก็ตักใส่จาน ปักดอกอัญชัน เคียงด้วยผักสดเช่นแตงกวา ผักกาดแก้ว หรือผักสดอื่น ๆ ตามแต่ใจจะไขว่คว้า
แล้วก็นั่งลงรับประทานด้วยความเอร็ดอร่อยพร้อมซดน้ำซุปหอมรากผักชี หวานน้ำต้มกระดูกได้อย่างสำราญใจเลยค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: